เวลา 11.00 น. วันที่ 24 ต.ค. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า ที่ราชตฤณมัยสมาคม(สนามม้านางเลิ้ง)  พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ หรือ เสธ.อ้าย ประธานองค์การพิทักษ์สยาม ให้สัมภาษณ์ ก่อนร่วมรับประธานอาหารกับ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรง รองนายกรัฐมนตรี ว่าการพูดคุยในวันนี้ไม่ทราบว่าจะพูดคุยเรื่องอะไร เพราะร.ต.อ.เฉลิมเป็นคนนัด และยืนยันว่า ในวันที่ 28 ต.ค. ยังคงมีการชุมนุมอยู่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ทั้งสิ้น เมื่อถามว่า หาก.ร.ต.อ.เฉลิม ให้มีการเลื่อนการชุมนุมออกไป พล.อ.บุญเลิศ กล่าวว่า ตนเชื่อว่า ร.ต.อ.เฉลิม เข้าใจตน และคิดว่าไม่ได้เป็นการขอเพื่อให้เลื่อนการชุมนุม เพราะนักเลงเขาไม่พูดกันอย่างนี้ และในวันดังกล่าวจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาดูแลความสงบเรียบร้อย 3 กองร้อย  โดยจะไม่มีมือที่สามเข้ามาก่อความวุ้นวายในการชุมนุม และการชุมนุมครั้งนี้เป็นการชุมนุมที่เปิด จึงยินดีที่จะให้ตำรวจเข้ามาดูแลความเรียบร้อย

“ปกติตนมีความคุ้นเคยกับ ร.ต.อ.เฉลิม แต่รู้สึกแปลกใจที่ท่านมาในครั้งนี้ เพราะโดยปกติแล้วท่านไม่เคยมาหาที่นี้ ส่วนตัวยังไม่ได้ประเมินผู้ชุมนุมในวันดังกล่าว  แต่ก็อยากให้มีมาเยอะ ๆ และการชุมนุมในวันที่ 28 ต.ค.ได้มีการประสานไปยังทุกกลุ่มรวมทั้งกลุ่มคนเสื้อแดงด้วยที่เป็นการประสานผ่านสื่อสารมวลชน” พล.อ.บุญเลิศ กล่าว

 เมื่อถามว่ามีการตั้งข้อสังเกตว่าการชุมนุมวันที่ 28 ต.ค. มีการเชื่อมกับบันได 5 ขั้นที่เป็นกระบวนการล้มรัฐบาล  พล.อ.บุญเลิศ กล่าวว่า ไม่มี ตนมี 2 ขั้นคือวันที่ 28 ต.ค.กับอีก 1 วันหากในวันที่ 28 ต.ค.มีคนมาร่วมชุมนุมจำนวนมาก ก็จะเดินไปหารัฐบาล สมมุติว่ามีคนร่วมชุมนุม 1ล้านคนก็จะบอกกับทางรัฐบาลว่าท่านออกไปได้แล้ว  เพราะมีคนไม่เห็นด้วยกับท่านจำนวนมาก แต่หากมีผู้ร่วมชุมนุมจำนวนน้อยทุกอย่างจะจบในวันที่ 28 ต.ค. ไม่อย่างนั้นจะกลายเป็นมวยไม่มีราคาไปชกที่ไหนก็ไม่ได้ และยืนยันว่าการพูดคุยในวันนี้ไม่มีมวยล้ม เพราะหากล้มจะไม่มีใครเชื่อถือ และตนอยากให้วันที่ 28 ต.ค. มีผู้มาร่วมชุมนุมเต็มความจุของสนามม้านางเลิ้ง ที่รองรับได้ประมาณ 20,000 คน

เมื่อถามว่าการออกมาเคลื่อนไหวครั้งนี้ถูกมองว่าเป็นการปลุกกระแสปฏิวัติโดยประชาชนใช้หรือไม่ พล.อ.บุญเลิศ กล่าวยอมรับว่า ใช่ เพราะทนไม่ไหวที่การปกครองเป็นแบบนี้  เข้ามากอบโกยไม่เคยดูแลประชาชน  และการชุมนุมครั้งนี้จะไม่เป็นการทำให้กองทัพไม่สบายใจเพราะตนเกษียณแล้ว และยืนยันว่าการชุมนุมเป็นการชุมนุมโดยสันติวิธีไม่มีอาวุธ ทั้งนี้ยังไม่มีแนวร่วมที่เป็นทหารที่ยังคงปฎิบัติหน้าที่อยู่ในปัจจุบัน  ซึ่งก็พยายามหาอยู่ เพราะต้องมีกำลังเหมือนกันถึงจะทำอะไรได้ มิฉะนั้นจะถูกรังแก และเชื่อว่าหากมีทหารที่อยู่ในกองทัพและเห็นด้วยกับตนคงไม่เปิดตัว เพราะจะเป็นอันตราย

เมื่อถามว่า ขณะนี้มีการพูดคุยกับนักการเมืองฝ่ายค้านด้วยหรือไม่ พล.อ.บุญเลิศ กล่าวว่า ยังไม่มีการพูดคุย แต่ก็อยากได้ใครจะหนุนก็เอาทั้งนั้น ทุกกลุ่มทุกฝ่าย ทุกสี  แต่ก็อยากให้สื่อมวลชนกระจายข่าวว่าทำไมเราถึงมีการชุมนุมในวันนั้น

 
 ต่อมา ที่ห้องอาหารราชตฤนมัยฯ ในสนามม้านางเลิ้ง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ประธานองค์การพิทักษ์สยามและภาคีเครือข่าย นัดร่วมรับประทานอาหารกลางวันร่วมกัน โดยมี นายบันดาล แก้วประสิทธิ์ บุตรชายของพล.อ.บุญเลิศ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.พล.ต.อ.วรพงศ์  ชิวปรีชา รองผบ.ตร.พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบ.ชน. พล.ต.อ.ภาณุพงษ์ สิงหรา ณ อยุธยา รองเลขาธิการนายกฯ  เข้าร่วมรับประทานอาหารด้วย

ทั้งนี้นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ แกนนำกลุ่มเสื้อหลากสี พร้อมสมาชิกเครือข่ายส่วนหนึ่งได้เดินทางมาร่วมสังเกตการณ์อยู่ภายในบริเวณดังกล่าวด้วย โดยถือป้ายประท้วงร.ต.อ.เฉลิม พร้อมนำเป็ดย่างตัดคอ ผูกเชือกห้อยมามอบให้ร.ต.อ.เฉลิมด้วย แต่ร.ต.อ.เฉลิมไม่ได้รับไว้แต่อย่างใด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศโดยรวมเป็นอย่างชื่นมื่น โดยเปิดโอกาสให้ผู้สื่อข่าวที่มาดักรอทำข่าวจำนวนมากได้เข้าเก็บภาพในครั้งนี้ด้วย โดยพล.อ.บุญเลิศ และร.ต.อ.เฉลิม ชนแก้วไวน์โชว์ ด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม หัวเราะและพูดคุยอย่างเป็นกันเอง พร้อมกับพูดกับผู้สื่อข่าวว่า ทั้งสองคนมีความสนิทสนมกันทั้งครอบครัว  

สำหรับการร่วมรับประทานอาหารครั้งนี้ พล.อ.บุญเลิศได้นำไวน์ยี่ห้อ มูตอง ปี 2001 ส่วน ร.ต.อ.เฉลิม ได้นำห่านพะโล้จากท่าดินแดง ของขึ้นชื่อจากท่าดินแดงมาเป็นเมนูหลักในครั้งนี้   นอกจากนี้ ยังมีเมนูอาหารที่จัดเตรียมไว้ ประกอบด้วย ห่อหมกจากตลาดศรีย่าน ฉู่ฉี่ปลาคัง และของหวานเป็นปลากริมไข่เต่าจากราชวัตร อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดได้ใช้เวลาในการร่วมรับประทานอาหาร 1 ชั่วโมงเศษ

