เปิดกรุทรัพย์สิน"ครม.มาร์ค" "กรณ์" อู้ฟู่ 865ล.-"สุเทพ"รวยหนี้

เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีการประกาศเปิดเผยบัญชีแสดงรายทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ของรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ที่มี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี ภายหลังพ้นจากตำแหน่งครบ 1 ปี เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2555 

เริ่มที่ทรัพย์สินของ "นายอภิสิทธิ์" ซึ่งเป็นผู้นำรัฐบาลในขณะนั้น แจ้งทรัพย์สินกับ ป.ป.ช.ไว้ที่ 36,751,183.11 บาท คู่สมรสคือ นางพิมพ์เพ็ญ เวชชาชีวะ มี 16,938,432.44 บาท บุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ 255,350 บาท รวมทรัพย์สินทั้งหมด 53,944,966.26 บาท ไม่มีหนี้สิน ลดลงจากเมื่อครั้งพ้นจากตำแหน่งใหม่ๆ 410,918.8 บาท ขณะที่ยอดการแจ้งทรัพย์สินเดิมก่อนการเข้ารับตำแหน่งอยู่ที่ 51,795,873.33 บาท 

ขณะที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี มีการแจ้งทรัพย์สินรวม 210,954,501.32 บาท หนี้สิน 347,578,495.60 บาท รวมหนี้สินมากกว่าทรัพย์สิน 136,623,994.28 บาท แตกต่างจากเมื่อครั้งพ้นจากตำแหน่งใหม่ๆ ซึ่งมีการแจ้งบัญชีทรัพย์สินไว้ที่ 95,643,265.23 บาท และก่อนเข้ารับตำแหน่งที่ 81,607,195.95 บาท ทั้งนี้ จำนวนทรัพย์สินที่หายไปนั้น นายสุเทพได้ทำหนังสือชี้แจงกับ ป.ป.ช.ว่า ส่วนใหญ่เป็นการกู้เงินจากธนาคารและสถาบันการเงินอื่นรวม 267,330,647.66 บาท โดยส่วนหนึ่งเป็นหนี้ที่มาจากการกู้เงินของธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย 2 บัญชี จำนวน 248,570,727 บาท และเงินกู้ยืมจากบริษัทศรีสุบรรณฟาร์ม จำกัด จำนวน 80 ล้านบาท

ส่วนอดีตรัฐมนตรีที่รวยที่สุดอันดับหนึ่งคือ 

นายกรณ์ จาติกวณิช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แจ้งทรัพย์สิน 751,780,346.09 บาท 

ขณะที่คู่สมรสมี 114,129,493.75 บาท ทำให้นาย

กรณ์มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สินรวม 865,909,839.84 บาท อันดับสองคือ นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย แจ้งมีทรัพย์สิน 694,659,336.42 บาท ขณะที่คู่สมรสมี 59,577,935.60 บาท รวมมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน รวม 754,237,272.02 บาท อันดับสามเป็นของ นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง แจ้งมีทรัพย์สิน 649,431,082.22 บาทส่วนภรรยามีทรัพย์สิน 32,081,513.14 บาท ส่วนหนี้สินแจ้งว่า ตนเองมีหนี้สิน 253,629.14 บาท

ดังนั้น จึงมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 681,258,966.23 บาท

ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่มีบทบาทมากในสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์นั้น มีทรัพย์สิน 79,063,414 บาท เมื่อเทียบกับสมัยพ้นตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 9,393,998 บาท 

นายกษิต ภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และคู่สมรส มีทรัพย์สิน 63,975,200 บาท มีหนี้สิน 34,305 บาท รวมมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 63,940,895 บาท เมื่อเทียบกับสมัยพ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 4,242,653 บาท 

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมและคู่สมรสและบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ มีทรัพย์สิน 629,881,731 บาท มีหนี้สิน 12,357,750 บาท รวมมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 617,523,980 บาท ทั้งนี้ทรัพย์สินที่น่าสนใจคือ เครื่องเรือนโบราณเก่าสะสม นาฬิกาสะสม ภาพวาดโบราณ ตลอดจนเครื่องฝึกบินขับไล่ เอฟ 18 เครื่องฝึกบินขับไล่ เอฟ 16 เครื่องฝึกบินขับไล่ เอฟ 14 ซึ่งมีมูลค่ารวมกันถึง 54 ล้านบาท เมื่อเทียบกับสมัยพ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม มีทรัพย์สินลดลง 58,505,539 บาท 

นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ มีทรัพย์สิน 66,119,647 บาท มีหนี้สิน 8,147,779 บาท รวมมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 57,970,867 บาท เมื่อเทียบกับสมัยพ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีลดลง 2,585,491 บาท 

ขณะที่รัฐมนตรีจากอดีตพรรคร่วมรัฐบาล รายอื่น อาทิ นายโสภณ ซารัมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และคู่สมรส มีทรัพย์สิน 20,946,774 บาท มีหนี้สิน 4,699,421 บาท รวมมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 16,247,353 บาท เมื่อเทียบกับสมัยพ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 1,943,389 บาท 

นางพรทิวา นาคาศัย อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และคู่สมรส บุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ มีทรัพย์สิน 119,331,996 บาท มีหนี้สิน 2,305,190 บาท รวมมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 117,026,806 บาท โดยทรัพย์สินที่น่าสนใจของนางพรทิวาคือ ชุดเครื่องประดับต่างๆ เช่น ชุดทับทิม สร้อยเพชร แหวนเพชร พระมรกต ที่มีมูลค่ารวมกว่า 31.6 ล้านบาท เมื่อเทียบกับสมัยพ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 924,520 บาท 

นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ มีทรัพย์สิน 203,351,829 บาท เมื่อเทียบกับสมัยพ้นตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 8,067,962 บาท 

นายชุมพล ศิลปอาชา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และคู่สมรส มีทรัพย์สิน 447,445,918 บาท มีหนี้สิน 8 ล้านบาท รวมมีทรัพย์สินมากกว่าทรัพย์สิน 439,445,918 บาท เมื่อเทียบกับสมัยพ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รวมมีทรัพย์สินลดลง 2,201,985 บาท 

นายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมคู่สมรส มีทรัพย์สิน 69,015,344 บาท มีหนี้สิน 211,314 บาท รวมมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 68,804,029 บาท เมื่อเทียบกับสมัยพ้นตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 1,342,863 บาท 

นายสุวิทย์ คุณกิตติ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและคู่สมรส มีทรัพย์สินรวม 47,264,644 บาท มีหนี้สิน 301,962 บาท รวมมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 46,962,682.81 ล้านบาท โดยเมื่อเทียบกับสมัยพ้นตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ถือว่ามีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 3,966,144 บาท 

นายมั่น พัธโนทัย อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง มีทรัพย์สิน 3,774,416,160 บาท มีหนี้สิน 3,757,671,153 บาท รวมมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 16,745,007 บาท เมื่อเทียบกับสมัยพ้นตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง มีทรัพย์สินลดลง 1,572,640 บาท 

อย่างไรก็ตาม สำหรับอดีตรัฐมนตรีจนที่สุด คือนายสุเทพ เทือกสุบรรณ มีหนี้สิน 136,623,994.28 บาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหนี้จากการกู้ยืม รองลงมาคือนางสาวนริศรา ชวาลตันพิพัทธ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ที่มีการแจ้งทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 1,896,198.31 บาท ซึ่งทั้งนี้เป็นเพราะส่วนใหญ่ถูกหักไปกับการกู้เงินลงทุนจากสถาบันการเงินกว่า 14 ล้านบาท