13 ชายหาดสุดอเมซิ่งที่ได้ชื่อว่า "แปลกที่สุดในโลก" (ตอนที่ 1)

 

 

 

 

 

13 ชายหาดสุดอเมซิ่งที่ได้ชื่อว่า “แปลกที่สุดในโลก” 

 

นิตยสาร “ทราเวล แอนด์ ลีเชอร์ ” ฉบับเดือนมิถุนายน 2012 แนะนำ 13 ชายหาด “แปลกที่สุดในโลก” เอาใจนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์อันแปลกใหม่และอยากเห็นท้องทะเลในมุมมองที่แตกต่าง โดยชายหาดทั้งหมดนี้ล้วนเป็นผลงานสร้างสรรค์ของธรรมชาติทั้งสิ้น

 
พิงค์แซนด์ส บีช 
เกาะฮาร์เบอร์ ประเทศบาฮามาส

 
 
 
แม้ฮาร์เบอร์จะเป็นเกาะเล็กๆ ที่มีความยาวเพียง 3.5 ไมล์ (5.6 ก.ม.) และกว้างเพียง 1.5 ไมล์ (2.4 ก.ม.) แต่เกาะแห่งนี้ก็ไม่ธรรมดาเพราะเป็นที่ตั้งของ “ชายหาดสีชมพู” ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในชายหาดสวยที่สุดในทะเลแคริบเบียน ชายหาดสีชมพูที่ว่านี้ ทอดตัวเป็นแนวยาวบริเวณชายฝั่งด้านตะวันออกของเกาะ  สาเหตุที่ทำให้ชายหาดมีสีชมพูเป็นเพราะมีเปลือกสีแดงของสัตว์น้ำเซลล์เดียวประเภทแพลงตอน (foraminifera) ทับถมปะปนอยู่กับทรายสีขาวนั่นเอง
 
 
 
 
 
 
 
ปาปาโกเลีย บีช 
ฮาวาย สหรัฐอเมริกา
 
 
 
ชายหาดแห่งนี้เป็นที่รู้จักกันในนาม “หาดทรายสีเขียว”  เพราะบริเวณชายหาดเต็มไปด้วยผลึกแร่โอลิวีนสีเขียวมะกอกที่ไหลลงมา (พร้อมลาวา)  จากกรวยกรวดภูเขาไฟ  “ปูมาฮาน่า” เหนือชายหาด    ซึ่งการเดินทางไปเที่ยวชมต้องใช้ความอดทนและความพยายามเป็นอย่างมาก เพราะต้องเดิน (หรือนั่งรถโฟร์วีล) ลัดเลาะไปตามหน้าผาที่ค่อนข้างร้อนเป็นระยะทางกว่า 4 ก.ม. จากนั้นก็ไต่ลงไปทางด้านล่าง จึงจะได้ชื่นชมความงามของชายหาด
 
 
 
 
 
 
หาดเจนิปาบู 
เมืองนาตาล รัฐรีโอกรันดีโดนอร์เต ประเทศบราซิล
 
 
 
ชายหาดแห่งนี้ถูกโอบล้อมด้วยเนินทรายขนาดใหญ่ยักษ์แทนที่จะเป็นหาดทรายราบเรียบเหมือนชายหาดทั่วไป นักท่องเที่ยวที่เดินทางไปเยือนชายหาดแห่งนี้จึงได้เที่ยวแบบทูอินวัน เพราะถ้าหันหลังให้ทะเลก็จะให้ความรู้สึกเหมือนกำลังอยู่ท่ามกลางทะเลทรายในแถบตะวันออกกลาง แต่พอหันกลับมาอีกด้านก็จะพบกับความงามของมหาสมุทรแอตแลนติก แถมที่นี่ยังมีกิจกรรมสุดท้าทายให้ทำหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นการนั่งรถบั๊กกี้ตะลุยเนินทราย การขี่อูฐ หรือเล่นแซนด์บอร์ด เป็นต้น

 
 
 
 
