SMEs ก้าวทัน AEC

ภาวิณีย์ เจริญยิ่ง

"รัศม์ ชาลีจันทร์" กงสุลใหญ่แขวงสะหวันนะเขต ชี้ช่องนักลงทุนไทย



ใน บรรดานักการทูตของไทย ต้องบอกว่า "รัศม์ ชาลีจันทร์" เป็นคนหนุ่มอีกคนที่มีอนาคตไกล ยามนี้เขานั่งเก้าอี้กงสุลใหญ่ ณ แขวงสะหวันนะเขต สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ถือว่าเป็นผู้หนึ่งที่รู้ลึกซึ้งเกี่ยวกับประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงของเรา

อีก 3 ปี ประเทศในอาเซียนจะรวมตัวกันเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ เออีซี ฉะนั้น เราๆ ท่านๆ คงจะต้องเรียนรู้เรื่องราวเกี่ยวกับ 9 ประเทศให้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะ สปป.ลาว ที่ใช้ภาษาเดียวกับบ้านเรา ซึ่งท่านกงสุลใหญ่ผู้นี้จะมาฉายภาพ สปป.ลาว ในหลายแง่หลายมุม ทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม



สัมพันธ์ไทย-ลาวแนบแน่น

หลาย ปีมานี้ ผมบอกได้เลยว่า ความสัมพันธ์ไทย ลาว พัฒนาไปมาก มีความใกล้ชิดกันมากขึ้น เห็นได้ชัดในเทศกาลวันออกพรรษา ซึ่งที่มุกดาหารจะจัดสลับกับสะหวันนะเขต ในวันนั้นคนของ 2 ฝั่งจะข้ามไปมาหาสู่กันได้อย่างสะดวกไม่ต้องใช้บัตรผ่านแดนอะไร ไปกันแต่เช้าตอนเย็นก็กลับ สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าความใกล้ชิด ความไว้เนื้อเชื่อใจเพิ่มขึ้น เป็นความใกล้ชิดที่น่ารัก ในอนาคตคิดว่าความสัมพันธ์ของ 2 ประเทศจะดีขึ้นเรื่อยๆ

อีกอย่าง หนึ่งที่ผมค่อนข้างประทับใจและเป็นมาตรวัดที่สำคัญว่าความสัมพันธ์มันพัฒนา ไปเยอะมาก คือตอนประเทศไทยประสบน้ำท่วม ทางลาวก็บริจาคให้ความช่วยเหลือ ซึ่งแม้รัฐบาลลาวจะช่วยไปแล้ว แต่ตอนหลัง ภาคเอกชน คนธรรมดา นักธุรกิจ บริษัทใหญ่ๆ ลงขัน เขารวมตัวกันทั้งที่เวียงจันทน์ และสะหวันนะเขต ซื้อน้ำเป็นคันๆ รถ ส่งมาหลายร้อยหลายพันแพ็ก นี่ถือว่าเป็นครั้งแรกที่มีความช่วยเหลือระดับประชาชนต่อประชาชน การแสดงออกแบบนี้ ไม่ได้เป็นการผลักดันของรัฐ เป็นภาพที่เรียกได้ว่าก้าวไปสู่ยุคใหม่ของความสัมพันธ์ เพราะเราก็ลุ่มๆ ดอนๆ มีปัญหากันบ้าง

แน่นอนปัญหาทวิภาคก็มีอยู่ หลักๆ เช่น เรื่องเขตแดน เรื่องยาเสพติด ปัญหาแรงงาน ซึ่งต้องร่วมมือแก้ไขกันไป ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับประเทศชายแดนติดกัน

ปัญหาของคนไทยที่มีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ ที่สะหวันนะเขตคือเรื่องบ่อนการพนัน เพราะที่นั่นมีบ่อนการพนันใหญ่

มี คนไทยข้ามไปเล่นเยอะ พอหมดเนื้อหมดตัวกลับไม่ได้ อยู่เกินวัน เพราะส่วนใหญ่ใช้บอร์ดดิ้งพาสข้ามไป อยู่เกิน 3 วัน ก็เท่ากับละเมิดกฎหมายเขา ถูกจับ พอถูกจับเราเข้าไปช่วย ติดต่อหาญาติมาจ่ายค่าปรับ เอาตัวกลับไปเมืองไทย

