"เจ๊จิ๊ก" ควักกระเป๋า 10 ล้านทำครีมหน้าเด้ง ลงทุนถ่ายนู้ดโปรโมทครีมตัวเอง ลั่นไม่มีอายเพราะเซฟอย่างดี แต่ถ้ามีช็อตหลุดโผล่ก็ทำใจ เมินเสียงด่ามั่นเปล่าทำตัวอุบาทว์ทุเรศ เนื่องจากในภาพไม่มีของสงวนโผล่ ปัดจงใจทำท่าเลียนแบบ “อั้ม” พร้อมคุยโวธุรกิจไปได้สวยโกอินเตอร์แล้ว
เป็นแม่ม่ายกระดังงาลนไฟ อายุอานามจะเข้าเลข 5 แล้ว แต่ความเซ็กซี่สวยไม่สร่างของ "จิ๊ก เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์" ทำเอาทุกคนที่เห็นเป็นต้องเหลียวหลังมามองซ้ำแล้วซ้ำอีก โดยเฉพาะยามออกงานเธอจะขยันหาชุดหวือหวาแปลกใหม่มาใส่เรียกกระแสให้ตัวเองได้ทุกครั้ง ล่าสุดเจ๊จิ๊กได้สร้างความฮือฮาตกตะลึงให้กับวงการอีกระลอก หลังลงทุนเปลือยกายถ่ายนู้ด เป็นพรีเซนเตอร์ให้กับธุรกิจเครื่องสำอางของตัวเอง ภายใต้ชื่อ “กิ๊กกะไวท์” ซึ่งงานนี้เจ้าตัวเผยว่าเป็นธุรกิจของตัวเองล้วนๆ ไม่มีหุ้นส่วน โดยใช้งบลงทุน 10 ล้านบาท
"ก็ลงทุนไปประมาณ 10 ล้านค่ะ เป็นธุรกิจของพี่คนเดียว ไม่มีหุ้น เราอยากให้คนได้ใช้ของดีๆ ครีมพอใช้แล้วอย่างแรกมันจะใสก่อน จุดด่างดำบนใบหน้าจะใส แล้วค่อยมาลบรอยเหี่ยวย่น และวัยขนาดนี้แล้ว คนเราต้องดูแลรักษาหน้าตาให้ดูดี คนเราไม่มีแก่หรอก ที่ว่าแก่แล้วไม่กล้าแต่งไม่จริง อย่าคิดว่าตัวเองแก่ ถ้าแก่แล้วไปทำในสิ่งที่แก่ ก็จะแก่ไปเลย แต่ถ้ารู้ว่าแก่แล้วต้องลุกขึ้นมาบูรณะตัวเอง ให้มันรู้สึกว่ามั่นใจ ก้าวแต่ละก้าวในชีวิตต้องมีคุณค่าในตัวเอง"
เผยตัดสินใจไม่นานในการถ่ายนู้ดเพื่อโปรโมทเครื่องสำอาง มั่นภาพในโฆษณาไม่ผิดศีลธรรม เพราะไม่ได้ดูอุบาทว์ทุเรศ พร้อมโวธุรกิจกำลังโกอินเตอร์
"เรื่องถ่ายนู้ดตัดสินใจนานมั้ย ไม่ค่ะ เพราะว่างานชิ้นนี้มันเป็นงานของเราโดยตรง เราทำเพื่อความสุขของตัวเอง ซึ่งสองปีที่ผ่านมามีหนังสือติดต่อ ให้ถ่ายรูปในลักษณะแบบนี้ แต่เราคิดว่าถ้าไปทำกับนิตยสารแบบถ่ายตามชายทะเล จะเป็นแบบซื้อมาขายไป คุณค่าของเราที่อยู่ในหนังสือคงจะไม่มีแน่นอน เพราะเราไม่ใช่นางแบบ และก็คงจะทำท่าเซ็กซี่ไม่เท่านางแบบ เราเลยจินตนาการว่าสิ่งนี้มันน่าจะอยู่ด้วยตัวของเราเองจะดีกว่า ก็เลยปฏิเสธไป แต่จริงๆก็เสียดายเงินนะ จน ณ วันหนึ่ง 1-2 ปีผ่านมาเลยคิดว่า สิ่งนี้เราควรจะทำด้วยตัวเองได้แล้ว"
"กลัวคนจะมองว่าถ่ายเพื่อสร้างกระแสให้กับผลิตภัณฑ์ตัวเองหรือเปล่า แน่นอนเลย เพราะเกิดธุรกิจนี้แล้ว ถึงนิตยสารจะขอมาซื้อไปลงเราก็ไม่ขาย ต่อให้เป็นสิบล้านร้อยล้านก็ให้ไม่ได้ เพราะถือว่าเราต้องซื่อสัตย์กับธุรกิจตัวเอง ซึ่งตอนนี้ก็โกอินเตอร์ ฝรั่งเศสเอาไปแล้ว เวียดนามแล้ว มาเลเซียแล้ว เยอรมันแล้ว และก็ต้องไปโชว์ตัว ถ้าใครซื้อลิขสิทธิ์ของเราไป เราก็ต้องไปโชว์ตัวให้เขาด้วย"
"ผลพวงที่จะมีตามมา จากการนำรูปไปโฆษณา อันนี้เราไม่รู้ เพราะทำด้วยใจบริสุทธิ์ ทำด้วยความซื่อสัตย์จริงๆ ว่าธุรกิจของเราเกิดมาแล้ว แต่เราก็ยังไม่เข้าใจเรื่องการโฆษณาอะไรตรงนี้เท่าไหร่ แต่ว่ามันก็ไม่น่าที่จะผิดศีลธรรมอะไรทั้งสิ้น เราไม่ได้ทำท่าที่มันอนาจารทุเรศอุบาทว์ จนทุกคนจะต้องมาสัมภาษณ์ว่า อุ๊ย.....ทำไปได้ยังไง คำพูดนี้ยังไม่เคยได้ยิน มีแต่คนบอกว่าดูดี"
ทำใจไว้แล้วหากมีภาพช็อตหลุดโผล่ แย้มภาพเซ็กซี่กว่านี้ส่วนใหญ่อยู่ต่างประเทศ เพราะถ้าเผยแพร่ในไทยต้องถูกวิจารณ์เละแน่ ยันตัวเองไม่ได้ทำอะไรผิด เปล่าแก้ผ้าล่อนจ้อนจนเห็นของสงวน
"กลัวมั้ยว่าจะมีช็อตหลุด คือถ้ามันจะมีก็คงต้องมีอยู่แล้ว เราก็คงต้องทำใจแล้วล่ะ ซึ่งรูปที่ถ่ายมาจะไปอยู่ที่ต่างประเทศ ในเมืองไทยก็อาจจะมีบ้าง แต่ไม่ได้เป็นโปสเตอร์ จะมีแค่ที่เอามาโชว์ ที่เลือกเมืองนอก เพราะกลัวคนไทยจะวิพากษ์วิจารณ์มากไป แต่ต่างประเทศดูแล้วเขาก็ผ่านไปไม่ได้ว่าอะไรมากมาย คนไทยอาจจะมากมาย อุ๊ย....ทำไปได้อย่างไร ก็หลายๆ ปาก ส่วนพี่แดง(ระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช) คิดว่าไม่น่าจะออกมาพูดอะไร"
"คือคนจ้องกับคนเผลอมันมีอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นที่เราทำอย่างนี้ได้ ก็ต้องทำใจให้กว้าง ส่วนกระแสสังคมถ้าทำแล้วก็ไม่น่าจะกลัวนะ เพราะเราไม่ได้ทำอะไรผิด เราไม่ได้ไปเบียดเบียนใคร เราไม่ได้แก้ผ้าล่อนจ้อน ก็ต้องถามก่อนว่าเห็นของเรามั้ย ถ้าเห็นอันนี้เป็นสิ่งผิด แต่อันนี้ไม่เห็น มันเป็นท่านั่งที่เซ็กซี่มากกว่า ให้เห็นสังขารของคนแน่นอน แต่ว่าสังขารของเรายังดีอยู่ถึงกล้าทำ ที่เห็นจะเป็นครั้งแรก ครั้งสุดท้ายแล้วครั้งเดียวด้วย ของแบบนี้เขาไม่ทำกันบ่อยนะ ถ้าอย่างนั้นจะเรียกว่าโหล"
