เป็นเรื่องแล้ว! แรงเงา เนื้อหาแรง จวกทำภาพลักษณ์หญิงไทยเสื่อม


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก thaitv3.com

            มูลนิธิหญิงไทยก้าวไกล ติง แรงเงา เนื้อหารุนแรงเกินเหตุ ควรปรับเวลาฉายเป็น 22.00 น. เพื่อป้องกันเด็กและเยาวชนติดภาพลักษณ์หญิงไทยแบบผิด ๆ พร้อมวอนผู้จัด และ วธ. ส่งเสริมบทบาทหญิงไทยในเชิงสร้างสรรค์

            เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ที่ผานมา นายจเด็จ เชาน์วิไล ผู้อำนวยการมูลนิธิหญิงไทยก้าวไกล ได้กล่าวถึงกระแสละครเรื่อง "แรงเงา" ที่กำลังออกอากาศทางไทยทีวีสีช่อง 3 ว่า ละครเรื่องนี้ส่งผลกระทบที่เห็นชัดเจนในสังคม คือ เนื้อหาของละครตอกย้ำค่านิยมเดิม ๆ เกี่ยวกับผู้ชายเป็นใหญ่ในครอบครัว และมีภรรยาได้หลายคน ขณะเดียวกันยังตอกย้ำเรื่องการแก้ปัญหา ให้ฝ่ายผู้หญิงเป็นคนหาทางออกเอง เช่น ภรรยาไปตามล่ากิ๊กสามี ส่วนผู้หญิงอีกฝ่ายตามมาล้างแค้น ซึ่งไม่ใช่ทางออกที่สร้างสรรค์ ทั้งนี้ ปัจจุบันละครลักษณะนี้มีหลายช่อง วนเวียนอยู่แต่กับการใช้ความรุนแรง ใช้ภาพตบตีอย่างชัดเจน ซึ่งความเป็นจริงของสังคมก็ไม่ได้มีกรณีเช่นนี้เกิดขึ้นมากมายนัก แต่ละครทำให้ดูเหมือนสังคมไทยเป็นแบบนี้

            นายจเด็จ กล่าวต่อว่า ไม่ควรมีการสื่อภาพของผู้หญิงไล่ตบกันแบบในละคร โดยเฉพาะช่องที่ออกอากาศ พยายามสื่อตัวเองในการเป็นทีวีเพื่อครอบครัว ทีวีเพื่อสังคม แต่หากสื่อละครลักษณะนี้ออกมา ก็จะขัดแย้งกับสิ่งที่ตัวเองพูด ทั้งนี้ ทางออกระยะสั้นเสนอว่า ต้องตรวจสอบมาตรการเรื่องเรตติ้ง เพราะคนดูยังเป็นเยาวชน และละครควรฉายดึกกว่านี้ คือ ตั้งแต่เวลา 22.00 น.ขึ้นไป ซึ่งเป็นเวลาที่เด็กเข้านอนแล้ว ส่วนระยะยาว เรื่องกฎหมายต้องมีมาตรการปฏิรูปสื่อ ซึ่งขยายจากประเด็นละครไปถึงสื่อโฆษณาที่ไม่สร้างสรรค์

            ส่วนในด้านเนื้อหา นายจเด็จ กล่าวว่า ก็ควรมีการปรับเนื้อหาใหม่ เพราะสถานภาพของผู้หญิงในปัจจุบันได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว เช่น บทบาทการเป็นผู้บริหาร ทำไมไม่สื่อออกมาบ้าง แล้วประเทศไทยก็มีนายกรัฐมนตรีเป็นผู้หญิง แต่สวนทางกัน ควรมีละครที่ผู้หญิงมีศักยภาพเปลี่ยนแปลงสังคม กระตุ้นให้ผู้หญิงออกมาจากภาพที่วัน ๆ แค่ไปทะเลาะกับภรรยาน้อย ตามล่ากิ๊ก ทั้งที่คนก็ตั้งคำถามว่า สังคมไทยก็มีบทบาทดี ๆ ของผู้หญิง แต่ทำไมละคร หรือโฆษณากลับตอกย้ำภาพพจน์แค่สวย หุ่นดี วนเวียนอยู่แค่นี้

            อย่างไรก็ตาม นายจเด็จ ยังฝากไปถึงกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ที่ดูแลด้านเรตติ้งของสื่อว่า ต้องดูแลให้มากกว่านี้ โดยต้องปฏิรูปการทำงานเสียใหม่ และหาทางเข้าไปมีส่วนร่วมกับ กบว.ช่อง ไม่ปล่อยให้พิจารณากันเอง ไม่เช่นนั้น ปัญหาเดิม ๆ ก็จะวนเวียนอยู่อย่างนี้ ซึ่งกระทรวงวัฒนธรรม ต้องนำไปสู่การสร้างวัฒนธรรมของสังคม แต่หากปล่อยไปเช่นนี้ แสดงว่าทางกระทรวงไม่ได้ทำหน้าที่ตนเอง

 

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก

Credit: http://drama.kapook.com/view49587.html
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...