เปิ้ล นาคร แจ้งความถูกงัดร้านโคขุน สูญนับแสน

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3

            คนร้ายลอบเข้าไปขโมยทรัพย์สินในร้านเนื้อย่างโคขุน ของเปิ้ล นาคร และร้านติดกัน รวม 2 ครั้ง กวาดทรัพย์สินไปเกือบ 3 แสนบาท เผย กล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพไว้ได้

            เมื่อค่ำวานนี้ (28 ตุลาคม) นายนาคร ศิลาชัย นาคร หรือเปิ้ล อายุ 47 ปี ดารานักแสดงและพิธีกรชื่อดัง เจ้าของร้านอาหารโคขุน คุณทอง สาขาศรีวรา พร้อมด้วย นายภาคิน อดิจรไชย อายุ 55 ปี เจ้าของร้านอาหารบ้านดินเผา เลขที่ 1329/16 ถนนศรีวรา แขวงและเขตวังทองหลาง เดินทางเข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.ชาติชาย เขจรชัย พนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง ขอให้ช่วยติดตามจับกุมคนร้ายที่บุกเข้าไปขโมยทรัพย์สินภายในร้านอาหารทั้งสอง

            โดย เปิ้ล นาคร เล่าว่า เมื่อกลางดึกวันที่ 19 ตุลาคม ขณะที่ร้านปิด ได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวน ลอบเข้าไปในร้านผ่านทางช่องส่งของ แล้วขโมยทรัพย์สินภายในร้าน และภายในห้องแคชเชียร์ของร้าน โดยกวาดเงินสดไปได้ประมาณ 40,000 บาท วิดีโอโปรเจคเตอร์ 3 ตัว สุราต่างประเทศ และบุหรี่ รวมมูลค่าประมาณกว่า 100,000 บาท ซึ่งที่ร้านของตนไม่มีกล้องวงจรปิด จึงไม่สามารถจับภาพคนร้ายได้ ทั้งนี้ ตนกำลังจะเตรียมติดกล้องอยู่แล้ว แต่กลับถูกคนร้ายเข้าไปขโมยเสียก่อน

            เปิ้ล นาคร เล่าต่อว่า จนเมื่อช่วงกลางดึกวานนี้ (28 ตุลาคม) ได้มีคนร้ายเป็นชาย 2 คน เข้าไปขโมยทรัพย์สินที่ร้าน บ้านดินเผา ของนายภาคิน ซึ่งตั้งอยู่ติดกับร้านตน โดยคนร้ายได้เข้าไปในห้องแคชเชียร์ โดยมุดเข้าไปทางช่องรับจ่ายเงิน แล้วกวาดทรัพย์สินไปเป็นเงินสดประมาณ 40,000 บาท ทีวีสี 42 นิ้ว 1 เครื่อง กองกฐินผ้าป่าเพื่อไว้ทำบุญ สุรา และบุหรี่ รวมมูลค่าทรัพย์สินประมาณ 1.5 แสนบาท ซึ่งกล้องวงจรปิดในร้านของนายภาคินสามารถจับภาพ ขณะคนร้ายเข้าก่อเหตุได้ทั้งหมด จึงทำให้ทราบว่าเหตุเกิดเวลาประมาณ 04.30 น.

ซึ่งชายวัยรุ่น 2 คนนี้ มีรูปร่างสันทัด คนแรกไว้ผมยาว ส่วนอีกคนศีรษะล้าน และหลังจากกวาดทรพย์สินได้ ทั้งคู่ก็ได้หลบหนีไปทางหลังร้านอย่างรวดเร็ว จึงคาดว่า คนร้ายที่เข้าไปขโมยของภายในร้านของตนน่าจะเป็นคนร้ายกลุ่มเดียวกัน เพราะใช้วิธีปล้นคล้ายกัน จึงนำภาพจากกล้องวงจรปิดดังกล่าวมาให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้เป็นหลักฐาน ในการติดตามจับกุมคนร้าย

ด้าน ร.ต.อ.ชาติชาย กล่าวว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จะให้ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่หาข่าว รวมทั้งนำภายวงจรปิดที่บันทึกได้ ไปให้พยานที่อยู่ในละแวกใกล้เคียงดูว่า รู้จักคนร้ายหรือไม่ เนื่องจากคาดว่าคนร้ายน่าจะเป็นกลุ่มเดียวกันเป็นคนในละแวกใกล้เคียงที่พยานในร้านจำหน้าได้ว่าเคยทำงานรับรถแถวนั้น ตำรวจนำภาพวงจรปิดมาตรวจสอบพร้อมเตรียมออกหมายจับชายทั้งสองตามต่อไปแล้ว

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก