เมื่อวันที่ 13 ต.ค. เอพีรายงานเหตุสะเทือนใจและสะท้อนปัญหาความรุนแรงในโรงเรียนของแคนาดา เมื่อน.ส.อะแมนดา ทอดด์ วัย 15 ปี นักเรียนชั้นเกรด 10 หรือ มัธยมศึกษาปีที่ 4 และยังเป็นเชียร์ลีดเดอร์ของโรงเรียนในเขตเมเปิ้ล ริดจ์ แอนด์ พิตต์ เมโดวส์ ทางตะวันออกของเมืองแวนคูเวอร์ รัฐบริติชโคลัมเบีย ฆ่าตัวตายหลังโพสต์คลิประบายความอัดอั้นจากการถูกนักเรียนร่วมโรงเรียนกลั่นแกล้ง และทำร้ายร่างกาย บนเว็บไซต์ยูทูบ
วิดีโอดังกล่าวมีความยาว 9 นาที โพสต์เมื่อวันที่ 7 ก.ย. ที่ผ่านมา แสดงภาพของอะแมนดาที่ไม่ได้พูดอะไร แต่เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับชีวิตด้วยข้อความที่เขียนบนกระดาษ ใจความว่าถูกหลอกให้เปลือยหน้าอกทางเว็บแคม ซึ่งถูกนำภาพไปลงเฟซบุ๊ก รู้สึกเครียด ซึมเศร้า และเริ่มใช้แอลกอฮอล์ และยา เสพติด ต่อมาเมื่อย้ายโรงเรียนกลับถูกแฟนหนุ่มของเพื่อนกลั่นแกล้งอีก ทั้งยังหนักกว่าเดิม เพราะถูกทำร้ายทางกายด้วยการทุบตี
หญิงสาวเล่าต่อว่า เคยดื่มน้ำยาทำความสะอาดหวังฆ่าตัวตาย แต่ถูกส่งโรงพยาบาลไปล้างท้องได้ทัน จากนั้นมา ก็เครียดมากขึ้น เคยลองฆ่าตัวตายหลายครั้ง และใช้ยาเสพติดเกินขนาด แม้จะลองไปปรึกษานักบำบัดทางจิตแล้ว แต่ก็กลับไปโรงพยาบาลอีกหลังมีอาการใช้ยาเกินขนาด
กระดาษใบสุดท้ายที่หญิงสาวโพสต์ในคลิปเขียนว่า "ฉันไม่มีใคร ฉันต้องการใครสักคน ฉันชื่อ อะแมนดา ทอดด์" และด้านล่างวิดีโอมีข้อความว่าไม่ได้ทำคลิปเพื่อเรียกร้องความสนใจ แต่อยากเป็นแรงบันดาลใจสร้างความเข้มแข็งให้กับคนที่ถูกรังแก
ทั้งนี้ หลังการเสียชีวิตของอะแมนดา หลายฝ่ายได้ออกมารณรงค์ให้ยุติการรังแก และการทำร้ายในโรงเรียน โดยทวิตเตอร์และเพจไว้อาลัยของอะแมนดาในเฟซบุ๊กมีคนเข้ามากดไลก์แล้วมากกว่า 30,000 ราย ขณะที่นางคริสตี้ คลาร์ก ผู้ว่าการรัฐบริติชโคลัมเบีย โพสต์คลิปต่อต้านการกลั่นแกล้งในโรงเรียนลงยูทูบว่า การรังแกไม่ใช่วงจรชีวิต และควรหยุดได้แล้ว