วันที่ 26 ต.ค. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า ที่สนามม้านางเลิ้ง องค์การพิทักษ์สยามและภาคีเครือข่ายนำโดย พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธ์ พลเรือเอกชัย สุวรรณภาพ น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ พลเอกณัฐชัย เพิ่มทรัพย์ พลเอกปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ ประธานองค์กรอุณาโลม ร.ต.แซมดิน เลิศบุษย์ แกนนำกองทัพธรรม พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำกลุ่มพันมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยและกองทัพธรรม นายวิรัตน์ รัตน์ชาติ แกนนำองค์การพิทักษ์ปกป้องมาตุภูมิแห่งประเทศไทย นายสมพจ ปิยะอุย รองประธานองค์การพิทักษสยาม ร่วมจัดแถลงการณ์แนวทางการชุมนุมต่อต้านรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 28 ต.ค. ที่สนามม้านางเลิ้ง ตั้งแต่เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป
พล.อ.บุญเลิศ กล่าวว่า สาเหตุที่องค์การพิทักษ์สยาม จะจัดการชุมนุมที่สนามม้านางเลิ้งนั้น เพื่อให้นักวิชาการที่มาความรู้ มาให้ข้อมูลที่ถูกต้องแก่ประชาชน โดยกิจกรรมดังกล่าวจะจัดขึ้นภายในสนามม้าเท่านั้น สาเหตุที่กลุ่มองค์การพิทักษ์สยามออกมาเคลื่อนไหวเพราะต้องการหยุดยั้งรัฐบาลตามเรื่องที่ตนได้เสนอไปแล้วถึงความบกพร่องของรัฐบาล3ประการด้วยกัน ได้แก่ 1.รัฐบาลนี้มีการจาบจ้วง และละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์ นับตั้งแต่ชุดรัฐบาลของ พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร ในปลายปี พ.ศ.2544 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน 2.รัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลหุ่นเชิดของพ.ต.ท.ดร.ทักษิณฯ ที่ชักคอยใยอยู่เบื้องหลัง บริหารแผ่นดินไร้ประสิทธิภาพ ขาดคุณธรรม 3.มีการทุจริตคอรัปชั่นอย่างกว้างขวางและต่อเนื่อง โดยวันที่ 28 ต.ค. จะมีนักวิชาการที่มีความรู้ความสามารถ มาให้ความรู้แก่ประชาชน โดยให้ประชาชนนำข้อเท็จจริงที่ได้ นำไปบอกสู่สังคม โดยสิ่งที่ตนเองได้กระทำลงไปนั้นทำไปด้วยจิตใจที่รักชาติ อยากเห็นประเทศไทยกลับไปสู่ความสันติสุข
ด้านน.ต.ประสงค์ กล่าวว่า ตนได้รับเชิญจากเสธ.อ้าย ซึ่งก็มีความยินดีเพราะเป็นหน้าที่หนึ่งของคนไทย ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญได้ระบุไว้ในมาตราที่ 70 และ 71 ว่า "คนไทยหรือบุคคลมีหน้าที่ในการพิทักษ์รักษาชาติศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข และมาตรา 71 กล่าวไว้ว่า คนไทยมีหน้าที่ในการป้องกันประเทศ และรักษาผลประโยชน์ของชาติมิให้ถูกทำลาย" ซึ่งหน้าที่นี้เป็นของคนไทย แต่ถ้าเป็นข้าราชการจะมีวันปลดเกษียณซึ่งหมายถึงการหมดหน้าที่ แต่หน้าที่ของคนไทยตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ หน้าที่ที่ได้กล่าวเอาไว้ไม่มีวันปลดเกษียณ ตั้งแต่เกิด ไปจนถึงวันตาย ซึ่งสิ่งที่ตนได้ออกมาเคลื่อนไหวในครั้งนี้ ตนมาในหน้าที่ของคนทยคนหนึ่งเท่านั้น และเล็งเห็นถึงอุดมคติในการทำงานขององค์การฯ
