วันนี้ ( 25 ต.ค. ) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงกัวเตมาลาซิตี ประเทศกัวเตมาลาว่า ชาวมายันในกัวเตมาลาเรียกร้องให้รัฐบาล และกลุ่มบริษัทท่องเที่ยวหยุดบิดเบือนเนื้อหาในปฏิทินมายา ที่ระบุเนื้อหาเกี่ยวกับคำทำนายวันสิ้นโลก และฉวยโอกาสใช้เรื่องดังกล่าวในการแสวงหาผลประโยชน์
นายเฟลิเป โกเมซ ผู้นำสหพันธ์ชาวมายัน กล่าวเมื่อวันพุธ คัดค้านทุกการกระทำของภาครัฐและเอกชน ที่แสดงถึงการบิดเบือนความจริงเกี่ยวกับปฏิทิน และตำนานพื้นบ้านของชาวเผ่ามายา เนื่องจากมีภาพยนตร์และสารคดีจำนวนมาก เผยแพร่เรื่องราวว่าโลกกำลังจะถึงกาลอวสานในวันที่ 21 ธ.ค. นี้ โดยอ้างการอาศัยหลักฐานจากการคำนวณในปฏิทินมายา
นอกจากนี้ นายโกเมซยังเรียกร้องให้ทุกฝ่ายทบทวนแผนการจัดงานเฉลิมฉลอง “วันสิ้นโลก” ที่ชาวมายันต่างมองว่า เป็นการแสดงออกที่ไม่ให้เกียรติ และเป็นการลบหลู่อารยธรรมของชาวมายัน หลังกระทรวงวัฒนธรรมกัวเตมาลาประกาศเตรียมจัดงานอย่างยิ่งใหญ่ในวันดังกล่าว คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 90,000 คน เช่นเดียวกับบริษัทท่องเที่ยวหลายแห่งที่พากันนำเสนอแพ็คเกจทัวร์นำนักท่องเที่ยวมาสัมผัสประสบการณ์ในวันที่เชื่อกันว่า จะเป็นวันสุดท้ายของการมีอยู่ของโลกมนุษย์อีกด้วย
นายโกเมซยังอ้างคำกล่าวของผู้เชี่ยวชาญด้านโบราณคดี ที่ยืนยัน และอธิบายว่า วันที่ 21 ธ.ค. 2012 เป็นเพียงวันสิ้นสุดรอบปฏิทินมายา มิใช่วันสิ้นโลกตามที่คนส่วนใหญ่เข้าใจ ซึ่งชาวมายันเชื่อว่า จะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่บนโลก เพื่อให้เกิดสมดุลระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ
อย่างไรก็ตาม ชุมชนชาวมายันเตรียมจัดพิธีศักดิ์สิทธิ์ใน 5 เมืองของกัวเตมาลา ในวันที่ 21 ธ.ค. เช่นกัน นายโกเมซจึงขอให้รัฐบาลหันมาให้ความสนับสนุน และประชาสัมพันธ์พิธีโบราณของชาวมายันนี้ มากกว่าการุม่งโฆษณาแต่แนวคิดวันสิ้นโลก
ปัจจุบัน กัวเตมาลามีประชากรราว 15 ล้านคน ในจำนวนนี้กว่าครึ่งสืบเชื้อสายมาจากชนเผ่ามายา ขณะที่ปฏิทินมายานั้น 1 ปีประกอบด้วย 18 เดือน เดือนละ 20 วัน บวกกับเดือนศักดิ์สิทธิ์ ที่เรียกว่า “มาเย็บ” ซึ่งมีเพียง 5 วัน ส่วนปฏิทินรอบยาวของชาวมายันจะแบ่งออกเป็นช่วงเวลาละ 400 ปี เรียกว่า “บักตุน” โดย 1 ยุคสมัย แบ่งเป็น 13 บักตุน บักตุนละ 400 ปี รวมเป็น 5,200 ปี ซึ่งวันที่ 21 ธ.ค. นี้ตรงกับวันสิ้นสุดบักตุนที่ 13 พอดี