เลขาธิการศอ.บต.ผลักดันรถไฟรางคู่พื้นที่จว.ใต้ เล็งนำร่องสายยะลา-สุไหงโก-ลก พร้อมเร่งปรับปรุงชานชาลาและโบกี้รถไฟ ขบวนอื่นๆ ระบุเพื่อให้ปชช.ได้รับความสะดวกสบายยิ่งขึ้น หลังลงพื้นที่ร่วมเดินทางไปกับขบวนรถไฟฟรีตามโครงการ 5 มาตรการ 6 เดือน รับฟังความต้องการของคนในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พบพ่อค้าแม่ค้าเฮได้ประหยัดต้นทุนค่าเดินทาง ขอเพิ่มโบกี้ด้วยเพราะยังไม่เพียงพอ ส่วนที่นราฯ ยังเกิดเหตุร้าย โจรใต้วางระเบิดสวนยางไทยพุทธ เจ้าของสวนเข้าไปขุดมันขี้หนู เหยียบกับระเบิดขาหวิดขาด

วันที่ 27 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สถานีรถไฟยะลา พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) พร้อมด้วยผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ศอ.บต. ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมประชาชนผู้โดยสารขบวนรถไฟของสถานีรถไฟยะลา โดยเลขาธิการศอ.บต.และคณะ ได้ร่วมเดินทางในเส้นทางยะลา-สุไหงโก-ลก ไปลงสถานีรือเสาะด้วย โดยใช้บริการรถไฟฟรีเพื่อประชาชนตามโครงการ 5 มาตรการ 6 เดือน เพื่อลดค่าครองชีพของประชาชน ในกลุ่มขบวนรถบริการเชิงสังคมและกลุ่มขบวนรถเชิงพาณิชย์ (รถเร็ว) เฉพาะชั้น 3 เพื่อพบปะกับประชาชนที่ใช้บริการรถไฟดังกล่าว เพื่อรับฟังเสียงสะท้อนและความต้องการที่แท้จริงของประชาชนในพื้นที่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชนส่วนใหญ่พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า บริการรถไฟฟรีตามนโยบายของรัฐบาล สามารถช่วยแบ่งเบาภาระและประหยัดค่าเดินทางของประชาชนระดับรากหญ้าได้มาก เพราะประชาชนที่โดยสารส่วนใหญ่เป็นพ่อค้าแม่ค้าที่ต้องขนสัมภาระจากบ้านเพื่อไปขายยังตลาดในเมือง จึงนับเป็นการประหยัดต้นทุนค่าเดินทาง อย่างไรก็ตาม อยากให้มีบริการตู้โดยสารที่มากกว่านี้ เพราะยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้โดยสาร ตลอดไปจนถึงเรื่องความสะอาดภายในตู้โดยสารที่อยากให้เจ้าหน้าที่ดูแลให้มากยิ่งขึ้น ส่วนเรื่องความปลอดภัยในขณะนี้รู้สึกมั่นใจขึ้นมากเพราะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแล

พ.ต.อ.ทวีกล่าวว่า จากการสอบถามเจ้าหน้าที่การรถไฟฯทราบว่า มีประชาชนใช้บริการเป็นจำนวนกว่าพันคนต่อวัน สิ่งสำคัญคือจะทำอย่างไรที่จะให้ประชาชนกว่าพันคนได้รับความสะดวกสบายมากกว่านี้ การส่งเสริมให้มีรถไฟรางคู่ก็มีส่วนสำคัญที่จะช่วยให้การเดินทางสะดวก รวดเร็วและคล่องตัวขึ้น ที่สำคัญอยากผลักดันให้โครงการรถไฟรางคู่เกิดขึ้นในพื้นที่ อย่างน้อยให้มีขึ้นในรถขบวนยะลา-สุไหงโก-ลกก่อนเพื่อเป็นการนำร่อง ตลอดจนการดูแลในเรื่องทัศนียภาพของชานชาลาและโบกี้รถไฟก็มีส่วนสำคัญที่จะช่วยให้พี่น้องประชาชนได้รับความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น

วันเดียวกัน เมื่อเวลา 09.20 น. พ.ต.อ.ขวัญดี ฉิมพลี ผกก.สภ.เมืองนราธิวาส รับแจ้งเหตุระเบิดภายในสวนยางพารา หมู่ 4 บ้านไม้งาม ต.มะนังตายอ อ.เมือง จ.นราธิวาส ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ. กฤษฎา แก้วจันทร์ดี รอง ผบก.ภ.จว.นราธิวาส พ.ต.ท.กระจ่าง รักษ์ณรงค์ หน.กองพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.นราธิวาส ร.ต.ต.พลวัฒน์ เทพษร รอง หน.ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด นปพ.ภ.จว.นราธิวาส และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารจำนวนหนึ่งรุดเดินทางไปตรวจสอบ

ในที่เกิดเหตุ พบหลุมระเบิดลึก 20 ซ.ม. กว้าง 80 ซ.ม. และมีเศษซากชิ้นส่วนระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในกระป๋องปลากระป๋อง จุดชนวนด้วยระบบเท้าเหยียบ น้ำหนัก 0.5 ก.ก. ตกกระจายเกลื่อนพื้น เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน ส่วนผู้บาดเจ็บพลเมืองดีนำตัวส่งรักษาโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ไปก่อนหน้าแล้ว ทราบชื่อคือ นายเวียง บุญอินทร์สุข อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 65 หมู่ 10 ต.มะนังตายอ อ.เมืองนราธิวาส มีบาดแผลถูกสะเก็ดระเบิดที่ข้อเท้าซ้ายจนฉีกขาดเป็นแผลฉกรรจ์ อาการสาหัส

จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายเวียงได้เดินเข้าไปภายในสวนยางพาราเพื่อขุดมันขี้หนูมาขาย ขณะที่กำลังเดินเข้าไปในสวนยางพาราได้เหยียบกับระเบิดที่คนร้ายลอบนำไปฝังไว้จนเกิดระเบิดได้รับบาดเจ็บ ชาวบ้านที่อยู่ในละแวกใกล้เคียงเห็นเหตุการณ์จึงนำตัวส่งรักษาโรงพยาบาลดังกล่าว ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นการกระทำของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ต้องการสร้างสถานการณ์ป่วนใต้รายวัน