ปฏิเสธตั้งใจโพสท่าเลียนแบบ “อั้ม อธิชาติ ชุมนานนท์” พร้อมเผยวินาทีถ่ายทำจะนั่งถอดผ้าทีละชิ้น และไม่รู้สึกอายช่างภาพ มั่นเอาแขนปิดมิด
"ท่าเหมือนอั้ม ก็ดูเอาเองแล้วกันว่าใครสวยกว่ากัน แต่อั้มไม่มีหน้าอก (หัวเราะ) คุณอั้มก็เป็นสไตล์ของคุณอั้ม ต่างคนต่างไม่ได้ซ้อมกัน ไม่รู้เลยว่าท่าเหมือนกัน ไอเดียนี้มันเกิดจากของเราเอง เราไม่เคยเห็นภาพคุณอั้มเลย พอออกไปมีคนบอกว่าทำท่าเหมือนอั้มเลย อ้าวอั้มทำภาพแบบนี้เหรอ เราไม่รู้ก็ตกใจที่คนเอาภาพมาชนกัน ก็คล้ายมากที่สุด แต่คนบางคนก็จะชอบลุคของอั้ม"
"ซึ่งการถ่ายเราเป็นคนกำกับว่าจะเอายังไง และก็นั่งก่อนแล้วก็ค่อยๆ ถอดทีละชิ้น คิดว่าเราอยู่ในห้องน้ำคนเดียวไปแล้วกัน เราก็แอคชั่นไปตามเรื่อง เพราะถ้าใส่เสื้อผ้ามันจะยากต่อการรีทัช ก็เลยให้ดึงออกไปเลย ไม่มีเสื้อผ้าอยู่ อายมั้ย.....ไม่เห็นของเราก็ไม่อาย ช่างภาพก็ไม่มีสิทธิ์เห็นของเราด้วย เพราะเอาแขนปิด คือถ้ากล้าทำก็ต้องไม่กล้าอาย เรามั่นใจมาก ความมั่นใจมันทำให้คิดว่าอากัปกริยา มันจะออกสื่อไปทางสิ่งมีชีวิต ถ้าเราทำแล้วหลบหลีกจะทำไปทำไม เราก็ต้องเต็มที่กับมัน ถึงเวลาแล้วที่เราจะสุดๆในชีวิตก็วันนี้แหละ"
ลั่นถึงจะมีธุรกิจแล้วก็ไม่คิดทิ้งวงการบันเทิง เพราะเป็นที่ที่เกิดมา และตนก็รักการแสดงมาก
"จะทิ้งวงการบันเทิงมั้ย ไม่ทิ้งแน่นอน เพราะวงการนี้ทำให้เรามีธุรกิจนี้ขึ้นมา เพราะฉะนั้นเราจะยืนอยู่ตรงนี้ เรารักการแสดงมาก ไม่ว่าสักวันหนึ่งธุรกิจจะประสบความสำเร็จ หรือไม่ประสบความสำเร็จก็ตาม เราก็จะยืนหยัดเป็นดาราอยู่แบบนี้ ถึงจะไม่ประสบความสำเร็จ เราก็จะถืออยู่อย่างเดียวว่าต้องทำใจ"
เปรยเริ่มอยากมีความรัก อยากมีคนดูแลหัวใจยามที่ตัวเองรู้สึกเหงา
"ตอนนี้อยากมีความรักนะ อยากมีคนดูแล อยากมีคนที่เข้าใจเราจริงๆ วันหนึ่งรู้สึกเหงาเราก็อยากมีใครสักคนซับน้ำตา ให้พิงไหล่ ให้ซบไหล่โดยที่ไม่ต้องรักเราก็ได้ แค่นี้ก็รู้สึกว่าปลื้มแล้ว เราอาจจะเจอมั้ง แต่ว่าบางทีความรักอาจจะไม่ได้สร้างเรามาให้รักคนๆ เดียว อาจจะสร้างเรามาให้รักหลายๆ คน อยากให้เราดูแลคนหลายๆ คน แต่ถ้าวันใดเจอใครเราจะบอกเลยนะ ถ้าเป็นหนุ่มต่างชาติกลัวจะคุยกันไม่รู้เรื่อง แต่ความรักมันก็ไม่มีพรมแดนถ้าเราถูกใจ"