เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 17 ต.ค. ผู้สื่อข่าว ข่าวสด รายงานว่า ร.ต.ท.สุทธิพงษ์ ห่มเมือง รองสารวัตรกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธร จ.ศรีสะเกษ สืบทราบว่า ที่บ้านหมู่ 8 บ้านกุดโง้ง ต.โพนข่า อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ มีการแอบลักลอบขายยาบ้าให้กับกลุ่มวัยรุ่น นักเรียน และนักศึกษา มาเป็นเวลานาน จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเฉพาะกิจ ตำรวจภูธร จ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วย นายเพิ่มวุฒิ ญาณัปปสุต หัวหน้าผู้ประสานงานศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด จ.ศรีสะเกษ เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการด้านการข่าว จากศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด จ.ศรีสะเกษ บุกเข้าทำการจับกุมตัวนายถาวร ภูทิพย์ หรือ ฉายา ‘จานดำ กุดโง้ง’ อายุ 25 ปี เอเยนต์ขายยาบ้ารายสำคัญในเขตพื้นที่ อ.เมืองศรีสะเกษ ได้ภายในบ้านหลังดังกล่าว พร้อมด้วย นายชาญวิทย์ ลาลุน อายุ 38 ปี และนายศุภชัย ภูทิพย์ อายุ 30 ปี
โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้จับกุมเครือข่าย ซึ่งเป็นบรรดาลูกค้าของนายถาวร ข้อหาเสพยาบ้าไปแล้ว จากนั้นจึงได้ขยายผลการจับกุม โดยติดต่อสั่งซื้อยาบ้าจากนายถาวร โดยนัดซื้อขายยาบ้าภายในห้องนอนที่บ้านหลังดังกล่าว แต่นายถาวรเกิดไหวตัวทันขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังเข้าจับกุม จึงได้วิ่งหลบหนีออกมาจากห้อง พร้อมด้วยนายชาญวิทย์ และนายศุภชัย เจ้าหน้าที่จึงได้วิ่งสกัดจับกุมจนเกิดการปลุกปล้ำกันอย่างอุตลุด และสามารถจับกุมตัวทั้ง 3 คน ได้ในที่สุด ซึ่งจากการตรวจค้นภายในห้องพักดังกล่าว พบยาบ้า จำนวน 161 เม็ด ที่แพ็คไว้ในถุง และหลอดเครื่องดื่มไว้เป็นอย่างดี เพื่อเตรียมกระจายขายให้กับลูกค้า
จากการสอบสวนเบื้องต้น นายถาวร หรือ จานดำ กุดโง้ง รับสารภาพว่า ตนมีพฤติกรรมแอบลักลอบขายยาบ้าจริง โดยซื้อยาบ้ามาจากเอเย่นต์ขายยาบ้ารายใหญ่รายหนึ่งในเขตพื้นที่ อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ ครั้งละ 400-1,000 เม็ด ในราคาเม็ดละ 200 บาท จากนั้นจะนำมาแบ่งขายในราคาเม็ดละ 350-400 บาท ซึ่งทำมาแล้วหลายครั้ง และเคยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดดังกล่าวจับกุมมาแล้วหลายครั้งเช่นเดียวกัน จนกระทั่งมาถูกจับกุมได้ในครั้งนี้ ร.ต.ท.สุทธิพงษ์ จึงได้แจ้งข้อกล่าวหากับนายถาวร ในข้อหามียาเสพติดให้โทษ ประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ส่วนนายชาญวิทย์ และนายศุภชัย แจ้งข้อหาเสพยาบ้า พร้อมตรวจยึดรถจักรยานยนต์ของนายถาวร 1 คัน จากนั้นจึงได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมด พร้อมของกลาง ส่งมอบให้พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองศรีสะเกษ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป