เมื่อ 28 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.สุภธีร์ บุญครอง รอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พ.ต.อ.ธรรมนูญ มั่นคง ผกก.สภ.เมืองพัทยา พ.ต.ท.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.อนรรฆ ประสงค์สุข สว.สส. พร้อมกำลังตำรวจชุดสืบสวน ร่วมกันจับกุมนายนะ อายุ 24 ปี และนายติด อายุ 19 ปี ชาวกัมพูชา ผู้ต้องหาก่อเหตุชิงทรัพย์นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อซัมซุงกาแล็คซี่ 2 เครื่อง โทรศัพท์มือถือยี่ห้อโนเกียร์ 1 เครื่อง กล้องถ่ายรูปดิจิตอล ยี่ห้อแคนนอน 1 ตัว เงินสด 500 บาท กระเป๋าของผู้เสียหาย และอาวุธมีดปลายแหลมที่ใช้ก่อเหตุอีก 1 เล่ม

 

พ.ต.อ.สุภธีร์ เปิดเผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 09.30 น. วันที่ 27 ต.ค. นายนะ กับนายติด 2 คนงานก่อสร้างชาวกัมพูชา ได้ก่อเหตุชิงกระเป๋าของน.ส.เวร่า ซาไรเคว่า อายุ 32 ปี นักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย ขณะผู้เสียหายกำลังเล่นน้ำทะเลกับเพื่อนชายสัญชาติเดียวกันที่ชายหาดวงศ์อำมาตย์ ถ.พัทยา-นาเกลือ ย่านพัทยาเหนือ แต่ระหว่างที่ทั้งคู่กำลังวิ่งหลบหนี นายนะ เกิดซุ่มซ่ามทำมีดปลายแหลมซึ่งพกอยู่ที่เอวของตัวเอง เสียบเข้าที่ต้นขาซ้ายจนเลือดกระฉูดได้รับบาดเจ็บ ก่อนกระเสือกกระสนวิ่งหนีเข้าไปหลบอยู่ในป่าละเมาะใกล้เคียงที่เกิดเหตุ

 

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ระดมกำลังกันทำการปิดล้อมและตรวจค้นที่เกิดเหตุอยู่นานพอสมควรแต่กลับไม่พบตัว เบื้องต้นจึงแจ้งข่าวไปยังโรงพยาบาลและสถานพยาบาลต่างๆ ในเขตเมืองพัทยาให้ทราบเพราะผู้ต้องหาได้รับบาดเจ็บ กระทั่งตำรวจชุดสืบสวนที่ยังคงเฝ้าอยู่จึงตัดสินใจตรวจสอบในป่าละเมาะอีกแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่เกิดเหตุนัก และพบผู้ต้องหาทั้ง 2 คนกบดานอยู่ในสภาพอิดโรย พร้อมกับยึดของกลางทรัพย์สินที่ก่อเหตุมาได้ทั้งหมด ก่อนส่งตัวนายนะ ไปให้แพทย์ รพ.บางละมุง ทำการเย็บบาดแผล ซึ่งผลการจับกุมดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่เร่งรัดให้ตำรวจทุกโรงพักระดมกำลังออกกวาดล้างอาชญากรรมและยาเสพติดในระหว่างวันที่ 25 ต.ค.- 5 พ.ย. 

 

ด้าน นายนะ ให้การรับสารภาพว่า ตนกับนายติด เดินทางจากประเทศกัมพูชามาเป็นคนงานก่อสร้างที่แคมป์แห่งหนึ่งในซอยวงศ์อำมาตย์เป็นเวลานานแล้วจนสามารถพูดภาษาไทยได้ แต่ระยะหลังนายจ้างไม่จ่ายค่าแรงทำให้ไม่มีเงินใช้ ประกอบกับตนไม่ได้กินข้าวมา 3 วันแล้ว จึงตัดสินใจชวนนายติด ลงมือก่อเหตุชิงทรัพย์นักท่องเที่ยวชาวรัสเซียแต่สุดท้ายก็ไปไม่รอด

 

ด้าน พ.ต.อ.ธรรมนูญ ระบุตามคำให้การของผู้ต้องหาที่อ้างว่าทำไปเพราะจำเป็นนั้น เบื้องต้นทางตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ เพราะจากการตรวจสอบพบว่าทั้งคู่ถูกนายจ้างไล่ออกจากงานนานแล้ว และไม่ยอมเดินทางกลับประเทศบ้านเกิด กระทั่งมาสร้างปัญหาให้กับเมืองพัทยาด้วยการก่อเหตุชิงทรัพย์นักท่องเที่ยว ซึ่งภายหลังจึงได้ควบคุมตัว 2 โจรเขมรรายนี้ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป