ลุ้น !!"เด็กไทย"แข่ง"โอลิมปิกอาหาร" Culinary Olympic 2012 ที่เยอรมัน

 

 

 

 

 

เกาะขอบสนาม ลุ้น !!"เด็กไทย"แข่ง"โอลิมปิกอาหาร”

Culinary Olympic 2012 ที่เยอรมัน

 

เริ่มแล้วพิธีเปิดอย่างยิ่งใหญ่ของการแข่งขัน"โอลิมปิกด้านอาหาร" IKA  หรือCulinary Olympic 2012  ซึ่งถือเป็นเวทีการแข่งขันทางด้านอาหารที่ยิ่งใหญ่  และมีชื่อเสียงมากที่สุด  เป็นที่ยอมรับของเชฟทั่วโลก ปีนี้การแข่งขันจัดขึ้นระหว่างวันที่ 5-10 ตุลาคม 2555  ณ เมืองแอร์ฟูร์ท (Erfurt) ประเทศเยอรมนี 

 


 

 

ที่สำคัญเหนืออื่นใด การแข่งขันครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของชาติไทยที่มีการส่ง”เชฟระดับเยาวชน”ไปเข้าร่วมการแข่งขัน และถือเป็น”เชฟเยาวชน”ทีมเดียวในทวีปเอเซียที่ไปเข้าร่วมการแข่งขัน  เพราะประเทศอื่นในเอเซียส่ง แต่เชฟระดับมืออาชีพไปเข้าร่วมการแข่งขัน ธงไทยที่ปลิวไสวในสนามพาเชฟเยาวชนหนุ่ม-สาวเด็กรุ่นใหม่ไปเข้าร่วมการแข่งขัน  

 

 


 

 

IKA หรือ Culinary Olympic  เป็นเวทีการแข่งขันทางด้านอาหารที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน จัดขึ้นครั้งแรกตั้งแต่ปีค.ศ.1900 หรือประมาณ 112 ปีมาแล้ว IKA หรือ Culinary Olympic  จัดขึ้นเป็นประจำทุก 4 ปีเหมือนกับการแข่งขันกีฬาโอลิปิก มีเชฟจากทุกทวีปทั่วโลกทั้งระดับอาชีพ และระดับเยาวชนทีต้องการปรับปรุง และพัฒนาฝีมือมาเข้าร่วมการแข่งขัน




สำหรับปีนี้ทีมเชฟระดับเยาวชนและระดับอาชีพมากกว่า 50  ประเทศทั่วโลกสมัครเข้าร่วมการแข่งขัน อาทิ  แคนาดา ,อเมริกา , เม็กซิโก , เดนมาร์ก , สวิสเซอร์แลนด์ , นอร์เวย์ , ออสเตรีย , สวีเดน, เยอรมัน , เบลเยี่ยม , ฟินแลนด์  , สก๊อตแลนด์ , ตุรกี , สโลวาเนีย , อังกฤษ , ไอซ์แลนด์ , ลักเซมเบิร์ก ,

 


 

ฮังการี ,เนเธอร์แลนด์ , ไอร์แลนด์ , อิตาลี , เวลส์ , โปแลนด์ , โปรตุเกส , สโลวาเกีย , โรมาเนีย , บัลแกเรีย , แอฟริกาใต้ , ออสเตรเลีย , ญี่ปุ่น , ฮ่องกง , เกาหลีใต้ , สิงคโปร์ , มาเลเซีย  , ไทย , อินเดีย , คอสตาริกา , มอลตา , กัวเตมาลา , ไซปรัส ,สาธารณรัฐเช็ก , อิสราเอล , เบลารุส เป็นต้น ซึ่งจะมีการจับฉลากแบ่งสายการแข่งขันเหมือนกีฬา

 

 


 นายวิวเมนต์  ลีออง เชฟชาวสิงคโปร์ หัวใจไทย ประธานผู้ก่อตั้งไทยแลนด์ คัลลินารี อคาเดมี (Thailand Culinary Academy ) ที่ปลุกปั้นส่งเสริมเชฟเยาวชน และเชฟอาชีพไทยไปแข่งขันทำอาหารในประเทศต่าง ๆ ที่สมาคมเชฟโลกจัดขึ้น เป็นเวลากว่า 3 ปี เปิดเผยที่สนามบินสุวรรณภูมิก่อนพาทีมบินไปแข่งขันโอลิมปิกด้านอาหาร กล่าวว่า ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของประเทศไทยที่มีการจัดส่งเชฟระดับเยาวชนไปเข้าร่วมแข่งขันโอลิมปิกด้านอาหาร  ซึ่งตัวเองมั่นใจถึงศักยภาพและฝีมือของเชฟเยาวชน และเชฟระดับมืออาชีพของไทย

 

 

นายจตุพร จึงมีสุข ในฐานะหัวหน้าทีมหรือโค้ชของทีมเชฟเยาวชนไทย กล่าวว่า การแข่งขันครั้งนี้ได้มีการคิดค้น และเตรียมนำรสชาติของอาหารไทยไปประยุกต์ผสมผสานรวมในจานอาหารยุโรปอย่างกลมกลืน เพื่อให้ได้กลิ่นอายของความเป็นไทยไปเข้าร่วมการแข่งขันโดยเฉพาะเมนูอาหารไทยที่คนทั่วโลกนิยมรับประทาน และรู้จักเป็นอย่างดี   เช่น ส้มตำ , การทำซอสรสต้มยำ  เป็นต้น

 


 

 

การแข่งขันครั้งนี้ถือว่ามีอุปสรรคพอสมควร เพราะที่ผ่านมางบประมาณมีจำกัดทำให้การฝึกซ้อมของเชฟเยาวชนทำได้เพียงไม่กี่ครั้ง เพราะต้องใช้เงินจำนวนมากในการซื้อวัตถุดิบแต่ละครั้งสูงพอสมควร และเป็นข้อจำกัดที่ไม่สามารถซื้อวัตถุดิบในต่างประเทศหลายอย่างมาให้เชฟเยาวชนได้เรียนรู้และทดลอง เช่น มันฝรั่ง ในเวทีการแข่งขันในต่างประเทศจริง ๆ จะมีหลากหลายชนิดมาก ซึ่งแต่ละชนิดมีคุณสมบัติแตกต่างกัน ทำให้เป็นข้อเสียเปรียบเชฟจากชาติยุโรป 



 

“แต่เชฟเยาวชนชุดนี้ถือว่า มีพัฒนาการที่ดี เพราะแต่ละคนผ่านการแข่งขันในต่างประเทศมาแล้วหลายเวที และมีศักยภาพความสามารถอยู่แล้ว บวกกับความตั้งใจ ทำให้เชื่อมั่นว่า เชฟเยาวชนไทยชุดนี้จะสามารถนำเหรียญใดเหรียญหนึ่งกลับมาให้คนไทยได้ชื่นชม”นายจตุพรกล่าว


 

 

 

นายปรัชญา  ชอบงาม นักศึกษาชั้นปีที่ 3 วิทยาลัยดุสิตธานี ซึ่งเคยได้รับรางวัลชนะเลิศการแข่งขันทำอาหารในงาน  World Skill 2010 ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ กล่าวว่า การแข่งขันที่เยอรมันครั้งนี้ไปแข่งเป็นทีมในรุ่นเยาวชน 4 คนอายุไม่เกิน 25 ถือเป็นโอกาสที่จะได้ไปแสดงฝีมือให้เชฟทั่วโลกได้รู้จักฝีมือของเชฟเยาวชนจากประเทศไทยว่ามีศักยภาพเช่นเดียวกัน ตัวเองได้รับมอบหน้าที่ให้รับผิดชอบดูแลหน้าการปรุงอาหารหน้าเตาทั้งหมด จากที่ได้ฝึกซ้อมจนถึงขณะนี้มีความมั่นใจ 100% 



“อย่างไรก็ตามอยากให้ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองเห็นความสำคัญของเชฟเยาวชนไทยอย่างพวกเราบ้าง เพราะพวกเราก็ไปแข่งขันในเวทีโอลิมปิกด้านอาหารในนามตัวแทนประเทศไทย ไม่ได้ต่างจากนักกีฬาโอลิมปิก หรือการแข่งขันทางด้านวิชาการอื่น ๆ แต่ที่ผ่านมาพวกเราไม่ค่อยได้รับความสนใจจากผู้ใหญ่เท่าที่ควร “นายปรัชญากล่าว



นายเจษฎา  เครือพันธุ์  นักศึกษาระดับชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ซึ่งเคยได้รับรางวัลเหรียญทองและเหรียญเงินจากการแข่งขันในต่างประเทศมาหลายเวที รวมถึงรางวัลแชมป์พิซซ่าประเทศไทยในปีที่ผ่านมา กล่าวว่า  การเดินทางไปแข่งขันทำอาหารครั้งนี้ยอมรับว่า พวกเราได้ฝึกซ้อมกันได้น้อยมาก บางครั้งต้อง”ฝึกซ้อมลม”เพื่อจับเวลาการแข่งขัน โดยไม่มีการซื้อวัตถุดิบมาทำจริง เพราะงบประมาณที่มีจำกัด ทำให้ต้องแบ่งงบประมาณไว้ใช้สำหรับค่าเดินทาง และที่พักในการไปแข่งขันที่เยอรมัน  ซึ่งต้องใช้ค่าใช้จ่ายที่สูงมาก แต่พวกเราพยายามทำกันอย่างเต็มที่ เพื่อให้คนทั่วโลกรู้จักฝีมือเชฟเยาวชนไทย



นายอำนาจ  ธนสมบัติ  นักศึกษาระดับชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต  ซึ่งเป็นเชฟเยาวชนในเอเซียเพียงคนเดียวที่ได้รับรางวัลชนะเลิศสูงสุดในรายการ  Disciples Escoffier International  ซึ่งเป็นการแข่งขันทำอาหารฝรั่งเศส ที่เซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน เมื่อช่วงเดือนพฤษภาคม 2555 กล่าวว่า ตัวเองได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่หั่นและตบแต่งประเภทผักทุกชนิด ตอนนี้มีความมั่นใจ 100% ในการเดินทางไปแข่งขัน แต่มีความกังวลในเรื่องวัตถุดิบหลายอย่าง โดยเฉพาะวัตถุดิบไทยที่จะนำไป เพราะทางเยอรมันอาจจะห้ามการนำเข้าไป เพราะหากหาซื้อในตลาดเยอรมันไม่ได้ก็ต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้ากันไป

 

 



นางสาววรันธร  ชินประหัษฐ์  นักศึกษาระดับชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิตซึ่งเคยได้รับรางวัลการแข่งขันทำอาหารในหลายเวทีในต่างประเทศ  กล่าวว่า ขณะนี้มั่นใจและมีความพร้อม 100% ในการเดินทางไปแข่งขันโอลิมปิกด้านอาหารที่เยอรมัน โดยตัวเองได้รับมอบหมายให้ทำอาหารเรียกน้ำย่อย (Appetizer) และช่วยดูแลการปรุงอาหารหน้าเตา


นายสุภกิณห์   บูชา นักศึกษาระดับชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ซึ่งเคยได้รับเหรียญรางวัลในการแข่งขันในเวทีการแข่งทำอาหารในต่างประเทศ กล่าวว่า มั่นใจ และมีความพร้อมเต็มที่ 100% ในการเดินทางไปแข่งขันในครั้งนี้ โดยตัวเองได้รับมอบหมายให้ดูแลในเรื่องการหั่นตบแต่งเนื้อสัตว์ทั้งหมด



นอกจากการส่งเชฟระดับเยาวชนไปแข่งขันเป็นครั้งแรกแล้ว ในการแข่งขันปีนี้ได้มีการส่งเชฟระดับมืออาชีพอีก 3 คนไปเข้าร่วมการแข่งขันทำเค้กแต่งงาน ,ของหวานยุโรป และการแข่งขันทำน้ำตาลตกแต่งเป็นรูปร่างต่าง ๆ ซึ่งเชฟระดับมืออาชีพทั้ง 3 คน ล้วนเป็นระดับมือโปรและสามารถกวาดเหรียญทองมาแล้วจากการแข่งขันในเวทีต่างประเทศนับไม่ถ้วน เช่น เชฟนันทวัฒน์ นันทเนตร รับหน้าที่ลงแข่งทำเค้กแต่งงาน เป็นต้น

 


 

 

อย่างไรก็ตาม ขอให้ทุกคนช่วยส่งแรงใจไปช่วยเชียร์เชฟเยาวชน และเชฟอาชีพคนไทย ที่เดินทางไปเข้าร่วมการแข่งขันในนามของประเทศไทย เพื่อแสดงฝีมือและศักยภาพให้คนทั่วโลกได้รู้จักฝีมือเชฟไทย ซึ่งไม่ได้เก่งทำอาหารไทยอย่างเดียว  อาหารฝรั่ง เค้ก ขนมหวาน ทำได้เลิศหรูอลังการไม่แพ้ชาติใด ๆ ในโลกเช่นกัน

 

ก็หวังว่าในอนาคตสักวัน  ชื่อเสียงเชฟไทยจะดังไม่แพ้อาหารไทย จนชาติพัฒนาแล้วต้องมาจองตัวไปทำงาน ขณะเดียวกันอยากให้โรงแรมหรู ร้านอาหารดัง ๆ ที่ขายอาหารยุโรป หันมามองเชฟไทยที่ทำอาหารยุโรปคาว-หวาน-เบเกอรี่ได้ไม่แพ้ฝรั่งกันบ้าง

 

 

 

Credit: http://www.matichon.co.th/
6 ต.ค. 55 เวลา 15:13 3,840 40
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...