เมื่อ 20 ต.ค. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า พ.ต.อ.ปิติ นฤขัตรพิชัย ผกก.กก.สส.ภ.จว.พิษณุโลก ได้ประชุมชี้แจงแนวทางการทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานปราบปรามยาเสพติดภาค 6 และเจ้าหน้าที่ทั้งและนอกเครื่องกว่า 70 นายที่ห้องประชุม สภ.เมืองพิษณุโลก ก่อนเข้าตรวจค้นสถานบันเทิงในพื้นที่เทศบาลนครพิษณุโลก ตามคำสั่งของ พล.ต.ต.พชร บุญญสิทธิ์ ผบก.จว.พิษณุโลก และนโยบายของรัฐบาลในการปราบปรามยาเสพติดและสิ่งผิดกฏหมาย ในที่ประชุมได้กำหนดสถานบันเทิงเอาไว้ 2 แห่งคือ สถานบันเทิงหมอนไม้ ตั้งอยู่หน้าสนามกีฬากลางจังหวัด และผับดังปิกัสโซ่ ชั้น 4 โรงแรมท็อปแลนด์พล่าซ่า พร้อมแสดงภาพสถานบันเทิงทั้งสองแห่งที่จะเข้าไปตรวจสอบ เพื่อป้องกันเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น
เมื่อมาถึงเจ้าหน้าที่ได้ปิดกั้นประตูทางเข้าเอาไว้ เพราะด้านในมีนักเที่ยวทั้งหญิงชายจำนวนมาก เพื่อป้องกันนักท่องราตรีหลบหนีออกมาด้านนอก จากนั้นชุดควบคุมหน้าเวทีได้สั่งให้สถานบันเทิงหยุดเปิดสียงเพลงและเปิดไฟให้สว่างทุกดวง ก่อนชุดตรวจค้นได้เข้าไปตรวจตามโต๊ะต่างๆของนักเที่ยว พร้อมกับสุ่มควบคุมตัวบางคนที่ต้องสงสัยว่าอาจจะเสพยาเสพติด นำตัวมาให้ ปปส.ตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด จากการตรวจนักท่องเที่ยว 30-40 คน พบว่ามีนายนิรุจน์ ภู่พุฒ อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 93 ม.3 ต.หอกลอง อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก มีปัสสาวะสีม่วง เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวเอาไว้ พร้อมพาตัวไปตรวจค้นที่รถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า สีดำ ทะเบียน กธ-4801 พิษณุโลก ที่จอดไว้ถนนด้านหน้า พบอาวุธมีดยาวกว่า 2 ฟุต จำนวน 1 เล่ม แต่ไม่พบยาเสพติด เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไปที่สถานีตำรวจ เพื่อสอบสวนอีกครั้ง
หลังจากนั้นชุดปฏิบัติได้นำกำลังเข้าตรวจค้นที่ผับปิกัสโซ่ ชั้น 4 โรงแรมท็อปแลนด์พล่าซ่า พบมีนักท่องราตรีจำนวนมาก กำลังเต้นโยกย้ายส่ายสะโพกกันสนุกสนาน เจ้าหน้าที่จึงให้หยุดเสียงเพลง พร้อมกับกันไม่ให้ออกจากสถานบันเทิง เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจค้นตรวจสอบ ซึ่งในสถานบันเทิงแห่งนี้มีทั้งนักท่องเที่ยวเป็นชายหญิงจำนวนมาก นอกจากนั้นยังชาวต่างชาติอีกด้วย เจ้าหน้าที่ได้สุ่มควบคุมนักท่องเที่ยวทั้งไทยและชาวต่างชาติมาตรวจปัสสาวะ พร้อมกันได้เชิญตัวหญิงสาวที่นุ่งน้อยห่มน้อยจำนวนหลายคน มาตรวจหาสารเสพติดเช่นกัน หลังตรวจค้นปรากกว่าไม่พบผู้ต้องสงสัยเสพยาเสพติด จึงได้ยุติการตรวจค้นในวันนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การตรวจค้นครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ไม่พบยาเสพติดแม้แต่อย่างเดียว เป็นไปได้ว่าก่อนเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นมีข่าวรั่ว ทำให้นักท่องเที่ยวรู้ตัวเสียก่อน