น.ต.ประสงค์ กล่าวต่อว่า ในวันที่ 28 ต.ค. ตนจะเปลี่ยนสนามม้า ให้กลายเป็นสนามกู้ชาติ และตนไม่ใช่อีแอบที่คอยชักใยอยู่เบื้องหลัง ซึ่งความเป็นจริงแล้วตนนั้นอยู่แถวหน้าสุด ถ้าหากว่าประชาชนมาความต้องการสร้างชาติบ้านเมื่อง แต่คนที่เป็นอีแอบที่แท้จริงนั้นคือคนหนีคุกอยู่นอกประเทศ รวมถึงกลุ่มที่คอยแอบไปคบหากันที่ต่างประเทศ" น.ต.ประสง กล่าว
ด้านเรือตรีแซมดิน กล่าวว่า ตนและกองทัพธรรมยินดีและเต็มใจสนับสนุนชุมนุม ซึ่งประชนชนต่างรู้ถึงความเสื่อมของรัฐบาลนั้นมีเยอะ แต่ขาดการขับเคลื่อนอย่างแท้จริงและจริงจัง โดยจะสนับสนุนการจัดกิจกรรมในเรื่องของ อาหาร,น้ำดื่ม ความสะอาด การรักษาพยาบาล โดยขอยืนยันว่าการชุมนุมครั้งนี้เป็นการชุมนุมที่ถูกกฏหมาย ซึ่งการที่จัดกิจกรรมนี้ขึ้นเพื่อให้ประชาชนได้รับรู้ถึงความจริงนั้น รัฐบาลก็ควรที่จะเปิดโอกาสถึงแม้ข้อมูลดังกล่าวจะทำให้รัฐบาลเสียหาย แต่ก็เสียหายเพราะเกิดจากความเป็นจริง ซึ่งถ้าข้อมูลที่ได้นำเสนอไปนั้นเป็นข้อมูลเท็จ ก็สามารถฟ้องร้องได้
ด้านพลเรือเอกชัย กล่าวว่า การบริหารบ้านเมืองนั้น ไม่ใช่การขายก๋วยเตี๋ยว ไม่ใช่นำใครมาบริหารก็ได้ถ้าเกิดความเสียหายแล้วมักจะแก้ยาก และตนได้มองเห็นถึงการทุจริตคอรัปชั่นที่มีมากขึ้น ตนจึงมีความเห็นว่า นักการเมืองส่วนมากเป็นภัยต่อรัฐและปชช.
นายสมพจ กล่าวว่า รัฐบาลนี้หมดความชอบธรรม หมดความไว้วางใจ และหมดสิทธิที่จะบริหารประเทศต่อไป
พลเอกณัฐชัย กล่าวว่า ตนเองขอยืนยันด้านความปลอดภัย ซึ่งตนเองได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล ผกก.สน.นางเลิ้ง ให้ร่วมประชุมจัดการการดูแลการประชุม และมั่นในว่าการประชุมจะเป็นไปด้วยความปลอดภัย
ด้านพล.อ.บุญเลิศ กล่าวต่อว่า ในวันที่ 28 ต.ค.จะมีการจัดเวทีคู่ขนานกันเกิดขึ้นที่ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยกลุ่มมีประชนชนชาวไทยที่อาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก โดยใช้ชื่อเวที "ชมรมองค์การพิทักษ์สยาม" และจะมีการโฟนอินระหว่างเวทีดังกล่าวด้วย และพล.อ.บุญเลิศ เปิดเผยรายชื่อนักวิชาการที่จะมาให้ความรู้ในวันชุมนุม ซึ่งมีรายนามดังนี้ พล.อ. ปฐมพงศ์ เกษรศุกร์ คุณพิเชฏฐ พัฒนโชติ คุณชัยวัฒน์ สุรวิชัย และสมาชิกเครือข่ายกองทัพปลดแอกประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เป็นต้น