ที่ร้ายไปกว่านั้นก็คือ พอหมดเนื้อหมดตัวก็ไปฉกชิงวิ่งราวเขา ติดคุกนานเข้าไปอีก อันนี้เป็นปัญหาสังคมส่วนหนึ่ง

จะ ไปโทษฝั่งลาวก็ไม่ได้ เป็นปัญหาทางฝั่งเราด้วย เขาไม่ได้บังคับให้ไปเล่น เราไปเล่นเอง ผมเองค่อนข้างเป็นห่วง เท่าที่ผมรู้ ในหลายประเทศที่มีบ่อนถูกกฎหมายในยุโรป หรืออย่างของสิงคโปร์ หรือ มาเลเซีย เขาต้องสกรีนคนไปโดยปริยาย อย่างสิงคโปร์ค่าเข้าประมาณร้อยเหรียญ แต่ของเราบ่อนไม่ได้อยู่ในเมืองไทย ขณะที่บ่อนของลาวให้เล่นเฉพาะคนต่างชาติเท่านั้น

แต่ 95 เปอร์เซ็นต์ จะเป็นคนไทย ที่น่าเป็นห่วงเพราะไม่มีการสกรีนทั้งฝั่งลาวและทั้งฝั่งไทยด้วย ฉะนั้น คนที่ไปเล่นอาจจะไม่มีฐานะดีมาก พอเสียมากๆ ก็หมดเนื้อหมดตัวได้ คือ ถ้าเล่นการพนัน เพื่อพักผ่อนหย่อนใจอย่างหนึ่งก็โอเค แต่ถ้าคุณหวังจะชนะเมื่อไหร่ โอกาสมันน้อยมาก

ผมเคยถามคนไทยที่ข้าม ไปเล่นว่าจะไปหวังกำไร หรือจะไปชนะเขาได้หรือเปล่า เขายอมรับเป็นไปไม่ได้ พอหมดเนื้อหมดตัวก็อยากจะอยู่ต่อเอาทุนคืน เลยไปละเมิดกฎหมายเข้าเมืองก็ถูกจับ



ไทยล้อมรอบด้วยบ่อนพนัน

บ่อน ที่สะหวันนะเขตเป็นแหล่งพระเครื่องที่ดีอีกที่หนึ่ง เพราะจะมีพระเครื่องดีๆ เยอะมาก จากคนที่เสียจนหมดเนื้อหมดตัว ในบ่อนเขาจะขายพระเครื่องด้วย ตอนนี้ทราบว่าสะพานมิตรภาพ 3 จังหวัดนครพนม ตรงข้ามกับเมืองท่าแขก แขวงคำม่วนของลาว กำลังเริ่มก่อสร้างบ่อนรองรับ กลายเป็นว่าบ่อนจะล้อมรอบประเทศไทยหมด ไม่ว่าคุณจะมองเหนือ มองใต้ มองตะวันออก ตะวันตก

ยังไม่นับบ่อนเถื่อน บ่อนที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายในเมืองไทย ก็เป็นปัญหาของรัฐบาลที่จะจัดการ นี่คือปัญหาที่ปฏิเสธไม่ได้

เรื่อง ของบ่อนเป็นเรื่องของรัฐบาลว่าจะเอาอย่างไร ของไทยเป็นเรื่องเซนซิทีฟ ซึ่งถ้าเราเปิดบ่อนให้ถูกต้องตามกฎหมายก็ควรบังคับเช่นเดียวกัน คือให้เล่นได้เฉพาะคนต่างชาติ หรือว่าให้คนไทยเล่นได้ แต่ต้องมีฐานะเท่านั้น มีเงินเท่านี้รองรับ ซึ่งเป็นประเด็นต่อไป แต่ตอนนี้บ่อนการพนันก็ล้อมบ้านเราหมดแล้ว จะไปโทษเขาก็ไม่ได้ เพราะเป็นนโยบายที่จะดึงดูดหรือจะลงทุนกัน ก็มีสิทธิ์เปิดกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น พม่า กัมพูชา มาเลเซีย เขาก็เปิดมานานแล้ว

เท่าที่ผมเห็นบ่อนมา อย่างที่มาเลเซีย เวียดนาม ผมว่าถ้าคนไทยจะทำก็มีศักยภาพสูงพอสมควร เพราะเรามีเรื่องเซอร์วิสมายด์

เหมือนกับโรงแรม เหมือนภัตตาคาร อาหาร หรือไม่ก็ให้สัมปทานไปเลย แต่เป็นเรื่องนโยบายระดับสูง



จีน-เวียดนาม แห่ลงทุนในลาว

แน่ นอนตอนนี้จีนมาแรง เวียดนามมาแรง จีนก็หันมาลงทุนทางนี้มากขึ้น เวียดนามรวยมากขึ้นเขาก็มา จากเดิมที่มีแต่ไทยรายเดียว ที่เป็นนักลงทุนรายใหญ่ติดต่อกันมาหลายปี ลาวจึงได้เงินลงทุนเยอะมาก เดี๋ยวนี้ที่ดินในเวียงจันทน์ และทั้งประเทศมันขึ้นไปเยอะ แต่ว่าการลงทุนของไทยเราต่อเนื่องมาตลอด ส่วนสาขาที่เราสนใจลงทุน ก็มีด้านพลังงาน เขื่อน

ที่ผ่านมา อิตัลไทยไปทำน้ำเทิน 2 ส่วน ด้านการเกษตร มีน้ำตาลมิตรลาว คือ น้ำตาลมิตรผลของไทยไปลงทุน ปลูกอ้อยในแขวงสะหวันนะเขตและคำม่วน ซึ่งประเทศไทยส่งออกน้ำตาลเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากบราซิล เพราะน้ำตาลที่ผลิตในประเทศลาว ส่งออกไปยุโรป โดยผ่านที่แหลมฉบัง คือผลิตในนี้แล้วส่งกลับเข้าไป ก่อนส่งออกไปยังอียู ยุโรป ผ่านแหลมฉบังไป

การลงทุนน้ำตาลตอนนี้เป็นการลงทุนที่ดี ทางบริษัทมิตรผลค่อนข้างพอใจ ซึ่งทางบริษัทมีส่วนช่วยเหลือชาวบ้านในพื้นที่ มีการทำคอนแทรกต์ฟาร์มมิ่งกับเกษตรกรต่างๆ โรงงานเขาครบวงจร ทำปุ๋ยเอง ทำไฟฟ้าเอง บางส่วนมาผลิตเป็นเฟอร์นิเจอร์ชานอ้อย ค่อนข้างเป็นโรงงานที่ได้มาตรฐาน

ยางพาราก็ปลูกกันเยอะมาก ดับเบิ้ลเอ มาตั้งบริษัทที่นี่ มาแปรรูปทำกระดาษดับเบิ้ลเอ อันนี้ก็ทำคอนแทรกต์ฟาร์มมิ่งเหมือนกัน เพราะที่นี่ไม้เยอะนะ นอกจากนั้น ทางใต้ก็มีกาแฟ อย่างกลุ่มของคุณเจริญ ขนาดใหญ่เหมือนกัน ที่จำปาสักเขามีย่านปลูกบนที่ราบสูง จากน้ำทะเลเป็นพันเมตร สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ก็มีพระราชดำริจะให้มีความร่วมมือทางด้านเกษตรในทางใต้ของลาวด้วย โดยเฉพาะโครงการปลูกพืชเมืองหนาว เช่น สตรอเบอร์รี่ พีช แล้วก็มีดอกไม้ เบื้องต้นได้ให้ผู้เชี่ยวชาญทางมูลนิธิชัยพัฒนามาดูแล

ส่วน ธุรกิจการท่องเที่ยว โดยเฉพาะจำปาสัก ปากเซ รถทัวร์เข้าทุกวันมากมาย มีแหล่งท่องเที่ยวที่เด่นอยู่แล้ว มีน้ำตกหลี่ผี คอนพะเพ็ง ซึ่งฝรั่งคนไทยก็นิยมมาท่องเที่ยว โดยเฉพาะคนไทยก็ไปลงทุนพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว ที่ตาดผาส้วมซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ เขาพัฒนาเป็นน้ำตก เป็นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก คุณวิมล พัฒนาเป็นสิบปี จากแหล่งธรรมชาติที่เสื่อมโทรม กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่สำคัญ

ในอนาคต ผมก็ว่าจำปาสักมีแนวโน้มที่ดีมาก ในเรื่องความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว แล้วคนไทยก็เข้ามาเยอะทุกวันๆ

อีกหน่อยก็เชื่อมไปทางเวียดนาม เพราะฉะนั้น ภาพรวมในภูมิภาคนี้จะมีการไปมาหาสู่กันเยอะขึ้นกว่าเดิมอีกมาก

ไทย เป็นคู่ค้าอันดับหนึ่งของลาว ขณะที่ลาวเป็นคู่ค้าอันดับที่ 25 เราขอเยอะพอสมควร ซึ่งยังไม่นับค้าชายแดน ที่ทุกวันเป็นหมื่นล้าน ทุกเสาร์-อาทิตย์จะเห็นรถลาวข้ามมาซื้อของฝั่งไทย



เปรียบเทียบเส้น R12 กับ R9

สำหรับ เส้นทางหมายเลข R12 จากสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 จังหวัดนครพนม ผ่านแขวงคำม่วนของลาวไปเวียดนาม (ผ่านจังหวัดฮาติงห์และเงห์อานเข้ากรุงฮานอย) นั้น ตอนนี้อาจจะไม่กระฉูดทันตาเห็น แต่ก็เป็นตัวส่งเสริม ซึ่งระยะทางจะใกล้กว่าหมายเลข R9 จากมุกดาหารไป แต่เส้นหมายเลข R9 จะได้เปรียบที่เป็นทางราบ แต่หมายเลข R12 เป็นภูเขา การขนส่งลำบากกว่า ส่วนใหญ่ของที่ส่งเป็นพวกผัก ผลไม้ ซึ่งต้องรีบส่ง ช้าไม่ได้ เราก็ต้องส่งไปทางนั้น เราส่งผลไม้ไปค้าขายทางจีน นี่คือช่องทางที่เราส่งผลไม้จากไทยขึ้นไปจำนวนมหาศาลที่นั่น แต่สินค้าที่ไม่ได้ด่วนมากก็ไปหมายเลข R9 ดังนั้น ทั้ง 2 เส้นทางก็มีส่วนส่งเสริมเกื้อกูลซึ่งกันและกัน

เส้น R12 เป็นเรื่องการขนส่งสินค้าเป็นหลัก การท่องเที่ยว ผมคิดว่ายังไม่ได้โดดเด่นมาก เส้น R9 ยังโดดเด่นกว่า เพราะว่าตรงกับเว้ ดานัง ฮอยอัน ตรงนั้นการท่องเที่ยวยังบูมกว่า เพราะขึ้นไปทางโน้นทางฝั่งลาว ระหว่างทางเส้น R12 ก็ไม่มีอะไรมาก ทางเวียดนามก็สู้ทางเว้ไม่ได้

ผม บอกได้เลยว่าความร่วมมือการค้าขายมีแต่จะเพิ่มขึ้นๆ ฉะนั้น ไม่ต้องห่วง เทรนด์มันไปอย่างนี้แน่นอน ภายใน5-15 ปี ข้างหน้าการเจริญเติบโตในโลก เทรนด์มาอยู่ทางนี้หมดแล้ว อาเซียน จีน อินเดีย เกาหลีมาอยู่ทางนี้หมดแล้ว ยุโรปมีปัญหาทางเศรษฐกิจ อเมริกามีปัญหาทางเศรษฐกิจ แล้วเขาก็อิ่มตัวแล้ว เพราะฉะนั้น การเจริญเติบโตอนาคตของโลกอยู่ที่นี่ เมื่อก่อนการค้าขายต้องส่งไปอียู ส่งไปอเมริกา เหมือนมาตรวัดความสำเร็จ แต่ต่อไปเป้าหมายหลักของนักธุรกิจอยู่ตรงนี้ เพราะว่ามันจะโต จะขยายขึ้นไปอีกมาก

เมื่อพม่าเปิด จิ๊กซอว์จะหล่นลงมาครบถ้วน เพราะฉะนั้น จะลิงก์ระหว่างทะเลจีนใต้ด้านพม่า คุณข้ามมหาสมุทรอินเดีย จะเห็นว่าความเจริญจะชิดมาทางนี้ และไทยมีโอกาสที่ดี เพราะเราอยู่ตรงกลาง ไม่ว่าจะเชื่อมพม่ากับเวียดนาม เชื่อมลาว กัมพูชา จีน อินเดีย เราอยู่ตรงนี้ ถือเป็นความท้าทายอย่างหนึ่ง ที่เราจะฉกฉวยโอกาสตรงนี้ได้ดีแค่ไหน

สิ่งที่ผมเห็นและเราทุกคนก็เห็น คือการเชื่อมโยงเครือข่ายการคมนาคม โดยเฉพาะเส้นทางรถไฟ ซึ่งเป็นการขนส่ง

และการท่องเที่ยวที่ถูกที่สุดประการหนึ่ง ถ้าเราพัฒนาตรงนี้ได้ คือโอกาสเราดีมาก แต่ถ้าเราช้า เขาอาจจะวิ่งอ้อมไปเส้นอื่น

แต่ การที่เราจะเป็นฮับ เรามีโอกาสที่ดีมาก ขณะที่สินค้าของไทยยังเป็นสินค้าที่มีภาพพจน์ที่ดีในภูมิภาคนี้ เพียงแต่ว่าเราจะฉกฉวยใช้โอกาสมากน้อยแค่ไหน



แนะลงทุนทำรีสอร์ต

การ ทำธุรกิจก็มีความเสี่ยง จะลงทุนทำอะไรต้องศึกษาพอสมควร แต่ที่ได้แน่ๆ คือ โรงแรม เพราะยังมีการท่องเที่ยว ในสะหวันนะเขต คำม่วน คุณยังสามารถทำได้ รีสอร์ตดีๆ สักแห่ง เพราะอย่างคำม่วน รีสอร์ตดีๆ ยังไม่มีสักแห่ง ทั้งที่เขามีแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติตั้งเยอะแยะ มีถ้ำ ภูเขา มองไปเหมือนกุ้ยหลินเลย เขามีแต่โรงแรม รีสอร์ตสวยๆ สักแห่ง ซึ่งเขาก็อยากได้ เพราะเป็นการดึงดูดนักท่องเที่ยว ตรงนี้โอกาสก็มี ถ้าเราไปทำ

ส่วนธุรกิจอื่นๆ ถ้าระดับเล็กน่าสนใจ สมมติไม่คิดมาก แม้แต่ปั๊มน้ำมัน เท่าที่ผมเห็น ทาง ปตท. เริ่มเข้าไป ส่วนใหญ่ไปอยู่ทางใต้จำปาสัก รถท่องเที่ยวไทยเข้ามาเยอะ พวกรถบัส แต่จริงๆ แล้ว อย่างที่เห็นกันทั้ง 2 เส้นทาง ถ้ามีปั๊มดีๆ สักแห่ง มีขายของจุกจิก แบบเซเว่นฯ หรืออะไรก็แล้วแต่ ผมนับตั้งแต่ทางใต้ลงมา คำม่วน สะหวันนะเขต จำปาสัก เซกอง อัดตะปือ สาละวัน 6 แขวง

อย่างแขวงอัตตะปือ บ้านประธานประเทศอยู่ที่นั่น ถ้าเทียบเมื่อก่อนกับตอนนี้แบบว่า หน้ามือเป็นหลังมือ สมัยก่อนดูเป็นชนบทมาก ตอนนี้เขาพัฒนาสร้างถนนหนทางใหม่ มีการลงทุน สถานที่สำคัญทางราชการ ส่วนหนึ่งก็เป็นของเวียดนามเข้าไปลงทุนในนั้นเยอะ แต่ว่าพื้นฐานทางเศรษฐกิจต้องสักพักหนึ่ง สำหรับแขวงอัตตะปือถือว่าประชาชนยังยากจนอยู่ แต่เขาได้รับการดูแลจากรัฐบาลกลางเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตาม โครงสร้างทางเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม ยังไม่มี ยังไม่พร้อม แต่เขาก็เจริญขึ้นเยอะ เพราะอัดตะปือไม่ได้มีแหล่งท่องเที่ยวอะไรเป็นพิเศษ ส่วนใหญ่ยังเป็นเกษตรกรรมอยู่

อย่างไรก็ตาม เขาเจริญขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งหลายคนคงไม่ทราบว่าลาว มีอัตราเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ สูงเป็นอันดับ 2 ของเอเชีย อยู่ประมาณ ร้อยละ 7.88 รองเพียงจากจีนเท่านั้น เติบโตแบบนี้หลายๆ ปี ติดต่อกันแล้ว เขาอยู่ประมาณนี้ 7 กว่า 8

ชี้ ภาพให้เห็นว่า ลาวมีการพัฒนาทางเศรษฐกิจได้ดีพอสมควร ส่วนหนึ่งคือรัฐบาลเขามีนโยบายเปิดประเทศมากขึ้น มันเอื้ออำนวยทุกอย่าง เสถียรภาพทางการเมืองเขาดีอยู่แล้ว ตอนนี้การเจริญเติบโตทุกประเทศก็อยู่ทางนี้

23 ต.ค. 55 เวลา 10:40 1,417
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...