เศรษฐีเอเชียแห่ออเดอร์รถสั่งผลิตสุดหรู “บูโฟรี” จากประเทศมาเลเซีย
“บูโฟรี เจนีวา” รุ่นปี 2012
ค่ายรถยนต์หรู “บูโฟรี (Bufori)” ออเดอร์ทะลัก หลังเศรษฐีชาวจีนและประเทศในแถบตะวันออกกลางแห่สั่งผลิต เผยลูกค้าไม่ท้อแม้ต้องรอนาน 2 ปี เนื่องจากเป็นรถ ”ทำมือ” และรถ “สั่งตัด” ที่ผลิตขึ้นเพื่อรองรับสรีระและความต้องการของเจ้าของรถโดยเฉพาะ
บริษัท บูโฟรี มอเตอร์ คาร์ คอมพะนี ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ซุ่มรับทรัพย์ หลังเศรษฐีเอเชียแห่ตอบรับจนออเดอร์ท่วมทั้งๆ ที่ไม่เคยมีการลงโฆษณา โดยกลุ่มลูกค้าหลักเป็นเศรษฐีจากประเทศจีนและตะวันออกกลาง รองลงมาเป็นลูกค้าจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ฮ่องกง ญี่ปุ่น และประเทศในแถบยุโรป
บริษัท บูโฟรีฯ ก่อตั้งโดยสามพี่น้องลูกครึ่งออสเตรเลีย-เลบานอน “แอนโทนี่, จอร์จ และ เจอร์รี่ คูรี่” เมื่อปี ค.ศ.1986 (พ.ศ. 2529) หลังจากนายเจอร์รี่ คูรี่ ประสบความสำเร็จในการผลิตรถสปอร์ต 3 คัน (สำหรับ 3 พี่น้อง) ในโรงรถที่บ้าน แรกเริ่มเดิมทีโรงงานผลิตและสำนักงานขายของบูโฟรี่ตั้งอยู่ที่ประเทศออสเตรเลีย เมื่อเห็นว่าออเดอร์ส่วนใหญ่มาจากลูกค้าในแถบเอเชีย สามพี่น้องจึงย้ายฐานการผลิตไปอยู่ที่เคปอง ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ เมื่อปี ค.ศ. 1998 (พ.ศ. 2541)
ตัวถังของรถยนต์ “บูโฟรี” ผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์และเคฟลาร์ จึงมีน้ำหนักเบาและทนทานสุดๆ
ปัจจุบัน โรงงาน “บูโฟรี” มีแรงงานมากฝีมือทั้งสิ้น 108 คน และมีกำลังการผลิต 300 คันต่อปี (ผลิตได้จริงเพียง 60 คันต่อปี) สาเหตุที่ผลิตได้น้อยเนื่องจาก “บูโฟรี” เป็นรถยนต์หรูที่ผลิตขึ้นด้วยมือล้วนๆ แต่ละคันจะผ่านกระบวนการผลิตที่พิถีพิถันมากถึง 25 ขั้นตอน ทำให้ลูกค้าต้องรอรับรถนานถึง 2 ปี โดยรถยนต์ “บูโฟรี ลา โฮย่า (Bufori La Joya)” ซึ่งเป็นรถสไตล์คลาสสิกโบราณ ใช้เวลาในการผลิตนาน 3,500 ชั่วโมง ส่วนรถยนต์หรู ”บูโฟรี เจนีวา (Bufori Geneva)” ต้องใช้เวลาในการผลิตนานถึง 9,000 ชั่วโมง (รถยนต์ส่วนใหญ่ใช้เวลาในการผลิตต่อคันไม่ถึง 50 ชั่วโมง)
เศรษฐีท่านใดไม่รีบร้อน และมีเงินตั้งแต่ $150,000-350,000 (4.6 – 10.8 ล้านบาท) สำรองไว้ในกระเป๋า (ราคาเบื้องต้น ไม่รวมภาษี ฯลฯ) สามารถเป็นเจ้าของรถยนต์ ”บูโฟรี” โดยติดต่อผ่านดีลเลอร์ในประเทศออสเตรเลีย มาเลเซีย จีน สาธารณรัฐเชค รัสเซีย ฮ่องกง และสหรัฐอเมริกา แต่ถ้าอยู่ในประเทศที่ไม่มีดีลเลอร์ก็สามารถติดต่อไปที่สำนักงานใหญ่ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ เพื่อสั่งผลิตและระบุรายละเอียดที่ต้องการ เช่น การสั่งทำห้องโดยสารแบบนิรภัย หรือภายในประดับมุก เป็นต้น
นักธุรกิจและเศรษฐีนีชาวมาเลเซีย “อีฮง ตัน” สั่งผลิตรถยนต์หรู ”บูโฟรี เจนีวา” ที่ภายในติดตั้งอุปกรณ์สำหรับชงและดื่มชา
นายเจอร์รี่ คูรี ผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ บริษัท บูโฟรีฯ เปิดเผยว่าในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ยอดสั่งผลิตรถยนต์บูโฟรีโตขึ้นอย่างต่อเนื่องถึง 15-20% ต่อปี แต่ปัญหาใหญ่ก็คือ ออเดอร์ที่ได้รับมากเกินความสามารถในการผลิต จึงไม่สามารถรองรับความต้องการของลูกค้าทั่วโลก ด้วยเหตุนี้ เศรษฐีส่วนหนึ่งที่ใจร้อนและไม่อยากรอนาน จึงหันไปซื้อรถยนต์หรูอย่างเบนท์ลีย์ และโรลส์รอยซ์แทน
แม้การใช้แรงงานคนล้วนๆ โดยไม่ใช้เครื่องจักรจะทำให้ผลิตรถยนต์ได้น้อย แต่ผลที่ได้รับก็คุ้มค่า แถมลูกค้ายังสามารถแวะไปชมการผลิตรถของตนที่โรงงานได้ ที่สำคัญ ไม่มีรถ ”บูโฟรี” คันใดในโลกที่มีรายละเอียดตรงกัน เพราะแต่ละคันถูกออกแบบและผลิตขึ้นเพื่อเจ้าของรถโดยเฉพาะ
ปัจจุบันนี้ รถยนต์บูโฟรีมีให้เลือก 2 รุ่นด้วยกัน คือ รถยนต์ 2 ประตูสไตล์คลาสสิกโบราณ “บูโฟรี ลา โฮย่า” (เครื่องยนต์ V6, 2.7 ลิตร) ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรถยนต์อเมริกันในยุคปี 1930 (พ.ศ. 2473) และรถซีดานสุดหรู 4 ประตู “บูโฟรี เจนีวา” (เครื่องยนต์ V8, 6.4 ลิตร 470 แรงม้า) ซึ่งถูกนำมาเปิดตัวเป็นครั้งแรกในงาน “เจนีวา มอเตอร์โชว์” เมื่อปี ค.ศ. 2010