 
หาดธันเดอร์ โคฟ 
รัฐปรินซ์เอ็ดเวิร์ด ไอส์แลนด์ ประเทศแคนาดา
 
 

ปรินซ์เอ็ดเวิร์ด ไอส์แลนด์  เป็นเกาะที่มีแนวชายหาดยาวรวมกันมากกว่า 500 ไมล์ (805 ก.ม.) และชายหาดครึ่งหนึ่งของที่นี่ล้วนมีทรายเป็นสีแดงเนื่องจากมีเหล็กออกไซด์เป็นส่วนประกอบในปริมาณสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณชายฝั่งทางตอนใต้ของเกาะ ซึ่งจะมีชายหาดลักษณะดังกล่าวหลายแห่ง จนถูกเรียกขานว่าเป็นฝั่ง “เรดแซนด์ส ชอร์” แต่ถ้าอยากไปเยี่ยมชมชายหาดสีแดงชื่อดัง “ธันเดอร์ โคฟ” ก็ต้องมุ่งหน้าไปทางตอนเหนือของฝั่ง “กรีนเกเบิลส์ ชอร์” ซึ่งมีชายหาดและหินทรายสีแดงเข้ม
 
 
 
 
 
 
 
 
75 ไมล์บีช 
เกาะเฟรเซอร์ รัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย
 
 
บริเวณชายฝั่งด้านทิศตะวันออกของเกาะเฟรเซอร์ มีชายหาดทอดตัวเป็นแนวยาว 75 ไมล์ (กว่า 120 ก.ม.) ซึ่งถ้ามองลงมาจากเครื่องบืนจะแลดูคล้ายถนนเรียบชายฝั่ง แต่ถึงไม่ใช่ก็เหมือนใช่ เพราะชายหาดที่ถูกขึ้นทะเบียนให้เป็น “มรดกโลกทางธรรมชาติ” แห่งนี้ถูกใช้เป็นถนนสำหรับรถขับเคลื่อนสี่ล้อและรันเวย์ (ทางขึ้น-ลงเครื่องบิน) ในขณะเดียวกัน ถึงกระนั้นก็ยังมีพื้นที่ปลอดภัยไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ลงเล่นน้ำ อาบแดด และจุดที่นักท่องเที่ยวโปรดปรานสุดๆ ก็คือ “แชมเปญ พูลส์”  ซึ่งมีลักษณะเป็นสระน้ำธรรมชาติที่ถูกรายล้อมด้วยโขดหิน นักท่องเที่ยวจึงลงเล่นน้ำได้อย่างปลอดภัยแม้ว่าคลื่นในบริเวณดังกล่าวจะซัดค่อนข้างแรงก็ตาม

 
 
 
 
 
 
โบลเดอร์ส บีช
เมืองเคปทาวน์ ประเทศแอฟริกาใต้
 
 
 
ชายหาดแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติเทเบิ้ล เมาน์เท่น มีความโดดเด่นสะดุดตาตรงที่มีก้อนหินแกรนิตขนาดใหญ่ยักษ์ อายุราวๆ 540 ล้านปี ตั้งเรียงรายอยู่รอบบริเวณ นอกจากการลงเล่นน้ำและนอนอาบแดดริมชายหาดแล้ว ชายหาดแห่งนี้ยังเหมาะสำหรับคนรักสัตว์ เพราะที่นี่เป็นถิ่นอาศัยของนกเพนกวินแอฟริกันจำนวนกว่า 3 พันตัว  นักท่องเที่ยวจึงสามารถเฝ้าดูพวกมันว่ายน้ำและอาบแดดบนชายหาดส่วนตัว (ของนกเพนกวิน) ได้ในระยะใกล้ เห็นรูปร่างหน้าตาน่ารักอย่างนี้ ขอบอกว่าพวกมันมีจะงอยปากที่แหลมคมมาก ทั้งยังดุอีกด้วย 
 
 
 

** โปรดติดตามตอนต่อไป **
 
 
 
Credit: http://paow007.wordpress.com/
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...