เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก เรื่องเล่าเช้านี้

            ไร่ส้มทำพิษ บีอีซี หุ้นตก 4 วัน ร่วงเกือบ 7% ขณะที่นักลงทุนเผย ช่อง 3 อาจจะได้รับผลกระทบไม่มากนัก เพราะรายได้หลักคือโฆษณาละครหลังข่าว และรายการของสรยุทธเรตติ้งดีมาก อาจจะมีการถอนโฆษณาเป็นบางราย และรายใหม่ ๆ อาจจะซื้อเพิ่มเติม

            วันนี้ (12 ตุลาคม) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้นบริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด มหาชน (BEC) ผู้รับสัมปทานทีวีช่อง 3 ปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง 4 วัน ติดต่อกัน โดยล่าสุดเมื่อวานนี้ (11 ตุลาคม) ปิดตลาดที่ระดับ 57 บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ 2.56% รวม 4 วันที่ปรับลดลงกว่า 4.25 บาท หรือ 6.9%

            ทั้งนี้ บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคิน จำกัด วิเคราะห์ว่า จากกรณีภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่นเตรียมถอนโฆษณารายการเล่าข่าวของ นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ซึ่งออกอากาศทางช่อง 3 ในปีหน้า และหากทางช่อง 3 ไม่ออกมาแสดงความชัดเจนถึงจุดยืนในการดำเนินธุรกิจ จากกรณีบริษัทไร่ส้ม ก็จะก่อให้เกิดปัจจัยลบต่อหุ้น บริษัท บีอีซี เวิลด์ (BEC) อย่างแน่นอน และก็เกิดผลกระทบต่อความไม่มั่นคงของรายได้ค่าโฆษณาในรายการที่มีคุณสรยุทธเป็นผู้ดำเนินรายการด้วย

            สำหรับสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ซึ่งบริหารโดยบริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด บริษัทย่อยของบีอีซี มีรายการออกอากาศที่ดำเนินรายการโดยคุณสรยุทธ ทั้งสิ้น 3 รายการ คือรายการเรื่องเล่าเช้านี้, รายการเรื่องเด่นเย็นนี้ และรายการเรื่องเล่าเสาร์อาทิตย์ ซึ่งรายการ 3 รายการนี้ สร้างรายได้ให้กับบีอีซี คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 20% ของรายได้รวมต่อปี ส่วนมุมมองในการลงทุนระยะยาวนั้น ทางบีอีซีควรขายหุ้น เนื่องจากราคาหุ้นสูงกว่ามูลค่าที่เหมาะสม ประเมินที่ 47.60 บาท และแนวโน้มผลประกอบการระยะยาว มีความเสี่ยงจากการแข่งขันที่สูงขึ้น จากการขยายตัวของ สื่อทีวีดาวเทียม, เคเบิลทีวี และดิจิตอลทีวี

            ขณะที่ บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า การประเมินผลกระทบต่อรายได้ของทางบีอีซี เกี่ยวกับกรณีไร่ส้มนั้น ประเมินค่อนข้างยาก เพราะยังไม่มีความชัดเจนว่าทางเอกชนทุกรายจะถอนโฆษณาหรือไม่ หรือจะถอนเพียงบางรายเท่านั้น แต่หากถอนก็อาจจะมีรายอื่นเข้ามาซื้อก็เป็นได้ เพราะรายการของคุณสรยุทธเรตติ้งค่อนข้างดี

            บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวต่อว่า หากทุกรายพร้อมใจกันถอนโฆษณาก็คงจะมีผลกระทบต่อรายได้ของบีอีซี แต่คงไม่มากนัก เพราะรายได้หลักนั้นมาจากละครเย็น และละครหลังข่าว เนื่องจากมีค่าโฆษณาสูงมาก ประมาณ 4 แสนบาทเลยทีเดียว ขณะที่รายการข่าว ค่าโฆษณาเพียง 1-2 แสนบาท เท่านั้น แต่ทั้งนี้ก็ต้องดูกันต่อว่า การถอนโฆษณานั้นจะถอนได้ในช่วงใด เพราะปกติการถอนหรือการซื้อ จะต้องมีการจองล่วงหน้า

            อย่างไรก็ตาม จากกรณีดังกล่าวคงมีผลกระทบต่อราคาหุ้นบ้าง แต่ราคาหุ้นที่ปรับลง ส่วนหนึ่งก็เป็นผลมาจากก่อนหน้านี้ ราคาหุ้นของบีอีซีขยับตัวขึ้นไปสูงมาก นักลงทุนจึงทำการขายเพื่อทำกำไร



อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก