คืนหนึ่งที่เกาะคา

 

คืนหนึ่งที่เกาะคา
 
      คืนหนึ่งที่เกาะคา ขนหัวลุก ใบหนาด



ขนหัวลุก/ใบหนาด



"เก๋" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากลำปาง

ดิฉัน เป็นคนแม่สาย จังหวัดเชียงราย ที่ได้ชื่อว่าเหนือสุดในสยาม ครอบครัวเราเดิมอยู่เกาะคา จังหวัดลำปาง แต่พ่อแม่ย้ายมาอยู่แม่สายเมื่อประมาณ 30 ปีก่อน ดิฉันกับน้องชายก็เกิดและเติบโตที่แม่สายนี่เอง

พ่อแม่มักมีธุรกิจที่เชียงใหม่บ่อยๆ บางทีก็ไปเยี่ยมญาติที่เกาะคา มักมีพระเครื่ององค์เล็กๆ จากวัดพระธาตุลำปางหลวงมาฝากเราเป็นประจำ

แม่เล่าว่าจังหวัดลำปางเป็นเมืองเก่าแก่มากที่สุด คือมีอายุยาวนานถึง 1,300 ปี เดิมมีชื่อว่า เขลางค์นคร ส่วนชื่อสามัญก็คือ "ละกอน" หรือ "ละคร" มีชื่อเป็นทางการว่า "นครลำปาง" ต่อมาจึงได้กลายมาเป็นจังหวัดลำปางทุกวันนี้

ที่ดิฉันจดจำได้ขึ้นใจเพราะเป็นถิ่นเดิมของพวกเรา ดิฉันและน้องชายมาโดนผีหลอกแทบตายที่ลำปางนี่เองค่ะ!

เรื่อง ของเรื่องก็คือญาติผู้ใหญ่ของเราเสียชีวิตด้วยโรคชรา แม่เรียกติดปากว่าอุ๊ยศรีหรือยายศรี พวกเรายกครอบครัวไปทั้งหมด โดยมีญาติห่างๆ ที่ไว้ใจได้เป็นคนเฝ้าบ้าน..พ่อขับรถไปถึงเกาะคาราวสองทุ่มเศษ..บ้านที่เรา ไปพักเป็นบ้านยายศรีค่ะ มีลูกชายที่มีศักดิ์เป็นพี่ชายของแม่อยู่คนเดียวเท่านั้นเอง

ญาติพี่น้องมากหน้าหลายตาจนจดจำไม่ไหว บ้านช่องล้วนอยู่ติดๆ กัน พอเห็นพวกเราก็ดีใจ ลูบหลังลูบไหล่ พูดจาชมเชยต่างๆ นานา ตอนนั้นดิฉันอายุราว 12-13 ปี ส่วนน้องชายอายุน้อยกว่า 2 ปี

ศพยายศรีตั้งอยู่ที่วัดตั้งแต่เมื่อวันก่อนแล้ว พ่อแม่บอกว่าพรุ่งนี้เป็นวันเผา เราจะได้พบญาติคนอื่นๆ ด้วย ถ้าไม่มีอะไรก็คิดว่าเผาเสร็จจะกลับแม่สายเลย

เหตุสยองเกิดขึ้นในคืนนั้นเอง!

บ้านยายศรีเป็นเรือนไม้ชั้นเดียวใต้ถุนสูง ชั้นบนมีสองห้องนอน ส่วนชั้นล่างราดปูน มีโต๊ะใหญ่อยู่หน้าห้องครัวและห้องน้ำ ..ด้านหน้ามีเตียงไม้เตี้ยๆ คล้ายกับบ้านในชนบททั่วไป สำหรับนั่งเล่น เอนหลังรับลม กินอาหาร รวมทั้งรับแขกก็ได้ค่ะ

ญาติๆ ทยอยกันกลับไป นัดหมายว่าจะได้พบกันวันรุ่งขึ้นที่วัดในตอนทำบุญเลี้ยงพระเพล..หลังจากนั้น ก็อาบน้ำอาบท่าแล้วก็ขึ้นนอนในห้องใหญ่ของยายศรีนั่นเอง

