ศึกน้ำอัดลมเดือดช่วงโค้งสุดท้ายก่อน 1 พ.ย.วันสิ้นสุดสัญญาเป๊ปซี่-เสริมสุข ด้านเสริมสุขชิงออกทีเซอร์ "เอส" พร้อมส่งจดหมายถึงลูกค้าทั่วประเทศประกาศความพร้อมให้บริการ ด้านโค้กชิงตัดหน้า "เป๊ปซี่" จัดแถลงข่าวก่อน 1 วัน ทุ่มหลัก 100 ล. บุกไตรมาส 4 ปูพรมแจกโค้ก 1 ล้านขวดทั่วประเทศ หวังสร้างกระแส ขณะที่เป๊ปซี่เปิดตัว "เอเย่นต์" 28 รายทุกภาค ย้ำความมั่นใจมีของขายแน่นอน
ตลอดสัปดาห์นี้ถือเป็นช่วงเวลาที่ตื่นเต้นเร้าใจที่สุดของตลาด "น้ำอัดลม" บ้านเราก็ว่าได้ เมื่อทั้ง 3 ค่ายโค้ก, เป๊ปซี่ และเสริมสุข ต้องชิงไหวชิงพริบกันทุกชั่วโมง เพื่อนับถอยหลังสู่วันที่ 1 พฤศจิกายน ซึ่งจะเป็นวันสิ้นสุดสัญญาระหว่างเป๊ปซี่และเสริมสุข สัปดาห์นี้จึงทั้ง 3 จึงเตรียมประกาศ "ความพร้อม" ของตัวเอง รวมถึงแผนการรบเพื่อส่งสัญญาณไปถึงบรรดาลูกค้า พันธมิตร ที่เป็นทั้งร้านค้า ทั้งโมเดิร์นเทรด และเทรดดิชั่นนอลเทรด รวมถึงร้านอาหาร เป็นการช่วงชิงความได้เปรียบในจังหวะสำคัญ เพื่อสามารถ "ออกสตาร์ต" ได้แบบ "ติดปีก" ทันทีหลังเสียงลั่นไกสิ้นสุดลง
ร่อนจดหมายเรียกความเชื่อมั่น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้บริษัท เสริมสุข จำกัด(มหาชน) ได้มีการส่งจดหมายไปยังลูกค้าที่เป็นทั้งร้านอาหาร ร้านค้าปลีก เพื่อประกาศความพร้อมของบริษัทหลังวันที่ 1 พฤศจิกายน ซึ่งจะเป็นวันสิ้นสุดสัญญาในการเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มเป๊ปซี่ โดยเนื้อความในจดหมายระบุว่า เสริมสุขซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์คุณภาพของคนไทยที่ครองใจผู้บริโภค มานานเกือบ 60 ปี มีเครือข่ายที่แข็งแกร่งทั้งร้านค้าและร้านอาหารกว่า 200,000 ร้าน มีพนักงานกว่า 8,000 คน พร้อมโรงงานผลิตเครื่องดื่ม 5 แห่ง รวมสาขาและสำนักงานย่อยกว่า 50 แห่ง เพื่อให้บริการลูกค้าได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศโดยบริษัทยังมีแผนแนะนำ "เครื่องดื่มน้ำอัดลมใหม่" ซึ่งเป็นเครื่องดื่มน้ำอัดลมคุณภาพสูงมาตรฐานสากล โดยจะเริ่มวางจำหน่ายในตลาดในวันศุกร์ที่ 2 พฤศจิกายนนี้ นอกจากนี้ยังย้ำให้เกิดความมั่นใจว่า ทีมงานของเสริมสุขชุดเดิมยังคงดูแลให้บริการลูกค้าอย่างเต็มกำลัง พร้อมทั้งยังคงสนับสนุนตู้แช่สินค้า อุปกรณ์สื่อป้ายโฆษณา รวมทั้งกิจกรรมโปรโมชั่นเต็มรูปแบบ เพื่อสร้างการรับรู้ให้กับผู้บริโภคอย่างรวดเร็ว
"จากการสำรวจความคิดเห็นของผู้บริโภคพบว่า ส่วนใหญ่ชื่นชอบรสชาติเครื่องดื่มน้ำอัดลมใหม่ของเสริมสุข และจะซื้อดื่มเองอย่างแน่นอน" ข้อความในจดหมายระบุ
ล่าสุด เสริมสุขได้มีการเปิดตัวเฟซบุ๊กแฟนเพจ http://www.facebook.com/estcola เพื่อเริ่มประชาสัมพันธ์กิจกรรมให้ผู้บริโภคเข้าไปร่วมสนุกเพื่อเจาะคนรุ่นใหม่ โดยขณะนี้มีแฟนเพจอยู่ที่หลักร้อยคน
โค้กชิงกระแสแจกฟรี 1 ล้านขวด
ด้านโคคา-โคลา ซึ่งแถลงกลยุทธ์การตลาดไตรมาส 4 ในวันที่ 24 ตุลาคมนี้ โดยชิงตัดหน้าเป๊ปซี่ที่จัดงานแถลง "ทิศทางธุรกิจเครื่องดื่มของเป๊ปซี่ โค อิงค์ ในประเทศไทย" ในวันที่ 25 ตุลาคม โดยเตรียมงบฯหลักร้อยล้านบาทบุกตลาดช่วงโค้งท้ายของปี
นอกจากนี้ โคคา-โคลายังถือโอกาสให้วันที่ 25 ตุลาคมเป็นวัน "C Day" "โค้ก" สุขซ่าสดชื่นทั่วไทย โดยจะมีการแจกโค้กฟรี 1 ล้านขวดทั่วประเทศ พร้อมจัดงานคอนเสิร์ตเดินกลยุทธ์ "มิวสิกมาร์เก็ตติ้ง" ณ ลานหน้าอาคารสำนักงาน ดิ ออฟฟิศ แอต เซ็นทรัลเวิลด์ อย่างยิ่งใหญ่
ขณะเดียวกันตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาได้มีการเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ที่มี "แพนเค้ก" เป็นพรีเซ็นเตอร์ เพื่อตอกย้ำแบรนด์ โพซิชันนิ่ง "ต้องซ่า ต้องกล้า ต้องโค้ก" เพื่อมัดใจผู้บริโภคกลุ่มวัยรุ่น
เป๊ปซี่เปิดตัวเอเย่นต์ทั่วประเทศ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 25 ตุลาคมในช่วงค่ำนั้น เป๊ปซี่จะมีการจัดงานฉลองครบรอบ 60 ปี เป๊ปซี่อยู่คู่คนไทย ภายใต้คอนเซ็ปต์ "PEPSI : Yesterday, Today & Tomorrow" ในฐานะ "แบรนด์ในดวงใจ" สามารถครองใจผู้บริโภคชาวไทยมาอย่างยาวนานนับตั้งแต่ปี 2495
แหล่งข่าวจากเอเย่นต์เป๊ปซี่เปิดเผยว่า ในวันนั้นจะมีเอเย่นต์ของเป๊ปซี่ไปร่วมงาน โดยเป๊ปซี่จะประกาศความพร้อมด้วยการแนะนำเอเย่นต์ทั้ง 28 รายทั่วประเทศ แบ่งเป็นกรุงเทพฯ 8 ราย ภาคกลาง 8 ราย อีสาน 6 ราย เหนือ 4 และใต้ 2 ราย พร้อมกันนี้ยังมีพันธมิตรหลักที่เป็นร้านอาหารค่ายหลัก ๆ อาทิ ยัมแบรนด์ส ที่มีเคเอฟซี และพิซซ่า ฮัท ฯลฯ ซึ่งยังเป็นพันธมิตรอย่างเหนียวแน่น
กลยุทธ์หลักในช่วงแรกจะใช้ "ไซซิ่ง" ในรูปแบบกระป๋อง และขวดเพ็ตในขนาดใหม่ออกมาแนะนำให้กับผู้บริโภค อาทิ 1.45 ลิตร ซึ่งเป็นขนาดสุดคุ้ม รวมถึงขนาด 410 มล. 440 มล. 445 มล. 505 มล. เป็นต้น โดยเน้นเข้ามาในช่องว่างของขนาดที่คู่แข่งรายอื่น ๆ ไม่มี
"เนื่องจากเป๊ปซี่ไม่มีขวดแก้ว ซึ่งเท่ากับยอดถึงครึ่งหนึ่งที่หายไป ดังนั้นจึงต้องมีการรุกหนักในแพ็กเกจจิ้งขวดเพ็ตและกระป๋อง โดยจะชูเมสเซจที่ว่าขนาดสุดคุ้ม ส่วนการประกาศความพร้อมด้านเอเย่นต์นั้นก็เพื่อสร้างความเข้าใจให้กับผู้บริโภครับรู้ว่า หลังวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ เป๊ปซี่ยังมีของขายแน่นอน" เอเย่นต์เป๊ปซี่ระบุ
แหล่งข่าวในวงการน้ำดำระบุว่า ขณะนี้สิ่งที่เป๊ปซี่ต้องพยายามมากที่สุดคือ การรักษาฐานลูกค้าเดิมของบริษัทไว้ให้ได้ โดยเฉพาะเชนร้านอาหารในศูนย์การค้า ซึ่งจะให้บริการในรูปแบบของ "เครื่องกดน้ำอัดลม" หรือโพสต์มิกซ์ ขณะที่ร้านอาหารรายย่อยทั่วไปอาจเสียเปรียบคู่แข่งเพราะต้องมีขวดแก้วจำหน่าย รวมถึงร้านค้าในโมเดิร์นเทรด "ขณะนี้เป๊ปซี่ต้องรักษาฐานเดิมที่มีอยู่ให้ได้ ไม่เกี่ยงว่าจะเป็นเงื่อนไขอย่างไรก็ตาม"