กัมพูชา แถลงการณ์ ระบุ 2 ประเทศ ยังเข้าใจกันดี วอนประชาชน ร่วมกันถวายอาลัยอดีตกษัตริย์ และอย่าเข้าใจผิด หากพบเห็นภาพตัดต่อดัดแปลง เพราะจะส่งผลให้เกิดปัญหาการเมือง และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ด้าน ฐปนีย์ ส่งจดหมายขอโทษชาวกัมพูชา

            วันนี้ (19 ตุลาคม) มีรายงานข่าวว่า รัฐบาลกัมพูชาออกแถลงการณ์อ้างคำกล่าวของ โฆษกกองการข่าวและโต้ตอบเร็ว ในคณะรัฐมนตรี ถึงกรณีมีการเผยแพร่การกระทำของทีมข่าวชาวไทย ผ่านทางเฟซบุ๊ก ก่อนมีการขอพระราชทานอภัยโทษที่สถานทูตกัมพูชาในกรุงเทพฯ โดยเมื่อวานนี้ (18 ตุลาคม) นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีของไทย ได้ติดต่อทางโทรศัพท์ไปยัง สมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เพื่อแสดงความเสียใจต่อการกระทำที่เกิดขึ้น โดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งผู้นำทั้ง 2 ประเทศ เข้าใจดีถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

            ทั้งนี้ โฆษกกองการข่าว ยังระบุว่า ขอให้ประชาชนกัมพูชา ร่วมกันไว้อาลัยอดีตกษัตริย์ พระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ และอย่าเข้าใจผิด หากพบเห็นภาพตัดต่อดัดแปลง เพราะจะส่งผลให้เกิดปัญหาการเมืองและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ซึ่งแถงการณ์ดังกล่าวมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้


แถลงการณ์กองการข่าวและโต้ตอบเร็ว

            เมื่อวันที่ 16 และ 17 ตุลาคม 2555 หลังจากมีการเผยแพร่รูปภาพพระบรมฉายาลักษณ์ของสมเด็จพระนโรดมสีหนุ ที่เคารพรักของประชาชนกัมพูชาใต้เท้าของผู้สื่อข่าวประจำสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ของไทย นางสาวฐปณีย์ เอียดศรีไชย และที่กลุ่มผู้ไม่หวังดี (อคติ) และกลุ่มที่ชอบสร้างกระแสบางกลุ่มได้โพสต์รูปตามเว็บไซต์สังคมออนไลน์ Facebook ซึ่งแสดงเกินความเป็นจริง อันอาจทำให้สาธารณชนเกิดความเข้าใจผิด ดังนั้น โฆษกกองการข่าวและโต้ตอบเร็วขอกราบเรียนสาธารณชนให้ทราบ ดังนี้

            1. ตามแหล่งข่าวความเป็นจริง ทราบว่าในความเป็นจริงผู้สื่อข่าวคนดังกล่าวได้ขอยืมหนังสือพิมพ์ 1 ฉบับจากผู้สื่อข่าวชาวกัมพูชาเพื่อนำไปศึกษาเกี่ยวกับชีวประวัติของสมเด็จพระนโรดมสีหนุ หลังจากนั้น ผู้สื่อข่าวไทยคนดังกล่าวได้เริ่มต้นรายงานข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์ทั่วไปของ พระราชพิธีฯ ในขณะนั้น ผู้สื่อข่าวคนดังกล่าวได้วางหนังสือพิมพ์พร้อมกับสมุดบันทึกและโทรศัพท์ เคลื่อนที่ของตนบนพื้นเพื่อทำการรายงานข่าว

            หลังจากนั้น ในช่วงกลางวันได้มีข่าวรูปพระบรมฉายาลักษณ์ปรากฏใต้เท้าของผู้สื่อข่าวคนดัง กล่าวเผยแพร่ทาง Facebook ซึ่งข่าวดังกล่าวอาจกระทบจิตใจประชาชนกัมพูชา และอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมทั้งอาจมีผลกระทบต่อความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างทั้งสองประเทศ ดังนั้น ผู้สื่อข่าวไทยคนดังกล่าวที่มีความกังวล และหวาดกลัวอย่างมาก จึงได้เดินทางไปกราบขอพระราชทานอภัยโทษต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ฯ ที่บริเวณหน้าพระบรมมหาราชวังโดยทันที

            2. เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2555 เมื่อเดินทางกลับถึงกรุงเทพฯ ผู้สื่อข่าวชาวไทย ได้แก่ นางสาวฐปณีย์ เอียดศรีไชย และนายมงคล เจริญ รองผู้อำนวยการ สถานีโทรทัศน์ ช่อง 3 ของไทย ได้เดินทางไปคุกเข่ากราบขอพระราชทานอภัยโทษ และขอโทษต่อประชาชนกัมพูชาเบื้อง หน้าพระบรมฉายาลักษณ์สมเด็จพระนโรดมสีหนุ ณ สถานเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำกรุงเทพฯ

            3. ในวันเดียวกันนั้น สถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ของไทยได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงความเป็นจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยยืนยันว่ามิได้มีเจตนาที่จะหมิ่นพระบรมเดชานุภาพหรือแสดงความไม่เคารพต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ซึ่งเป็นที่เคารพรักของประชาชนกัมพูชา เพราะ ณ ขณะนั้นเป็นช่วงเวลาที่ปฏิบัติหน้าที่รายงานข่าวพระราชพิธีพระบรมศพที่ผู้สื่อข่าวคนดังกล่าวต้องวางสัมภาระส่วนตัวต่าง ๆ โดยมีโทรศัพท์เคลื่อนที่ สมุดบันทึก และหนังสือพิมพ์ที่มีพระบรมฉายาลักษณ์สมเด็จพระนโรดมสีหนุ ที่ตีพิมพ์หลังจากที่เสด็จสวรรคต และวางบนพื้นโดยไม่เจตนา ซึ่งได้วางห่างจากตัวพอสมควร แต่รูปภาพที่มีการเผยแพร่ทาง Facebook เป็นภาพที่ถ่ายจากด้านข้างเยื้องมาทางด้านหลัง ทำให้ดูเหมือนของทั้งหมดอยู่ใกล้กับเท้า

            อย่างไรก็ดี ทั้งผู้สื่อข่าว นางสาวฐปณีย์ และผู้แทนสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ของไทย ได้แสดงความเสียใจเป็นอย่างยิ่งต่ออุบัติเหตุที่เกิดขึ้น และได้ทำการขออภัยโทษต่อรัฐบาลและประชาชนกัมพูชา และหวังว่าเหตุการณ์นี้จะไม่กระทบต่อความสัมพันธ์ของประเทศทั้งสอง เกี่ยวกับปัญหาที่อ่อนไหวนี้ และเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2555 นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีไทย ได้โทรศัพท์ถึงสมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เพื่อแสดงความเสียใจต่ออุบัติเหตุที่มิได้เกิดจากความตั้งใจนี้ และผู้นำของประเทศทั้งสองได้ทำความเข้าใจต่อปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างวันที่ 16-17 ตุลาคม ดังกล่าว

            โฆษกกองการข่าวและโต้ตอบเร็วของสำนักนายกรัฐมนตรีหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ประชาชนกัมพูชาที่อยู่ในช่วงเศร้าเสียใจต่อการเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระนโรดม สีหนุ จะมีความเข้าใจต่อเหตุการณ์ความเป็นจริง และหลีกเลี่ยงความเข้าใจผิดที่อาจเกิดจากการยุยงส่งเสริมของผู้ไม่ประสงค์ดี (ผู้มีอคติ) ที่ประสงค์จะสร้างความไม่สงบในสังคม และสร้างความไม่มีเสถียรภาพทางการเมือง ตลอดจนการสร้างความเป็นศัตรูกับประเทศเพื่อนบ้านต่าง ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการทางการเมืองของคนบางกลุ่ม เพื่อหลอกลวงความเห็นของสาธารณชนและทำลายความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างประชาชน และรัฐบาลของกัมพูชาและไทย

 
ราชธานีพนมเปญ
18 ตุลาคม 2555

และในวันเดียวกัน นางสาวฐปณีย์ เอียดศรีไชย ได้ทำจดหมายขึ้นฉบับหนึ่ง เพื่อเตรียมส่งไปยังประเทศกัมพูชา เพื่อแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากความไม่ตั้งใจ โดยในจดหมายดังกล่าว ได้ระบุข้อความดังนี้

ถึง พี่น้องประชาชนชาวกัมพูชา

            ดิฉัน นางสาวฐปณีย์ เอียดศรีไชย ผู้สื่อข่าว สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ พระมหาวีรกษัตริย์ พระวรราชบิดา แห่งราชอาณาจักรกัมพูชาผู้ทรงเป็นที่รักยิ่งของพี่น้องชาวกัมพูชา

            ดิฉันขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง ที่เป็นต้นเหตุให้เกิดภาพที่ไม่เหมาะสมกระทบ กระเทือนต่อความรู้สึกของพี่น้องชาวกัมพูชา ดิฉันขอยืนยันว่าไม่มีเจตนาที่จะกระทำการอันไม่สมควร แต่ยอมรับว่าไม่ระมัดระวังมากพอจนเกิดภาพที่ไม่เหมาะสมขึ้น ซึ่งทันทีที่ทราบข่าว ดิฉันได้กราบขอขมาต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ ที่หน้าพระราชวังทันทีในคืนวันที่ 16 ตุลาคม และตัดสินใจเดินทางกลับประเทศไทยในเช้าวันที่ 17 ตุลาคม เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ และแสดงความรับผิดชอบต่อการกระทำที่ไม่เหมาะสม

            และเมื่อเดินทางถึงประเทศไทย ดิฉันได้กราบขอพระราชทานอภัยโทษต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ ที่สถานเอกอัครราชฑูตกัมพูชาประจำประเทศไทยอีกครั้งหนึ่งเพื่อยืนยันว่า ดิฉันให้ความเคารพรักและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ของกัมพูชา ขณะที่สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 หน่วยงานต้นสังกัดของดิฉัน ได้ออกแถลงการณ์ขอพระราชทานอภัยโทษ พระบรมวงศานุวงศ์แห่งราชอาณาจักรกัมพูชา และขออภัยต่อรัฐบาลและประชาชนชาวกัมพูชาด้วย

            ดิฉันตระหนักดีถึงความรู้สึกของพี่น้องชาวกัมพูชาที่ให้ความเคารพรัก เทิดทูนและจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ เพราะดิฉันเองก็มีความเคารพรัก เทิดทูน และจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยเช่นกัน และการเดินทางไปทำข่าวการสวรรคคตของพระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ ก็มาจากเหตุผลที่ดิฉันให้ความเคารพและชื่นชมพระองค์ ที่ทรงมีคุณูปการต่อการสร้างสันติภาพ ความมั่นคง และความเป็นอยู่ของชาวกัมพูชาตลอดพระชนม์ชีพของพระองค์

            ดิฉันยืนยันว่า จะไม่ทำให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก และคาดหวังว่า ปัญหานี้จะไม่กระทบกระเทือนความสัมพันธ์อันดีระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศ


จึงกราบขออภัยพี่น้องชาวกัมพูชา มา ณ โอกาสนี้

ฐปณีย์ เอียดศรีไชย
18 ตุลาคม 2555

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก