หลังผ่านสถานการณ์ทั้งดีและร้ายที่ประเทศบ้านเกิดกว่าหลายทศวรรษที่ผ่านมา องค์นโรดม สีหนุทรงได้รับความช่วยเหลือทั้งด้านการเมือง และการรักษาอาการประชวรจากจีน ประเทศพันธมิตรที่เป็นเสมือนบ้านแห่งที่สองของพระองค์
นานกว่า 40 ปี ที่องค์สีหนุได้พำนักอยู่ในคฤหาสน์หรูหราใจกลางกรุงปักกิ่ง ไม่ไกลจากจัตุรัสเทียนอันเหมินและนครต้องห้าม อดีตที่ทำการสถานทูตฝรั่งเศสในช่วงต้นยุค 1900 ที่พระองค์ได้รับสิทธิในการอยู่อาศัยจากนายโจว เอินไหล โดยอยู่ใกล้กับโรงพยาบาลที่พระองค์เสด็จสวรรคตในวันจันทร์
ความสัมพันธ์ระหว่างองค์สีหนุกับจีนประสบอุปสรรคหลายครั้งเนื่องจากจีนให้การสนับสนุนกลุ่มเขมรแดงขณะที่ความสัมพันธ์ของพระองคืกับกลุ่มดังกล่าว อยู่ในสถานะที่เปลี่ยนแปลงไปมา
อดีตประมุขกัมพูชาผู้มีฉายาว่า "กษัตริย์พ่อของแผ่นดิน" ได้กล่าวยกย่องแพทย์ชาวจีนที่ถวายการรักษา รวมถึงรัฐบาลจีนที่ได้สนับสนุนพระองค์ให้ผ่านอุปสรรคทางการเมืองไปได้
องค์สีหนุทรงเคยเขียนในเว็บไซต์ของพระองค์เมื่อปี2009ซึ่งยังปรากฏกระทั่งเมื่อเร็วๆนี้ว่า "มิตรภาพฉันท์พี่น้องที่ไม่มีวันถูกทำลาย ที่ผูกพันราชอาณาจักรกัมพูชากับสาธารณรัฐประชาชนจีนอันยิ่งใหญ่ " องค์สีหนุได้รับถวายการรักษาพระอาการประชวรในกรุงปักกิ่ง นับตั้งแต่พระองค์ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากเมื่อปี 1994
ในระหว่างพำนักอยู่ในปักกิ่ง พระองค์มักตรัสวิพากษ์วิจารณ์การเมืองที่แบ่งเป็นฝักฝ่ายของกัมพูชา การเล่นพรรคเล่นพวก คอรัปชั่น, การรังแกคนเล็กคนน้อย รวมถึงการทำลายทรัพยากรธรรมชาติ
พระองค์ยังคงรักษามิตรภาพกับนายเหมาเจ๋อตง อดีตผู้นำจีน และนายโจวเอินไล ซึ่งได้พบปะกันในการประชุมกลุ่มประเทศไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ที่เมืองบันดุงของอินโดนีเซีย เมื่อปี 1955
โดยหลังข่าวการเสียชีวิต จีนได้แสดงความอาลัยแด่พระองค์ กระทรวงต่างประเทศของจีนแถลงว่า สีหนุทรงเป็น "มิตรผู้ยิ่งใหญ่ของจีน" และเผยว่า รองประธานาธิบดี สีจิ้นผิง ได้กล่าวต่อพระราชินีโมนิกว่า "รู้สึกตกใจและเสียใจ"
หลังจากย้ายออกจากบ้านพักขนาด 40 ห้องในกรุงเปียงยาง ที่นายคิม อิลซุง เคยจัดถวาย พระองค์กับราชินีได้ไปอยู่ที่คฤหาสน์ในกรุงปักกิ่งเมื่อปี 1970 หลังจากถูกกองทัพโค่นอำนาจ
นายฮูลิโอ เจลเดรส ผู้เขียนชีวประวัติฉบับทางการขององค์สีหนุ ซึ่งได้ไปเยือนบ้านหลังดังกล่าวเสมอๆ เปิดเผยว่า บ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านพักที่สะดวกสบายในสไตล์จีนยุคใหม่ และมีการตกแต่งอย่างสวยงาม พระองค์เปิดบ้านต้อนรับแขกผู้มีเกียรติที่มาเยี่ยมเยียน อาทิ สมาชิกราชวงศ์ นักการทูตระดับสูง และผู้มีฐานันดรศักดิ์ชาวจีน
เจ้าศรีสวัสดิ์ โธมิโก ผู้ช่วยส่วนพระองค์ กล่าวว่า พระองค์มีเชฟคนโปรดที่เชี่ยวชาญอาหารฝรั่งเศส แต่บางครั้งก็มักเข้าครัวปรุงจานโปรดด้วยพระองค์เอง และเคยสอนเหล่าเชฟให้รู้จักวิธีการปรุงอาหารฝรั่งเศสด้วย และเป็นที่รู้กันในหมู่นักการทูตในช่วงต้นยุค 1970 ว่า สถานที่แห่งนี้มีอาหารฝรั่งเศสชั้นเยี่ยมที่สุดในปักกิ่ง
ในระหว่างการลี้ภัยที่กรุงปักกิ่งครั้งแรกเมื่อเดือนเมษายน1975เจ้าสีหนุทรงรับทราบว่า กลุ่มเขมรแดงได้เข้ายึดกรุงพนมเปญแล้ว และยินยอมให้พระองค์กลับไปครองราชย์ได้
นายเหมาเจ๋อตง ได้ร้องขอให้พระองค์ร่วมมือกับเขมรแดง เมื่อกลับถึงกัมพูชา พระองค์ยังคงปลอดภัยดี แม้ว่าขณะนั้นเขมรแดงได้ทำการกวาดล้างปรปักษ์ทางการเมือง ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะจีนซึ่งหนุนหลังเขมรแดงต้องการให้พระองค์ดำรงพระชนม์ชีพต่อไป พระองค์ถูกกักบริเวณในกรุงพนมเปญ ซึ่งได้แปรเปลี่ยนเป็นเมืองร้าง ขณะที่พระราชบุตร-ธิดา 5 คนจากจำนวน 14 คนของพระองค์ได้ถูกสังหาร
จีนได้วางแผนช่วยให้พระองค์หนีออกจากกรุงพนมเปญขณะที่เวียดนามเริ่มเข้ารุกรานกัมพูชาในปลายปี1978 เพื่อขับไล่เขมรแดงลงจากอำนาจ
หลังพระองค์กลับขึ้นครองราชย์ในปี 1993 พระองค์พบว่า กัมพูชาเต็มไปด้วยบาดแผลจากสงครามกลางเมืองและการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ สันติภาพกลับคืนมาอีกครั้งในปี 1998 เมื่อนายพล พต ผู้นำเขมรแดงที่ได้รับการสนับสนุนจากนายเหมาเสียชีวิตลง
นักสังเกตการณ์มองว่า ความเป็นพันธมิตรระหว่างกษัตริย์และคอมมิวนิสต์จีน เป็นความสัมพันธ์ที่น่าประหลาด แต่นายเหมาได้กล่าวไว้อย่างน่าสนใจว่า "บางคนบอกว่า คอมมิวนิสต์ไม่ชอบกษัตริย์ แต่คอมมิวนิสต์จีนชอบ เราให้เกียรติเจ้าอย่างเจ้านโรดม สีหนุ ซึ่งทรงมีความใกล้ชิดกับพสกนิกร และประชาชนก็มีความจงรักภักดีในพระองค์"