จากกรณีรีสอร์ท บ้านพักตากอากาศหลายแห่งที่ถูกจับกุมดำเนินคดีบุกรุกอุทยานแห่งชาติทับลาน อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา และอ.นาดี จ.ปราจีนบุรี กลับมาเปิดให้บริการตามปกติภายหลังนายดำรงค์ พิเดช อดีตอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เกษียณอายุราชการลงเมื่อวันที่ 30 ก.ย.ที่ผ่านมา และยังไม่มีความชัดเจนว่า ครม. จะแต่งตั้งใครขึ้นมาทำหน้าที่อธิบดีกรมอุทยานฯ คนใหม่แทนนายดำรงค์ รวมทั้งจะมีการสานต่อนโยบายแก้ปัญหาการบุกรุกพื้นที่อุทยานฯ และป่าอนุรักษ์อื่นๆหรือไม่
วันนี้ ( 7 ต.ค.) นายเทวินทร์ มีทรัพย์ หัวหน้าอุทยานฯ ทับลาน ให้สัมภาษณ์ว่า แม้ขณะนี้จะยังไม่มีการแต่งตั้งอธิบดีกรมอุทยานฯ คนใหม่ขึ้นมาทำหน้าที่แทนนายดำรงค์ แต่ทางอุทยานฯ ทับลานก็ยังปฏิบัติหน้าที่ในเรื่องการแก้ปัญหาการบุกรุกพื้นที่อุทยานฯ ตามปกติ เพราะเป็นการดำเนินการตามกฎหมายระบุ และเชื่อว่าอธิบดีคนใหม่ที่เข้ามาก็ต้องดำเนินการตามแนวทางนี้ อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ทางอุทยานฯ ทับลานได้ประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือไปยังนักท่องเที่ยวในเรื่องการหลีกเลี่ยงเข้าพักในรีสอร์ท บ้านพักตากอากาศที่บุกรุกพื้นที่อุทยานฯ ทับลาน ที่ได้จับกุมดำเนินคดีไปแล้วซึ่งมีส่วนที่เป็นรีสอร์ทอยู่ 100 กว่าแห่ง จากคดีทั้งหมด 420 คดี ก่อนจะเข้าพัก เนื่องจากเวลานี้เริ่มเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวของพื้นที่ อ.วังน้ำเขียว ที่ประชาชนนิยมมาสัมผัสอากาศเย็นและธรรมชาติที่สวยงามนั้น ปรากฏว่าได้รับความสนใจจากประชาชนและมีการเข้ามาติดต่อสอบถามพอสมควร
ผมมีแนวคิดว่าจะจัดทำแผ่นป้ายขนาดใหญ่เพื่อขึ้นรายชื่อ รีสอร์ท บ้านพักตากอากาศทั้งหมดที่ได้จับกุมดำเนินคดีทั้งส่วนที่คดีสิ้นสุดไปแล้วและเตรียมการรื้อถอนตามมาตรา 22 พ.ร.บ.อุทยานฯ 2504 และในส่วนที่คดีเข้าสู่ขั้นตอนของพนักงานสอบสวนทั้งหมดจำนวน 70-100 รายชื่อ ที่ทางอุทยานฯ ได้รวบรวมและจำแนกไว้ ติดประกาศไว้หน้าอุทยานฯ ทับลาน หรือในจุดที่เหมาะสมเด่นสะดุดตา เพื่อให้นักท่องเที่ยวและผู้สัญจรไปมาบนทางหลวงสาย 304 กบินทร์บุรี-วัง น้ำเขียวสามารถมาอ่านและตรวจสอบดูได้เพื่อความสะดวกของนักท่องเที่ยวว่า รีสอร์ท บ้านพักตากอากาศแห่งใดถูกจับกุมดำเนินคดีไปแล้วบ้าง ซึ่งหากนักท่องเที่ยวทุกคนให้ความร่วมมือในเรื่องนี้ก็จะเป็นการช่วยเหลือ การทำงานของกรมอุทยานฯ ที่เจ้าหน้าที่จากทั่วประเทศได้ระดมกำลังเข้ามาร่วมในภารกิจทวงคืนผืนป่า อย่างเต็มที่ตลอดช่วงเวลากว่า 1 ปีที่ผ่านมา เพื่อให้เกิดทับลานโมเดลที่จะนำไปแก้ปัญหาการบุกรุกพื้นที่ป่าอนุรักษ์อื่นๆ ทั่วประเทศต่อไปได้อย่างมาก และหากการแก้ปัญหาการบุกรุกในพื้นที่อุทยานฯ ทับลานประสบความสำเร็จ ก็จะถือว่าความสำเร็จในครั้งนี้เกิดขึ้นจากการมีส่วนร่วมของประชาชนที่รักและหวงแหนทรัพยากรธรรมชาติทุกๆ คน ”หัวหน้าอุทยานฯ ทับลาน กล่าว
