จากกรณีเศรษฐีเงินกู้ จ.อุดรธานี 3 รายเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองอุดรธานี ว่าถูกแก๊งลวงตุ๋นเอาโฉนดที่ดินปลอมมาวางจำนองเงินกู้ จนสูญเงินไปกว่า 15 ล้านบาท ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้ 3 ราย ทั้งหมดสารภาพว่าซื้อโฉนดปลอมมาจากเจ๊สมจิตร ที่ขอนแก่น โดยมีน.ศ.ฐิตารีย์ หรือเชอรี่ จิตต์ประวัติ อายุ 44 ปี เป็นผู้ชักชวน ตามที่นำเสนอไปแล้วนั้น 

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 27 ต.ค. น.ส.ฐิตารีย์เดินทางเข้ามอบตัวต่อพ.ต.อ.โกวิท เจริญวัฒนศักดิ์ ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี และพ.ต.ต.ชลธิชา อักษร สว.สส.สภ.เมืองอุดรธานี โดยให้การรับสารภาพว่า ซื้อโฉนดปลอมมาจากนางสมจิตร ศิลาวิเศษ และนางศิวลี หรือเจ๊น้อย ซึ่งเคยมีสามีเป็นอดีตนายดาบตำรวจ แต่หย่าร้างกันไปแล้ว และเมื่อซื้อโฉนดมาแล้วก็เอาไปค้ำประกันเงินกู้กับน.ส.นุสรา วุฒิประเสริฐ และนายเฉลียว รักสุข

พ.ต.อ.โกวิทกล่าวว่า สั่งการให้รวบรวมรายชื่อของผู้ต้องหาทั้งหมดที่ผู้เสียหายแจ้งความไว้แล้ว และกำลังตรวจสอบรายละเอียดของโฉนดที่ดินที่มีอยู่มากกว่า 20 รายชื่อ โดยขณะนี้จับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว 4 ราย ซึ่งทั้งหมดซัดทอดไปยังนางสมจิตร ศิลาวิเศษ และนางศิวลี หรือเจ๊น้อย ซึ่งอยู่ใน อ.เมือง จ.ขอนแก่น เป็นคนปลอมแปลงโฉนดที่ดินทั้งหมด สำหรับนางสมจิตรเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ชื่อที่อยู่และภาพใบหน้าแล้ว สามารถขออนุมัติหมายจับได้เลย ส่วนนางศิวลี หรือเจ๊น้อย กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบหลักฐานเพื่อเตรียมออกหมายจับ และเชื่อว่าหากจับทั้ง 2 คนนี้ได้ก็จะสาวไปถึงตัวการใหญ่อีกแน่นอน

พ.ต.อ.โกวิทกล่าวอีกว่า หลังจากเกิดเรื่องเป็นข่าวใหญ่โตขึ้นมาทำให้เจ้าหนี้ที่ปล่อยเงินกู้ต่างหวาดผวาว่าจะมีโฉนดปลอมในครอบครอง เข้าปรึกษากับทางตำรวจแล้วหลายราย ส่วนใหญ่ก็ยังลังเลใจไม่กล้าแจ้งความเพราะกลัวจะไม่ได้เงินคืน อย่างกรณีเสี่ย ป. ปล่อยเงินกู้แถวบิ๊กซี อุดรธานี มีโฉนดอยู่ถึง 13 ใบ ที่กลุ่มผู้ต้องหาแก๊งเดียวกันนำโฉนดไปค้ำประกันแปลงละ 1-4 แสนบาท และเป็นโฉนดปลอมทั้งหมด แต่ก็ยังไม่แจ้งความโดยอ้างว่าจะขอเจรจากับผู้ต้องหาก่อน หากไม่ได้เรื่องก็จะแจ้งความภายหลัง

พ.ต.ต.ชลธิชากล่าวว่า ผู้เสียหายส่วนใหญ่สูญเสียเงินไปจำนวนมากและอับอายที่ถูกหลอก และยังหวังว่าจะได้เงินคืน พวกนี้ตั้งใจมาต้มตุ๋นเป็นขบวนการใหญ่และไม่ใช่มีแค่นี้ เพราะจากแหล่งข่าวยังแจ้งเข้ามาอีกว่ามีนายทุนปล่อยเงินกู้ในเขต อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี ปล่อยกู้ให้ลูกหนี้แล้วกว่า 20 ราย จึงขอแจ้งไปยังผู้เสียหายให้รีบนำหลักฐานมามอบให้ตำรวจเพื่อดำเนินคดีกับกลุ่มต้มตุ๋นแก๊งนี้ ซึ่งเชื่อว่าเป็นผู้ต้องหากลุ่มเดียวกัน