ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 04.30 น. วันที่ 6 ตุลาคม ศูนย์วิทยุหน่วยบรรเทาสาธารณะภัย เทศบาลเมืองหนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้รถยนต์กระบะ บริเวณหมู่บ้าน ตาตะวัน ซอยอนามัยหนองสมอ หมู่ 5 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง หลังรับแจ้งจึงนำรถดับเพลิงรุดไปทำการช่วยเหลือ

เมื่อถึงที่เกิดเหตุ พบเพลิงกำลังลุกไหม้รถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ 4 ประตู สีบรอน ทะเบียน กพ-3963 นนท์บุรี ที่จอดอยู่หน้าบ้านเลขที่ 56/28 หมู่ 5 จนได้รับความเสียหายทั้งคัน เจ้าหน้าที่จึงได้ระดมกำลังฉีดน้ำสกัดเปลวเพลิงจนเพลิงสงบ หลังตรวจสอบพบปลอกกระสุนปืนขนาด 8.8 มม. ตกอยู่ที่พื้นถนนหน้าบ้านจำนวนกว่า 20 ปลอก ส่วนภายในบ้าน พบรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า แคมรี่ สีขาว ทะเบียน ฆฎ-6691 กรุงเทพมหานคร มีร่อยรอยถูกยิงที่กระจกหลังและตัวรถกว่า 4 รู และที่เสาหน้าบ้านและหลังบ้านได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก จากนั้น ทางเจ้าหน้าที่หน่วยบรรเทาสาธารณะภัย จึงได้ประสานแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางละมุง สาขาย่อยเทศบาลเมืองหนองปรือ ให้มาทำการตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ภายหลังจากที่ได้แจ้งเจ้าหน้าที่ทราบแล้ว กลับยังไม่มีเจ้าหน้าที่มาทำการตรวจสอบแต่อย่างใดมี เพียงตำรวจอาสามาทำการตรวจสอบแทนเท่านั้น ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับผู้เสียหายเป็นอย่างมาก ที่เกิดเหตุลักษณะนี้แล้วไม่มีตำรวจมาตรวจที่เกิดเหตุกับแจ้งให้ผู้เสียหายเดินทางไปแจ้งที่ สภ.บางละมุง ย่อยเทศบาลเมืงหนองปรือแทน

จากการสอบถามนายเนียม โหว่สงคราม อายุ 78 ปี ผู้เสียหายให้การว่า ขณะที่ตนพร้อมด้วยลูกหลานจำนวน 5 ชีวิตนอนหลับอยู่ภายในบ้านก็ได้ยินเสียงปืนดังสนั่นที่บริเวณหน้าบ้าน จึงได้พากันตกใจตื่น ซึ่งตนพยายามหยิบมีดดาบออกมาดู แต่ลูกสาวห้ามไว้ หลังจากสิ้นเสียงปืนตนจึงได้เปิดประตูบ้านออกมาดูพบว่ามีไฟไหม้ที่รถยนต์ จึงได้พยายามนำน้ำมาดับ ก่อนที่เห็นชายกรรจ์จำนวน 2 คน สวมหมวกกันน็อคยืนที่หน้าบ้าน ลูกสาวจึงได้ตะโกนแจ้งตำรวจ จนทั้ง 2 คนขี่ จยย.หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ส่วนสาเหตุน่ามาจากเรื่องเงินที่ลูกสาวคนโตได้ไปยืมมาจากญาติห่างๆ ที่เป็นนายทหารเรือสัตหีบมาทำธุระกิจจำนวนหลายล้านบาท โดยตนเองเป็นผู้เซ็นค้ำให้ ก่อนที่ลูกสาวคนโตนั้นจะหลบหนีหายไปและเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นมากว่า 4-5 ปี แล้ว และตนก็ได้พยายามแสดงความรับผิดชอบยอมชดใช้ให้แบบผ่อนจ่าย และคิดว่าไม่น่ามีอะไรเนื่องจากก็เป็นญาติห่างๆ กัน จนในระยะหลังได้มีคนโทรศัพท์เข้ามาข่มขู่เป็นประจำและพยายามที่จะยึดรถยนต์ แต่ตนไม่ให้ เพราะเป็นรถของลูกเขยคนเล็ก จึงต้องไปแจ้งความไว้เป็นหลักฐานกว่า 3 ครั้งแล้ว จนเมื่อวันที่ 15 เดือนที่ผ่านมา ก็ได้มีโทรศัพท์มาข่มขู่อีกครั้ง โดยบอกว่ามีใบสั่งมาจากอาน้อยที่เป็นนายทหาร โดยให้เวลา 7 วันให้ตนเอาเงินมาคืนให้หมด จนมาในวันนี้ก็มีคนร้ายมาเผารถและยิงถล่มบ้านจนเสียหาย ซึ่งตนนั้นก็ได้พยายามแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ทราบและมาตรวจสอบที่บ้าน เพื่อจะแจ้งเบาแสคนร้าย แต่ก็ไม่ยอมมาตรวจในทันที ซึ่งตนและครอบครัวก็ไม่เข้าใจเพราะสาเหตุใด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ทีมข่าวเดินทางมาพบว่า คนร้ายได้โยนตะปูเรือใบไว้ที่บริเวณถนนทางออกหมู่บ้านหวังไม่ให้มีผู้ใดติดตามทัน จนทำให้ยานพาหนะของผู้สื่อข่าวและเจ้าหน้าที่ถูกเรือใบไปตามๆ กัน เวลาผ่านไปกว่า 1 ชั่วโมง ร้อยเวรสอบสวนและเจ้าหน้าที่สายตรวจได้เดินทางมาตรวจสอบในที่เกิดเหตุและถ่ายภาพบันทึกภายในที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐานภายหลังตรวจสอบและสอบสวนในที่เกิดเหตุอย่างละเอียดแล้ว จึงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน พร้อมทั้งนำภาพจากกล้องวงจรปิดที่สามารถจับภาพขณะลงมือไปตรวจสอบอีกครั้ง เบื้องต้นคาดว่า คนร้ายน่าจะลงมือเพื่อข่มขวัญไม่ได้หมายเอาชีวิตใครแต่อย่างใด อย่างไรจะได้ส่งชุ