วันนี้ ( 19 ต.ค. ) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองมาอาเร็ต อัล-นูแมน ประเทศซีเรียว่า ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของเครื่องบินขับไล่กองทัพซีเรีย ที่ทิ้งระเบิดโจมตีฐานที่มั่นของกลุ่มกบฏในเมืองมาอาเร็ต อัล-นูแมน ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ เมื่อวันพฤหัสบดี ยังผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 49 ศพ ในจำนวนนี้เป็นเด็กถึง 29 ศพ และบาดเจ็บอีกจำนวนมาก
 

นายจัฟฟาร์ ชาร์ฮูบ หนึ่งในเจ้าหน้าที่กู้ภัย กล่าวว่า อานุภาพของระเบิดทำลายอาคาร 2 หลัง และมัสยิดอีก 1 แห่ง ซึ่งมีผู้หญิงและเด็กจำนวนมากลี้ภัยอยู่ภายใน โดยในจำนวนเด็กที่เสียชีวิตทั้งหมด มีทารกอายุเพียง 9 เดือนรวมอยู่ด้วย ขณะที่อีกศพหนึ่งศีรษะขาด และอีกศพเสียชีวิตทั้งที่ยังขี่จักรยานอยู่ ทั้งนี้ ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลซีเรียเข้ายึดครองพื้นที่ดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 9 ต.ค. เพื่อตั้งฐานทัพตลอดแนวชายแดนที่ติดกับตุรกี
 

อย่างไรก็ตาม มีผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์โจมตีรุนแรงครั้งนี้ 3 ราย 1 รายเป็นเด็กชายวัยเพียง 2 ขวบ รอดชีวิตอยู่ในอ้อมแขนของบิดาซึ่งเสียชีวิตอยู่ท่ามกลางซากปรักหักพัง ส่วนผู้รอดชีวิตอีกรายกล่าวว่า ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่อยู่ระหว่างเดินทางจากค่ายอพยพ เพื่อมุ่งหน้ากลับบ้าน โดยทุกคนต่างคิดว่า อันตรายและความรุนแรงทั้งหลายได้ผ่านพ้นไปแล้ว โดยหารู้ไม่ว่า เครื่องบินรบของกองทัพซีเรียหลายลำจะระดมทิ้งระเบิดทั่วเมืองมาอาเร็ต อัล-นูแมน ตลอดทั้งวัน
 

ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศอย่างรุนแรงดังกล่าว มีขึ้นก่อนหน้าที่นายลัคห์ดาร์ บราฮิมี ทูตพิเศษของสหประชาชาติ ( ยูเอ็น ) และสันนิบาตอาหรับ จะเดินทางถึงกรุงดามัสกัส เพื่อแถลงเรียกร้องขอให้มีการหยุดยิงเนื่องในวันอีดิลอัฏฮา หรือวันตรุษใหญ่ ซึ่งจะเริ่มขึ้นในวันที่ 26 ต.ค. เรื่อยไปเป็นเวลา 4 วัน