แค่จูบ...ศักดิ์ศรีของผู้หญิง

 

 

แค่จูบ...ทำไมต้องเป็นเรื่องเป็นราว ต้องแจ้งความขึ้นโรงขึ้นศาล ตลกสิ้นดี...ที่คนในสังคมส่วนใหญ่ยังมองเรื่องการกระทำอนาจารต่อผู้หญิงเป็นเรื่องตลก เป็นเรื่องธรรมดา

กรณีสาววัย 26 ปี ที่เธอถูกทันตแพทย์วัยใกล้ๆ 60 จูบขณะที่เธอกำลังผ่าฟันคุด ทั้งๆ ที่ก่อนจะเข้ามารักษาเธอได้โทร.นัดกับทันตแพทย์ผู้หญิงซึ่งเป็นภรรยาของหมอฟันคนดังกล่าวไว้แล้ว แต่เพราะความโชคร้ายหรือเพราะความต้องการของชายชราที่สวมชุดขาวก็ไม่ทราบ เมื่อหมอฟันหญิงฉีดยาชาให้เธอเสร็จแล้วก็เดินออกไปข้างนอกขณะกำลังรอให้ยาออกฤทธิ์ ไม่นานจากมือนุ่มๆ ก็กลายเป็นมืออันหยาบกร้านของหมอฟันผู้ชาย

เพราะคิดไม่ถึงเธอจึงยอมให้หมอฟันสูงวัยทำการผ่าตัดฟันคุดต่อไป แต่แล้วชายชราก็อาศัยชุดขวาบังหน้าแสดงพฤติกรรมที่แสนจะบรรยายด้วยก้มลงจูบปากคนไข้สาว

หลังจากนั้น เธอตัดสินใจแจ้งความเพื่อเอาผิดกับหมอฟันสูงวัย แต่เพราะมีผู้ใหญ่ที่ครอบครัวที่นับถือเข้ามาไกล่เกลี่ยเพื่อให้เรื่องฉาวหนนี้จบลง เธอจำเป็นต้องยอม แต่เพราะต้องการให้เข็ดหลาบเธอจึงเรียกร้องค่าเสียหายเป็นเงิน 3 แสนบาท

เรื่องน่าจะจบ ไม่น่าจะต้องมาเป็นข่าว แต่เพราะหมอฟันคนดังกล่าวมีการเจราจาต่อรองเพื่อขอลดราคาค่าเสียหาย และไม่ยอมต่อข้อเรียกร้อง เธอจึงตัดสินใจเดินหน้าเพื่อดำเนินคดี

พฤติกรรมการเฉยเมินต่อการถูกกระทำอนาจารของผู้หญิง โดยเฉพาะผู้ชายที่ต้องเกี่ยวข้องกับการเข้ามาช่วยเหลือเพื่อคลี่คลายคดีดังกล่าว ถ้าไม่เป็นข่าวคดีนี้ที่ผู้ถูกกระทำแค่โดนจูบจะถูกหยิบยกขึ้นมาสอบสวนหรือไม่ ถ้าไม่เป็นข่าวแค่ผู้ถูกกระทำโดนจูบ หน่วยงานต่างๆ จะให้ความสำคัญจนต้องเข้ามาตรวจสอบพฤติกรรมของหมอคนที่ถูกกล่าวหาหรือไม่

ทันทีที่เป็นข่าว หลายคนหัวเราะ หลายคนตัดสินไปแล้วว่าเป็นการแบล๊คเมล์หรือเปล่า ผู้หญิงให้ท่าหรือเปล่า ถ้าเพียงเริ่มต้นก็อคติกับผู้หญิงเสียแล้ว มุมมองต่อการทำงานเพื่อผู้หญิงก็คงไปไม่ไกล

สังคมไทยมักให้ความสำคัญกับเรื่องที่กระทบต่อชีวิต มักคิดว่าการกระทำอนาจารเป็นเรื่องไม่หนักหนา แต่ลองคิดไหมว่าการทำอนาจาร การลวนลามคือจุดเริ่มต้นของการกระทำที่รุนแรง หรือถ้าลองมองกลับกันถ้าผู้ถูกกระทำเป็นตัวคุณเองหรือคนในครอบครัวเรื่องเล็กจะกลายเป็นเรื่องใหญ่หรือไม่

หัวหน้าศูนย์พิทักษ์สิทธิสตรี มูลนิธิเพื่อนหญิง บอกว่า ในกรณีนี้ ทัศนคติของคนทั่วไปมักมองว่ามันไม่หนักหนาร้ายแรง ทั้งที่ความจริงแล้วมันเป็นเรื่องหนักหนามาสำหรับผู้หญิงคนหนึ่งที่โดนใครก็ไม่รู้มาจูบปาก

"สังคมมักจะเห็นใจผู้ถูกกระทำความรุนแรงที่มีผลกระทบเลวร้ายต่อชีวิต แต่ถ้าไม่ถึงเลือดตกยางออก สังคมมักมองว่าไม่รุนแรง อีกทั้งในสายตาของผู้พิจารณาสอบสวนส่วนใหญ่เป็นผู้ชายก็จะคิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย เป็นคดีรก สน. ซึ่งเป็นความคิดที่ต่างจากผู้เสียหายอย่างสิ้นเชิง

"เรื่องนี้ถ้าไม่เกิดกับตัวเองหรือลูกหลาน สังคมก็มักมองว่าเป็นเรื่องขี้ประติ๋ว ไม่เข้าใจถึงความรู้สึก โดยเฉพาะด้านจิตใจที่ไม่สามารถประเมินค่าได้ จริงๆ แล้วสังคมน่าจะหันมาตระหนักและมีความเข้าใจที่ถูกต้องเสียที อย่ารอให้ผู้หญิงต้องถูกข่มขืนก่อนถึงจะหันมาสนใจ หันมาเห็นใจ"

อีกหนึ่งเสียงที่ต้องการเป็นกระจกสะท้อนในเรื่องดังกล่าว เธอเป็นผู้หญิงที่เคยถูกกระทำในคดีข่มขืน และต้องต่อสู้มานาน 10 ปี อาสามาเปิดใจหลังจากที่รับรู้ข่าวหมอฟันฉาวว่า ปัญหานี้ไม่เจอกับตัว ไม่รู้สึกหรอกว่ามันเป็นอย่างไร คนอื่นมักคิดว่าเดี๋ยวก็จบ เดี๋ยวก็ลืม แต่จริงๆ แล้วมันฝังอยู่ในใจตลอด คนอื่นอาจคิดว่าไม่หนัก แต่ผู้หญิงที่โดนกระทำ แม้แค่กอด จูบ ลูบ คลำ หรือเรื่องใหญ่อย่างโดนข่มขืน ถ้าเจอกันตัวมันหนักหนาทั้งนั้น

"บางครั้งเรารู้สึกว่าความยุติธรรมในเมืองไทยมันหายากจัง หายากพอๆ กับคนที่จะเข้าใจ เข้าใจในศักดิ์ศรีของผู้หญิง เข้าใจในความรู้สึกรับไม่ได้กับการที่จะถูกผู้ชายซึ่งเป็นใครก็ไม่รู้มากอด มาจูบ หรือมาข่มขืน คิดง่ายๆ ถ้าคุณเป็นผู้หญิงแล้วคุณโดนมันจะแย่แค่ไหน หรือถ้าคุณเป็นผู้ชาย ถ้าภรรยาหรือลูกสาวคุณโดนคุณจะคิดว่ามันเป็นเรื่องใหญ่ไหม ดิฉันอยากให้ทุกคนเห็นความสำคัญของผู้หญิงที่ถูกกระทำ ไม่ว่าจะโดนลวนลามหรือโดนข่มขืนให้คิดว่าเสียว่าผู้หญิงทุกคนเป็นญาติ เป็นลูกหลาน เรื่องเหล่านี้ก็คงจะได้รับความใส่ใจมากกว่าทุกวันนี้ พร้อมทั้งอยากให้กำลังใจผู้หญิงทุกคนที่ถูกกระทำ อยากให้กล้าที่จะลุกขึ้นมาสู้ ลุกขึ้นมาปกป้องศักดิ์ศรีของตัวเอง"

เคยสงสัยไหมว่าทำไมผู้หญิงถูกกระทำอนาจารมากขึ้น เคยสงสัยไหมว่าทำไมคดีข่มขืนถึงเยอะขึ้น และเคยสงสัยไหมว่าทำไมทุกวันนี้ผู้หญิงถูกฆ่าข่มขืนกลายเป็นศพมากขึ้น เหตุการณ์ต่างๆ เหล่านี้ เป็นเพราะคุณหรือเปล่า คุณเคยพูดคุยหัวเราะอย่างสนุกสนานเวลามีข่าวผู้หญิงถูกจับก้นหรือจับหน้าอกไหม เพราะคุณหรือเปล่าที่มองเรื่องการลวนลาม การทำอนาจารเป็นเรื่องเล็กๆ ไม่สนใจที่จะช่วยกันผลักดันหรือให้ความสำคัญกับเรื่องเล็กๆ เช่นนี้

เพราะคุณหรือเปล่าที่ชอบถามว่าผู้หญิงที่ตกเป็นข่าวสวยไหม เซ็กซี่ไหม และเป็นเพราะคุณหรือเปล่าที่คนในครอบครัวของคุณยังไม่เคยถูกกระทำเช่นนี้ คุณเลยไม่สนใจ ถ้าใช่...ยังไม่สายที่จะหันมาสนใจและช่วยกันทำให้เรื่องการทำอนาจาร เรื่องการถูกลวนลามกลายเป็นเรื่องใหญ่ อย่ารอ รอว่าเมื่อไรจะถูกข่มขืนแล้วฆ่า ถ้าคิดจะรอให้ถึงวันนั้น ผู้หญิงคนนั้นอาจเป็นคนใกล้ตัวคุณก็ได้ ใครจะรู้

Credit: มติชน
22 ก.ค. 52 เวลา 11:05 5,928 16 218
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...