วันนี้ (20 ต.ค.) ที่สำนักสักยันต์ชื่อดัง อ.หนูกันภัย เลขที่ 95/5หมู่ 1 หมู่บ้านพูลศรี ถนนปทุมธานีสายใน ต.บางขะแยง อ.เมืองปทุมธานี ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสังเกตการณ์ที่สำนักสักยันต์ดังกล่าว หลังจากที่ได้มีเหตุการณ์ที่พระใบฎีกาเทียนชัย สุภัทโท เจ้าอาวาสวัดแม่ตะไคร้ ต.ทาเหนือ อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่ ได้ยื่นหนังสือให้กับนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(DSI)เพื่อให้ตรวจสอบกรณีเงินรับบริจาคของประชาชนร่วมทำบุญเพื่อนำเงินไปทำการสร้างพระหลวงปู่ทวดองค์ใหญ่มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้ว
วันนี้ที่สำนักสักยันของยังคงเปิดสักยันต์ให้กับลูกศิษย์ตามปกติ ซึ่งบรรยากาศทั่วไปอาจจะเงียบเหงาไปบ้าง โดยอาจารย์หนู เปิดเผยว่า ไม่อยากจะให้มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นเลย แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วก็ต้องว่ากันไป สำหรับเรื่องเงินที่ทางเจ้าอาวาสวัดแม่ตะไคร้ จ.เชียงใหม่ ได้ทำเรื่องร้องเรียนกับดีเอสไอนั้น ทางอาจารย์มีหลักฐานการจ่ายเงิน เพื่อนำไปสร้างหลวงปู่ทวดอยู่แล้ว 70 ล้านบาท นี่ยังไม่รวมค่าสักยันที่มอบให้อีกกว่า 20 ล้านบาท ซึ่งอาจารย์ก็ได้เดินทางไปที่วัดแม่ตะไคร้และสักยันต์ให้กับลูกศิษย์ที่นั่นประมาณ 30 ครั้ง ซึ่งแต่ละครั้งนั้น จะได้เงินครั้งละนับล้านบาท ซึ่งทางวัดจะเป็นคนดำเนินการเรื่องเงินตรงนี้ทั้งหมดโดยที่อาจารย์เองไม่เคยได้จัดการกับเงินตรงนี้เลย
ด้าน พระใบฎีกาเทียนชัย ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านทางโทรศัพท์ว่า ตามที่อาจารย์หนู กันภัย ได้โชว์หลักฐานว่าได้จ่ายเงินให้ทางวัดมาครั้งละ10 – 20 ล้านนั้น อาตมายืนยันว่าไม่เป็นความจริงและไม่มีทางเป็นไปได้เพราะตั้งแต่เริ่มสร้างหลวงปู่ทวดมาตั้งแต่ปี 2551 อาตมาจะได้เงินมาแต่ละครั้งแค่หลักแสนเท่านั้น และในส่วนของใบอนุโมทนาบัตร อาตมาจำได้เมื่อครั้งที่เททองหล่อชิ้นส่วนหลวงปู่ทวดที่หน้าสำนักสักยันต์ อ.จารย์หนู เมื่อปี พ.ศ.2551 อาตมาได้ทิ้งใบอนุโมทนาบัตรไว้ประมาณ 3 เล่ม เล่มละ 100 ใบ ที่อาตมาเซ็นชื่อไว้และใช้ไปมีประมาณ 100 ใบ เท่านั้น ส่วนที่เหลือนั้นถ้ามีการเอามาใช้ เพื่อเป็นพยานหลักฐาน จะต้องมีการตรวจสอบลายเซ็นว่าของอาตมาหรือไม่