ลองมั๊ย? กาแฟ “อึช้าง” จากเชียงราย ขายกิโลกรัมละ 3.4 หมื่นบาท
ลูกค้าที่สั่งกาแฟ “แบล็ค ไอวอรี่ คอฟฟี่” จะได้ชมการบดและชงกาแฟด้วยเทคนิคแบบโบราณ
ลืมไปได้เลย “คอปปี้ ลูอัค (Kopi Luwak)” กาแฟ “อึชะมด” ราคาแพงที่สุดในโลกจากประเทศอินโดนีเซีย… เพราะล่าสุด เครือโรงแรมหรู “อนันตรา รีสอร์ท แอนด์ สปา” ได้เปิดตัวกาแฟจาก “อึช้าง” ภายใต้ชื่อ “แบล็ค ไอวอรี่ คอฟฟี่” ที่มีราคาจำหน่ายสูงถึง $1,100 (ราว 3.4 หมื่นบาท) ต่อ 1 กิโลกรัม
เครือโรงแรมอนันตราฯ พร้อมเสิร์ฟและจำหน่ายกาแฟจากอึช้าง ”แบล็ค ไอวอรี่ คอฟฟี่” ภายในรีสอร์ทหรู 4 แห่งที่มัลดีฟส์ และที่โรงแรมอนันตรา สามเหลี่ยมทองคำ จ. เชียงราย โดยรายได้ส่วนหนึ่งจากการจำหน่ายกาแฟดังกล่าว จะถูกนำไปสมทบทุน “มูลนิธิช้างเอเชียสามเหลี่ยมทองคำ (Golden Triangle Asian Elephant Foundation – GTAEF)”
“แบล็ค ไอวอรี่ คอฟฟี่” เป็นกาแฟที่ผลิตโดยปางช้างของโรงแรมอนันตรา สามเหลี่ยมทองคำ โดยเริ่มจากการคัดสรรผลกาแฟไทยพันธุ์อาราบิก้าที่ปลูกบนระดับความสูง 1,500 เมตร แล้วนำมาให้ช้างกิน (ตามความสมัครใจ ภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดของสัตวแพทย์) จากนั้นก็รอให้ช้างขับถ่ายเมล็ดกาแฟที่ผ่านการย่อยสลายโปรตีนแล้วออกมา (โปรตีนในเมล็ดกาแฟเป็นหนึ่งในต้นเหตุที่ทำให้กาแฟมีรสขม) หลังจากนั้น กาแฟแต่ละเม็ดจะถูกเก็บโดยครอบครัวควาญช้าง ก่อนที่จะนำไปตากแดด
ควาญและช้างแสนรู้ที่ปางช้างของโรงแรมอนันตรา สามเหลี่ยมทองคำ
ปัจจุบัน เครือโรงแรมอนันตราฯ มีกาแฟ ”แบล็ค ไอวอรี่ คอฟฟี่” สำหรับจำหน่ายเพียง 50 กิโลกรัม เนื่องจากกว่าจะได้กาแฟแต่ละเม็ดเรียกได้ว่ายากเย็นแสนเข็ญ เพราะต้องรอให้ช้างกินผลกาแฟเข้าไป (ช้างมีสิทธิเลือกที่จะกินหรือไม่กินก็ได้) หลังช้างกินผลกาแฟเข้าไปแล้ว ก็ต้องคอยดูว่าช้างจะขับถ่ายออกมาเมื่อไหร่ ตรงไหน ซึ่งแน่นอนว่าการตามล่าหาเมล็ดกาแฟในอึช้างนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แถมบางครั้งยังต้องเสียเมล็ดกาแฟไปในแม่น้ำโขงอีกด้วย
ด้วยเหตุนี้ กาแฟจากอึช้างจึงมีราคาจำหน่ายสูงถึง $1,100 (ราว 3.4 หมื่นบาท) ต่อ 1 กิโลกรัม หรือแก้วละประมาณ $50 (ราว 1,500 บาท) แพงกว่ากาแฟ “อึชะมด” ที่มีราคาขายปลีกราว $500-600 (ราว 1.5-1.8 หมื่นบาท) ต่อ 1 กิโลกรัม หรือแก้วละประมาณ $30 (ราว 900 บาท)
อย่างไรก็ตาม กรณีที่ช้างบริโภคผลกาแฟไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะในอดีตเคยมีเหตุการณ์ช้างป่าในอินเดียบุกเข้าไปกินต้นและผลกาแฟในไร่ของเกษตรกรจนเกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวงมาแล้ว ซึ่งเกษตรกรที่นั่นได้ลองนำเมล็ดกาแฟจากอึช้างมาคั่วบด และทดลองชิมดู จึงพบว่ากาแฟที่ได้มีรสชาติดี ไม่ขม แถมยังมีกลิ่นหอมกว่ากาแฟทั่วไปอีกด้วย ที่สำคัญ ตัวช้างเองก็ไม่ได้รับอันตรายจากการกินต้นและผลกาแฟแต่อย่างใด (เมล็ดกาแฟจะให้สารคาเฟอีนต่อเมื่อถูกนำไปผ่านความร้อนที่อุณหภูมิตั้งแต่ 70 องศาเซลเซียสขึ้นไป)