จากนั้น ร.ต.อ.เฉลิมเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ไม่มีการคุยเรื่องการเมืองแม้แต่น้อย คุยแต่เรื่องเก่าๆในฐานะมีความผูกพันและรู้จักกันมานาน ไม่ได้คุยกันว่าพล.อ.บุญเลิศจะชุมนุมหรือจะทำอะไรอย่างไร มีเพียงพล.อ.บุญเลิศเท่านั้นที่บอกว่าการชุมนุมวันที่ 28 ต.ค.นี้จะเลิกก่อน 18.00 น.ตนจึงบอกกับผบช.น.ว่าให้เจ้าหน้าที่มาคอยดูแล เพื่อให้เกิดความสะดวก ส่วนที่นั่งคุยกันนานในวันนี้ก็คุยกันแต่เรื่องเก่าทั้งนั้นไม่มีการเมือง

ด้านพล.อ.บุญเลิศ กล่าวว่า คุยกันเรื่องสมัยเก่าตั้งแต่ร.ต.อ.เฉลิม เป็นสารวัตรกองปราบ อย่างไรก็ตามการชุมนุมในวันดังกล่าวจะไม่ทำให้กีดขวางการจราจร ส่วนเรื่องที่เกรงกันว่าจะมีมือที่สามเข้ามาก่อความวุ่นวายนั้น ได้หารือกับผบช.น.แล้ว ซึ่งท่านยืนยันว่าจะดูแลการชุมนุมให้เรียบร้อย วันนี้คุยกันอารมณ์ดี เพราะคนแก่ก็จะคุยกันแต่เรื่องความหลัง

เมื่อถามว่า ได้ฝากข้อห่วงใยเรื่องการทำงานของรัฐบาลไปกับรองนายกฯ หรือไม่ พล.อ.บุญเลิศ กล่าวว่า ตนไม่กล้า เพราะหากร.ต.อ.เฉลิมไม่ถามจะไปพูดอย่างนั้นคงไม่ได้ เมื่อท่านไม่ถามก็ไม่เล่าให้ฟัง

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในการชุมนุมวันที่ 28 ต.ค.นี้เกรงหรือไม่ว่าอาจเกิดความวุ่นวาย ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่มี เพราะพล.อ.บุญเลิศระมัดระวังอยู่แล้ว โดยการจำกัดวง และตนก็เคยบอกมาแล้วว่าการชุมนุมในพื้นที่นี้เป็นการจำกัดวงอยู่แล้ว และพล.อ.บุญเลิศก็ไม่ปรารถนา เมื่อถามว่าการกินข้าวกันมื้อนี้เป็นการสวนกระแสการชุมนุมของกลุ่มนี้หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่สวนกระแส ต่างคนต่างทำงาน คนเราเคยรู้จักกัน ไม่ใช่คนไม่รู้จักกัน เพราะถ้าไม่รู้จักกันแล้วมาทำอย่างนี้ถึงจะสวนกระแส

เมื่อถามว่า จะส่งผลต่อเสถียรภาพรัฐบาลหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่ อย่ามองอย่างนั้น อย่ามองไกล ผู้สื่อข่าวถามว่า ป้องกันมือที่สาม ที่อาจก่อเหตุอย่างไร รองนายกฯ กล่าวว่า พล.อ.บุญเลิศได้คุยเรื่องนี้กับผบช.น.แล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่า พล.อ.บุญเลิศได้สะท้อนเรื่องการทำงานบกพร่องของรัฐบาลให้รองนายกฯทราบหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ไม่ได้คุย ไม่ได้พูดกันถึงเรื่องนี้ และตนก็ไม่ถามเพราะถ้าถามก็ผิดมารยาท เพราะโดยหลักการของคนรักกัน ถ้าคุยกันแล้วอีกฝ่ายเขาอึดอัดไม่คุย ต้องคุยแล้วสบายใจ อย่างวันนี้ก็สดชื่น คุยไปหัวเราะไป