พ่อแม่นอนบนเตียง ส่วนดิฉันกับน้องนอนบนเสื่อข้างเตียง ไม่ช้าก็หลับผล็อยไป

ตกดึก ดิฉันตื่นมาในความเงียบสงัด ได้ยินเสียงยอดไม้คร่ำครวญกับสายลมน่าวังเวงใจ ดูเหมือนจะได้ยินเสียงน้ำค้างหยดลงบนหลังคาสังกะสีด้วย..มองออกไปนอก หน้าต่างก็เห็นแสงจันทร์ขาวนวล เห็นแล้วรู้สึกเยือกเย็นใจยังไงบอกไม่ถูกค่ะ

"พี่..พี่เก๋..ตื่นเถอะ.." เสียงน้องชายนั่นเองที่ปลุกดิฉันขึ้นมา พอหันมองแกก็บอกเสียงอ่อยๆ "โก้ปวดท้องฉี่"

ถอนใจเฮือก จำเป็นต้องพาน้องลงไปชั้นล่าง..ข้างนอกแสง จันทร์อาบต้นลำไยที่ออกดอกสะพรั่ง เสียงหมาหอนมาจากที่ไกลๆ รับกันเป็นทอดๆ เหมือนพวกมันกำลังเยือกเย็นหัวใจเต็มประดา

ดิฉันเปิดไฟให้ น้องชายเข้าห้องน้ำไปแล้ว ส่วนดิฉันยืนรอ หมุนไปหมุนมา..นึกอยู่ว่าถ้าน้องชายออกมาก็จะเข้าไปทำธุระบ้าง จะได้ไม่เกิดปัญหาขึ้นมาก่อนสว่าง

ขณะนั้นเองที่ดิฉันหันไปเห็นหญิงชราคนนั้นเขาพอดี!

วินาที แรกที่เห็นร่างนั้นนั่งอยู่บนเตียงเตี้ยๆ ดิฉันรู้สึกเย็นวูบที่ต้นคอ แล่นวาบไปตามไขสันหลัง ม่านตาพร่าพราย หัวใจเหมือนจะหยุดเต้นไปชั่วขณะ ทั้งๆ คุณยายร่างท้วมผิวขาวก็ดูเป็นคนธรรมดาอย่างเราๆ นี่แหละค่ะ

ผมสีเทารวบตึงไปเกล้ามวยที่ท้ายทอย ใบหน้ากว้าง แก้มย้อย ปากบางๆ เผยอยิ้มอย่างใจดี สวมเสื้อสีเทาดำแบะอก เห็นเสื้อตัวในสีขาว กำลังนั่งยองๆ เคี้ยวอะไรช้าๆ คิดว่าคงจะเป็นใบเมี่ยงที่พ่ออุ๊ยแม่อุ๊ยทางภาคเหนือนิยมกันนั่นเอง

ประตูเปิดกว้าง น้องชายโผล่ออกมารูดซิปกางเกง หันไปเห็นคุณยายแปลกหน้าคนนั้นก็ถามว่า ใครน่ะพี่เก๋? ดิฉันพูดอะไรไม่ออก นอกจากส่ายหน้า กลืนน้ำลาย..ผู้คนที่ไหนจะมานั่งเคี้ยวเมี่ยงตอนดึกดื่นค่อนคืนล่ะคะ?

"ไหว้อุ๊ยซะโก้" ดิฉันบอกเสียงสั่นๆ แล้วยกมือไหว้คุณยายผู้นั้นพร้อมกัน ก่อนจะฉุดมือน้องชายเดินอ้าวขึ้นบันได ไม่กล้าเหลียวหลังไปมองอีกเลย..ห้องน้ำน่ะลืมไปเลยค่ะ

วันรุ่งขึ้นจึงได้มองเห็นภาพถ่ายคุณยายผู้นั้นที่ข้างฝา..คงไม่ต้องบอกนะคะว่าเป็นอุ๊ยศรีที่เรามางานศพท่านนั่นเองค่ะ!
  เข้าอ่านแล้ว : 37523 ครั้ง
Credit: เรื่องผีคอดคอม
#ลึกลับ
THEPOco
ผู้กำกับภาพ
สมาชิก VIP
14 ต.ค. 55 เวลา 08:04 1,298 20
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...