วันนี้ (18 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวเดลินิวส์ประจำประเทศสหรัฐอเมริกา รายงานว่าหนังสือพิมพ์ปาล์ม บีช โพสต์ ประจำวันที่ 15 ต.ค.รายงานข่าวว่า เจ้าของร้านอาหารไทยและเพื่อน 4 คน รวมทั้งพนักงานร้านอาหาร คนไทยอีก 28 คน ถูกจับข้อหาจ้างวานทำกรีนการ์ด (บัตรเขียว-ใบอนุญาตสำหรับผู้อพยพถาวรในสหรัฐอเมริกา)ปลอม
จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรเมืองเวโร บีช รัฐฟลอริด้า แจ้งว่าเมื่อวันที่ 11 ต.ค. เจ้าหน้าที่ได้บุกเข้าจับนางทิพย์ฝัน (ไม่ทราบนามสกุล) เจ้าของร้านอาหารซาร่าห์ ทิพย์ฝัน บางกอก เรสเตอรองท์ ตั้งอยู่บนถนนโฟร์ตี้ อเวนิว พร้อมเพื่อนอีก 3 คน ในข้อหาได้จ่ายสินบนให้แก่สายลับซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และศุลกากร ของกลางเงินสด 3.13 แสนดอลลาร์ หรือประมาณ 9.39 ล้านบาท เพื่อแลกกับการทำกรีนการ์ดปลอมให้แก่คนงาน 28 คนจากประเทศไทย
จากบันทึกเอกสารของศาลแจ้งว่า ร้านอาหารซาร่าห์ ทิพย์ฝัน บางกอก เรสเตอรองท์ ถูกปิดเมื่อเร็วๆ นี้ เนื่องมาจากการสืบสวนทางลับของสายสืบในช่วง 11 เดือนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สายลับได้แสดงตนเป็นบุคคลผู้สามารถจะทำกรีนการ์ดปลอมให้แก่พนักงานได้ ในราคา 2 หมื่นดอลลาร์ต่อคน โดยให้จ่ายเงินล่วงหน้าคนละ 1 หมื่นดอลลาร์ ส่วนที่เหลือจะจ่ายในวันรับกรีนการ์ดปลอม
ทั้งนี้เอกสารของศาลระบุว่านางทิพย์ฝัน(Tipfun) เจ้าของร้าน เป็นผู้ริเริ่มขบวนการนี้ โดยศาลกล่าวว่า นางทิพย์ฝัน ได้กระทำผิดกฎหมายมาตั้งแต่วันที่ 22 ธ.ค.2554 ถึง ต.ค.2555 นอกจากนางทิพย์ฝันแล้ว ยังมีผู้ร่วมขบวนการชื่อนายสถาพร พนมวัน ณ อยุธยา เจ้าของร้านไก่ทอดที่เมืองกิ๊ฟฟอร์ด นายฉัตรชัย นครไพร เจ้าของห้องอาหารไทยที่เมืองเมลเบิร์น พร้อมทั้งน้องสะใภ้ของฉัตรชัย คือนางบัวติ่ง น่วมปะโทน โดยเอกสารของศาลไม่ได้ระบุชื่อร้านอาหารทั้ง 2 แห่งไว้ในบันทึก
เอกสารของศาลเปิดเผยต่อไปว่า นางทิพย์ฝันผู้จ้างวานทำกรีนการ์ดปลอมนี้ ได้มอบเงินให้แก่สายลับ และได้เป็นผู้ประสานงานให้สายลับพบกับพนักงานที่ต้องการกรีนการ์ดปลอมที่บ้านของเธอ หรือที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งที่เมืองฟอร์ดเพี๊ยซ ซึ่งเธอเคยเป็นเจ้าของมาก่อน ในการพบกันระหว่างพนักงานที่อยู่อย่างผิดกฎหมายหลายคนกับสายลับครั้งหนึ่ง นางทิพย์ฝัน ได้บอกแก่สายลับว่าอย่านับเงินสดต่อหน้าพนักงานที่ต้องการกรีนการ์ดปลอม เพราะทางผู้ประสานงานได้เรียกร้องเงินจากผู้ต้องการมากเกินกว่าที่ทางสายลับเรียกร้อง อย่างไรก็ตาม พนักงานหลายคนได้ไปหานางทิพย์ฝัน เพื่อนัดหมายให้ได้พบกับสายลับ และในการพบกับสายลับครั้งแรก นางทิพย์ฝันตกลงจะจ่ายค่าทำกรีนการ์ดปลอมในราคา 2 หมื่นดอลลาร์ต่อคน
นอกจากนี้เอกสารของศาลยังระบุอีกว่า นางทิพย์ฝันอาสาจะแนะนำเจ้าของห้องอาหารไทยคนอื่นๆ ให้แก่สายสืบลับได้รู้จัก เพื่อทำกรีนการ์ดปลอมให้แก่พนักงานอื่นๆ ด้วย.