เพศสภาพเกย์แสดงความเป็นชายมากขึ้นเพื่อหวังให้สังคมส่วนใหญ่ยอมรับด้วยเหตุว่า เพศสภาพเกย์ส่วนใหญ่มักถูกสังคมกล่าวหาว่า เป็นผู้ชายที่ผิดปกติ ขาดความเป็นชาย มีความเป็นหญิงสูง  น่ารังเกียจและชื่นชอบความสัมพันธ์ทางเพศที่หลากหลายวิธี 

การแสดงออกที่เน้นความเป็นผู้ชายจะถูกมองว่าดีแต่ถ้าแสดงออกในลักษณะที่เป็นหญิงจะถือว่าไม่ดี ดังนั้นเกย์จึงต้องมีการปรับเปลี่ยนการแสดงออกในบางสภาวะเพื่อต้องการให้เป็นที่ยอมรับของสังคมและครอบครัว

นายปุรินทร์ นาคสิงห์ อาจารย์ประจำคณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาเกษตรศาสตร์กล่าวในงานเสวนาความเป็นชายในวัฒนธรรมเกย์ไทยว่า  เพศสภาพเกย์จะสร้างความหล่อ แมน และความเป็นฝ่ายรุกในกิจกรรมทางเพศ เพื่อลดปฏิกิริยาเชิงลบจากสังคมภายนอก ต้องทำให้ตนเองนั้นมีคุณค่า

ด้วยเหตุว่าสังคมนิยามความเป็นชายไว้แตกต่างแตกต่างกัน ดังนั้นการสร้างภาพว่ามีความเป็นชายของเพศสภาพเกย์จึงเกิดขึ้นได้เพราะเพศสภาพเกย์แต่ละคนย่อมสร้างรูปแบบตัวเองตามที่สังคมส่วนใหญ่คาดหวังให้เป็น ดังนั้นเพศสภาพเกย์จะต้องออกไปสู่สังคมขนาดใหญ่ก็ต้องลดทอนความเป็นหญิง ตั้งแต่วาจาและการแสดงออกหรือที่สังคมเกย์เรียกกันว่า "แอ๊บแมน" นั่นเอง

ด้านนายรณภูมิ สามัคคีคารมย์ นักศึกษาปริญญาเอก คณะสังคมศาสตร์การแพทย์ มหาวิทยาลัยมหิดลกล่าวถึงความเป็นชายในเพศสภาพเกย์ว่า สังคมไทยมีเพศสภาพเกย์ที่หลากหลายมาก จากที่เคยศึกษามานั้นสังคมเกย์จะต้อง หล่อ สะอาดและมีกล้ามเนื้อ ถ้าจะให้มีความเป็นเพศสภาพเกย์อย่างสมบูรณ์แบบก็ต้องมีหนวด เหตุเพราะจะไปเชื่อมโยงกับความเป็นชายที่สังคมส่วนใหญ่ให้การยอมรับ แล้วปัจจุบันนี้เทคโนโลยีทางการแพทย์สามารถช่วยให้เกย์เปลี่ยนรูปร่างหน้าตาและบุคคลิกภาพให้ดูเป็นความเป็นชายที่สังคมคาดหวังได้ง่ายขึ้น

นอกจากนี้ยังมีส่วนประกอบอื่นอีกเช่น กระเป๋า เสื้อผ้า นาฬิกา ก็ต้องเลือกสีเลือกยี่ห้อให้มีความเป็นหญิงน้อยที่สุด แม้กระทั่งโทรศัพท์เคลื่อนที่ หากใช้บีบีก็อาจจะโดนมองว่าเป็นหญิงมากเพราะจะใช้สำหรับการแชท ซึ่งเป็นลักษณะนิสัยผู้หญิง ถ้าใช้เป็นไอโฟนก็ควรเลือกที่เป็นสีดำเพื่อที่จะให้ความรู้สึกว่าแมนกว่าใช้สีขาว

ส่วนนายกันณัฎฐพน ฉัตร์สุภานาคกนก นายแบบนิตยสารเกย์กล่าวถึงประสบการณ์การเป็นเพศสภาพเกย์ไว้อย่างน่าสนใจว่า เพศสภาพเกย์ต้องสร้างตัวเองให้สมบูรณ์แบบที่สุดพื่อให้สังคมส่วนใหญ่ยอมรับยอมรับ ต้องดูดีในสายตาของคนอื่นและปรับตัวไปตามบทบาทหน้าที่ทำอยู่  โดยส่วนตัวทำงานประจำคือเป็นพนักงานธนาคารก็ต้องแต่งตัวเรียบร้อยแสดงกิริยาที่เหมาะสมในสถานที่ทำงาน แต่เมื่อออกไปทำงานพิเศษคือ นายแบบก็ต้องแสดงกิริยาอีกแบบเพื่อให้เข้ากับงาน  ส่วนเรื่องการทำตัวให้ดูดีนั้น เพศชายที่เข้าสถานความงามส่วนใหญ่จะเป็นเพศสภาพเกย์เพื่อปรับเปลี่ยนรูปร่างหน้าตาให้ดูดีขึ้น  รวมไปถึงการเข้าฟิตเนสเพื่อดูแลหุ่นและให้ดูแข็งแรง

โดยส่วนตัวเข้าฟิตเนสวันละ3-4ชั่วโมงเลย ทำให้บางคนอาจจะยังแยกเกย์กับผู้ชายไม่ออก แม้กระทั่งคนที่มีลูกมีภรรยาแล้วเป็นเกย์ก็มี ทั้งหมดที่ทำไปเพื่อนำเสนอภาพทางสังคมให้รู้สึกว่า  มีความเป็นเพศสภาพชายกว่ามากเพศสภาพหญิง เพราะสังคมจะยอมรับเกย์ที่มีความเป็นชายมากกว่า

จะเห็นได้ว่า การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ก็เป็นเรื่องที่น่าเห็นใจไม่น้อย นั่นเป็นเพราะการที่ถูกเรียกว่าเพศที่สามนั้นก็เป็นการตัดสินว่าผิดปกติ จึงทำให้เกิดการสร้างภาพลักษณ์ในการแสดงออกเพื่อปกปิด ทั้งที่จริงแล้วควรจะได้รับการยอมรับจากกคนทั่วไปถึงตัวตนในลักษณะเช่นนี้  อาจแปลว่าได้ความเท่าเทียมในการแสดงออกของเพศก็ยังไม่เกิดขึ้นอย่างแท้จริงในสังคมนั้นเอ