โม้อมตะ” สมรักษ์ คำสิงห์ ฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิกคนแรกของไทย จากแอตแลนต้าเกมส์1996 ผู้คืนสังเวียนในวัย 39 ปีดับซ่าอดีตแชมป์มวยไทยรุ่นเก๋าวัย 51 ปีอย่าง ยอดวันเผด็จ(สุวรรณวิจิตร) ไก่ย่างห้าดาว สร้างประวัติการณ์เรียกคนดูจุเต็มสนามมวยเวทีราชดำเนิน อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนไปเมื่อเร็วๆนี้

ล่าสุด“เจ้าบาส“สมรักษ์ เปิดใจ “หลังคืนสังเวียน มีคนติดต่อทาบทามจองตัวผมเยอะ คือตัวผมไม่มีปัญหาอยู่แล้ว ผมสู้ได้หมดทุกคนแหละ ไม่ว่าจะเป็นย้อนยุคอย่างจอมโหด เกียรติอดิศักดิ์, นำขบวน หนองกี่พาหุยุทธ หรือ ต.ปฏัก วันเฉลิม ซึ่งเป็นศิษย์เอกของผู้พันวิทย์(ยอดวันเผด็จ) ก็ยังได้ หรือจะแม้กระทั่งมวยอย่าง เข้ม ศิษย์สองพี่น้อง กับ ไทรโยค พุ่มพันธุ์ม่วง มวยดังยุคนี้ผมก็สู้ได้ แต่ถ้าถามผมเองใจจริงแล้วผมอยากจะต่อยกับ บัวขาว ป.ประมุข มากกว่า“

สมรักษ์ อดีตยอดมวยไทย ซึ่งใช้ชื่อเดิมว่า “พิมพ์อรัญเล็ก ศิษย์อรัญ” อธิบายเป็นฉากๆ ว่า“กับ ไอ้ดำ (บัวขาว) นั้นผมคุ้นเคยกันดี เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ผมพาเขาไปกาตาร์ ที่นั่นติดต่อให้ขึ้นชกมวยไทย ไม่ว่าจะเป็นชกจริงหรือชกโชว์ก็ได้ แต่บัวขาวปฏิเสธท่าเดียวไม่ยอมชก ทั้งๆ ที่เขาให้ค่าตัวมโหฬารตั้ง 2.1 ล้านบาท ผมยังด่าบัวขาวเลยว่า มันจะบ้าหรือเงินตั้งมากมาย จะไปหาที่ไหนมาได้ เพียงแค่ชกมวยไทยไม่กี่ยก สำหรับบัวขาวนั้นผมรู้จักเขาดี คนวงการมวยก็รู้จักดีว่า บัวขาวนั้นชกมวยไทย ก็ไม่ใช่มวยดังอะไร เพียงแต่ไปต่อยเค-วัน ชกกับฝรั่งที่ชกมวยมา 30 กว่าครั้งเท่านั้น ก็เลยโด่งดัง แต่ถ้าเขามาชกมวยไทยกับผม รับรองว่าผมปราบเขาอยู่หมัดแน่ เพราะผมรู้จักเขาดี แต่น่าเสียดายพี่มิตร นคร และ“เสี่ยเน้า“วิรัตน์ วชิรรัตนวงศ์ สองโปรโมเตอร์ใหญ่พยายามทาบทาม แต่ก็ถูกเจ้าดำปฏิเสธท่าเดียว“

“เจ้าบาส“สาธยายอีกว่า “มวยไทยนั้น ผมจะพิสูจน์ให้เห็นว่า ไม่ใช่จะใช้แต่เพียงพละกำลังอย่างเดียว แต่มวยนั้นมันต้องใช้สมอง ใช้ไหวพริบปฏิภาณด้วย มวยไทยเป็นศาสตร์ เป็นศิลปการต่อสู้ป้องกันตัวที่ทุกคนเรียนรู้ได้เพื่อเอาตัวรอด ผมถึงกล้าท้าบัวขาว ส่วนข่าวที่ว่าบัวขาวจะไปชกกับ แมนนี่ ปาเกียวนั้น มันเป็นเรื่องเลอะเทอะเหลวไหลสิ้นดี จะไปเปลืองเงินค่าตัวทำไมตั้ง 90 ล้านบาท สู้มาจ้างผมกับบัวขาวคนละ 5 ล้านที่เหลืออีก 80 ล้านเอาไปบริจาคช่วยเหลือการกุศลเขา จะมีประโยชน์กว่ากันเยอะ“

สมรักษ์ ฟื้นประวัติทิ้งท้ายอีกว่า “ตัวผมเองชกมวยไทยมาไม่น้อยกว่า 350 ไฟต์ เริ่มตั้งแต่ 7ขวบ อายุ 18-19 เข้ามาต่อยเมืองกรุงก็ไม่มีคู่ชกแล้ว พอตกงานจึงต้องหันไปชกมวยสากลสมัครเล่น คิดดูก็แล้วกันว่า กระดูกมวยของผมกับบัวขาวนั้น มันต่างกันเยอะแค่ไหน?”

ที่มา : MThai