จับยกครัวเมียไทย ฆ่าผัวฝรั่ง แม่-น้องร่วมทีม

หลอกขึ้นรถ-ยิงท้ายทอย สารภาพแค้นลวงแต่งงาน หวังได้สิทธิทำธุรกิจ-บริษัท

ที่แท้เมียไทยลวงฆ่าโหดผัวฝรั่ง หมกศพทิ้งเขาแก่งคอย สระบุรี ตร.ตามรวบยกครัว สารภาพหลอกให้อดีตสามีมาหาที่บ้านในปทุมฯ ก่อนทำทีพาออกไปกินข้าว โดยแม่ยายขับรถ เมียเก่านั่งประกบข้าง เมื่อถึงทางเปลี่ยวน้องชายที่ซุกอยู่ด้านหลังรถ ลุกขึ้นมาจ่อยิง 3 นัดซ้อนดับคาที่ แล้วนำศพทิ้งอำพรางคดีในแก่งคอย ก่อนตำรวจแกะรอยจนคนร้ายยอมมอบตัว เผยปมเหตุแค้นโดนฝรั่งหลอกแต่งงาน หวังได้สิทธิเปิดบริษัทในไทย แถมยังขอนำลูกชายไปเลี้ยงดู จนเป็นเรื่องฟ้องร้องในศาล



จากกรณีคนร้ายก่อเหตุยิงนายออสวาลด์ ไฮน์ริช ดูเวล อายุ 50 ปี ชาวแอฟริกาใต้ ผจก.บริษัทรับเหมาออกแบบดีไซน์สินค้าของโคคา-โคลา แครอต และซัมบิท เสียชีวิตข้างถนนสายแก่งคอย-บ้านนา หมู่ 4 ต.ท่ามะปราง อ.แก่งคอย จ.สระบุรี เหตุเกิดวันที่ 30 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยก่อนพบเป็นศพ ผู้ตายขับรถไปหาบุตรชายที่บ้านอดีตภรรยในอ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี แล้วหายตัวไปจนกระทั่งมาพบเป็นศพ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบมีเรื่องฟ้องร้องกับอดีตภรรยา เพื่อขอเป็นผู้ปกครองดูแลบุตร ซึ่งศาลนัดฟังคำสั่งวันที่ 8 ต.ค.นี้ ต่อมาเจ้าหน้าที่พบรถกระบะของผู้ตายจอดทิ้งอยู่ในต.คลองสอง อ.คลองหลวง ก่อนเร่งติดตามหาตัวคนร้าย ตามที่เคยเสนอข่าวไปนั้น



สำหรับความคืบหน้า เมื่อวันที่ 3 ต.ค. พล.ต.ท.นเรศ นันทโชติ ผบช.ภ.1 พร้อมพล.ต.ต.เมธี กุศลสร้าง รอง ผบช.ภ.1 เจ้าหน้าที่ศูนย์สืบสวน บช.ภ.1 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แก่งทอย และเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ภ.จว.ปทุมธานี แถลงจับกุมน.ส.คชารินทร์ หรือน้อย หรือตาล ปัญจเทพมงคล อายุ 32 ปี อดีตภรรยาของนายออสวาลด์ นางวรพร ปัญจเทพมงคล แม่บุญธรรมของน.ส.คชารินทร์ และนายสุรสิทธิ์ หรือปอง ปัญจเทพมงคล น้องชาย ผู้ต้องหาก่อเหตุฆ่าโหดนายออสวาลด์และนำศพไปทิ้งอำพรางคดีที่อ.แก่งคอย



พล.ต.ต.เมธีกล่าวอีกว่า จากการสอบสวน ผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุ น.ส.คชารินทร์โทรศัพท์ไปหานายออสวาลด์ให้มาพบที่บ้านพักเลขที่ 106/7 อาคารศรีเทพ อ.ลำลูกกา เพื่อหวังเคลียร์ปัญหาเรื่องการดูแลบุตร หลังทั้ง 2 คนหย่าร้างกัน จากนั้นน.ส.คชารินทร์ออกอุบายชักชวนนายออสวาลด์ไปรับประทานอาหารนอกบ้านและไหว้พระ โดยมีนางวรพรเป็นคนขับรถยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีดำ ทะเบียน 5895 กทม. ส่วนน.ส.คชารินทร์และนายออสวาลด์นั่งอยู่ที่เบาะด้านหลัง



พล.ต.ต.เมธีกล่าวต่อว่า เมื่อขับรถออกจากบ้านประมาณ 2 ก.ม. บริเวณถนนรังสิต-ปทุมฯ ซึ่งเป็นช่วงทางเปลี่ยวและไม่คอยมีรถผ่านไปมา นายสุรสิทธิ์ที่ซ่อนตัวอยู่ด้านหลังรถได้ลุกขึ้นมาและชักอาวุธปืนจ่อยิงนายออสวาลด์เข้าบริเวณท้ายทอย 3 นัด จนเสียชีวิตคาที่ จากนั้นผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ขับรถนำศพไปทิ้งอำพรางคดีที่อ.แก่งคอย ก่อนนำอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุไปทิ้งในย่านคลอง 2 ปทุมธานี ต่อมาผู้ต้องหาทั้งหมดเกรงกลัวความผิด จึงขอเข้ามอบตัว โดยนัดหมายกันที่บริเวณวัดใหญ่ชัยมงคล จ.พระนครศรีอยุธยา จากนั้นควบคุมตัวมาสอบสวน ก่อนพานาย สุรสิทธิ์ไปชี้จุดและเร่งค้นหาอาวุธปืนแล้ว แต่ยังไร้วี่แวว



พล.ต.ต.เมธีกล่าวอีกว่า สำหรับประเด็นการก่อเหตุ น.ส.คชารินทร์ให้การว่า มาจากนาย ออสวาลด์มีพฤติกรรมชอบทำร้าย ที่สำคัญยังมาหลอกแต่งงาน เพื่อจะได้สิทธิ์จดทะเบียนเปิดบริษัทหรือทำธุรกิจในประเทศไทย อีกทั้งยังอยากมีลูกชายด้วย เมื่อนายออสวาลด์มีลูกชายและ จดทะเบียนเปิดบริษัทตามที่ต้องการแล้ว จึงได้ขอหย่ากับน.ส.คชารินทร์ อีกทั้งยังพยายามขอสิทธิ์ในการดูแลลูก จึงทำให้ครอบครัวของน.ส. คชารินทร์เกิดความโกรธแค้น ก่อนวางแผนและลวงนายออสวาลด์มาฆ่าทิ้งดังกล่าว



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่ตรวจสอบในจ.ปทุมธานี และพบรถยนต์ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ ที่ใช้ก่อเหตุและขนศพนายออสวาลด์ไปทิ้งอำพรางที่อ.แก่งคอย จอดทิ้งอยู่บริเวณหน้าหมู่บ้านรัตนโกสินทร์ 200 ปี ก่อนนำกลับมาตรวจสอบ เพื่อใช้เป็นหลักฐานดำเนินคดีต่อไป

กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...