ด้าน นายนุวรรต ลีลาพตะ ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานฯ ทับลาน กล่าวว่า หลังจากปรากฏเป็นข่าวออกไปว่ามีรีสอร์ทใหญ่ในพื้นที่อุทยานฯ ทับลานขึ้นป้ายยังเปิดให้บริการตามปกติ และทางอุทยานฯ ทับลานได้ประชาสัมพันธ์ว่ารีสอร์ทเหล่านั้นถูกจับกุมดำเนินคดีข้อหาบุกรุก อุทยานฯ ทับลาน หากใครต้องการให้ความร่วมมือกับอุทยานฯ ในการไม่เข้าพักก็ให้มาสอบถามได้ที่ที่ทำการอุทยานฯ ทับลานนั้น ได้มีประชาชนและนักท่องเที่ยวติดต่อสอบถามเข้ามามากสมควรว่ารีสอร์ทใดบ้าง ที่มีรายชื่อถูกจับกุมดำเนินคดีไปแล้ว ซึ่งถือเป็นเรื่องดีที่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ อย่างไรก็ตามที่ผ่านมารีสอร์ทที่ถูกจับกุมดำเนินคดีส่วนมากจะใช้วิธีปลดป้าย ชื่อรีสอร์ทออก แต่ยังเปิดรับนักท่องเที่ยวตามปกติ โดยแต่ละแห่งก็จะมีแผนที่ประชาสัมพันธ์การเดินทางของตัวเองอยู่ในเว็บไซต์ ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเข้าถึงได้เองอยู่แล้ว
นายนุวรรต กล่าวอีกว่า นอกจากนั้นขณะนี้เป็นช่วงเวลาที่หน่วยงานราชการต่างๆ นิยมจัดอบรมสัมมนานอกสถานที่ ซึ่งในสัปดาห์ที่ผ่านมาพบว่ามีรถยนต์ของหน่วยงานราชการระดับกรมหนึ่งในกระทรวงสาธารณสุขจำนวนเป็น 10 คัน คาดว่าจะเข้ามาจัดอบรมและเข้าพักในบ้านผางามรีสอร์ท ซึ่งมีชื่ออยู่ในบัญชีที่กรมอุทยานฯ เตรียมรื้อถอนในเร็วๆ นี้รอเพียงการพิจารณาของศาลฎีกาที่ทางเจ้าของขอรื้อคดี เรื่องนี้หากจะถามว่าผิดกฎหมายหรือไม่ ตนก็ยังไม่แน่ใจ แต่ในฐานะหน่วยงานของรัฐเหมือนกันกับกรมอุทยานฯ น่าจะต้องตระหนักและให้ความร่วมมือกับเราก่อนฝ่ายอื่นๆ ตนไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเขาก็เป็นส่วนราชการทำไมจึงไม่สนใจหรือใส่ใจเรื่องนี้ ทั้งที่กรณีการบุกรุกอุทยานฯ ทับลานเป็นข่าวใหญ่มาตลอดปีที่ผ่านมาและคนในสังคมตื่นตัวทั่วประเทศ อีกทั้งถือเป็นการเหมาะสมหรือไม่ที่จะเอางบประมาณของแผ่นดินมาจัดอบรมในรีสอร์ทที่เป็นคดีอยู่ ทั้งนี้หากประชาชนหรือนักท่องเที่ยวที่อยู่ต่างจังหวัดต้องการทราบรายชื่อรีสอร์ท บ้านพักตากอากาศที่ถูกจับกุมดำเนินคดีสามารถสอบถามได้ที่ที่ทำการอุทยานฯ ทับลาน อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี หมายเลขโทรศัพท์ 037-486-771 หรืออีเมล thaplannp@hotmail.com