เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 3 ต.ค. ผู้สื่อข่าว ข่าวสด รายงานว่า พ.ต.อ.สมชาย เชยกลิ่น ผกก.สน.โคกคราม ร.ต.อ.วสันต์ ธวัชชัยวิรุตษ์ สส.สว.สน.โคกคราม ร.ต.อ.เฉลิมพล วงษ์ชัยสุวรรณ รอง สว.สส.สน.โคกคราม พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสน.โคกคราม ร่วมแถลงข่าวจับกุม นายสมภพ รณรงค์ อายุ 41 ปี อาชีพขับรถแท็กซี่ อยู่หมู่ 4 ต.เทพารักษ์ อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ พร้องของกลางประกอบด้วย คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ก 2 เครื่อง ธนบัตรปลอมมูลค่ารวม 1,090 บาท โทรศัพท์มือถือ 12 เครื่อง กล้องดิจิตอล 1 ตัว มีดพับปลายแหลม 1 เล่ม ปืนปลอม 1 กระบอก อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าอีกหลายรายการ เสื้อผ้าชุดชั้นในของผู้หญิงจำนวนมาก และรถยนต์โตโยต้า อัลติส แท็กซี่สีชมพู หมายเลขทะเบียน ทศ 8200 กทม. โดยจับกุมผู้ต้องหาได้ที่ ซอยนวมินทร์ 82ถ.นวมินทร์ แขวงนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม กทม.
พ.ต.อ.สมชาย เปิดเผยว่า สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.โคกครามได้รับแจ้งจากนายธีติ ศานติวงษ์การ อายุ 28 ปี ว่า เมื่อวันที่ 18 ส.ค. เวลาประมาณ 21.30 น. ที่ผ่านมาตนเองและครอบครัวได้เตรียมตัวเดินทางไปต่างประเทศก่อนจะเรียกแท็กซี่สีชมพู หมายเลขทะเบียน ทศ 8200 กทม. ว่าจ้างให้มารับภายในซ.รามอินทรา 40 แยก 33 เพื่อไปส่งที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งย่านถนนนวลจันทร์ เมื่อถึงร้านดังกล่าวตนได้ขนกระเป๋าของตนขึ้นรถเพื่อนที่จอดรออยู่ก่อนที่จะเดินเข้าไปในร้าน เมื่อตนเองกลับมาที่รถของเพื่อนพบว่ากระเป๋าตนเองได้หายไปจึงขอดูกล้องวงจรปิดทางร้านดูก็พบว่าคนขับแท็กซี่คันดังกล่าวได้เดินที่บริเวณรถของเพื่อนตนเอง ก่อนหยิบกระเป๋นเดินทางภายในรถของเพื่อนตนเองและขับรถแท็กซี่ออกไปอย่างรวดเร็ว จึงรีบเดินทางมาแจ้งความ และต่อมาเมื่อวันที่ 20 ส.ค. ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้รับแจ้งจากน.ส.อมรรัตน์ อายุ 28 ปี อยู่ ซ.นวมินทร์ 135 หมู่บ้านราณี แขวงนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม กทม. ว่ามีคนร้ายเข้าไปก่อเหตุลักทรัพย์ภายในบ้านเลขที่ดังกล่าวแล้วหลบหนีไป
หลังจากนั้นคนร้ายได้นำเอทีเอ็ม ไปกดที่ตู้ ATM ใกล้ร้านสะดวกซื้อภายใน ซ.นวมินทร์ 74 เจ้าหน้าที่จึงหาข่าวจากกล้องวงจรปิดของตู้เอทีเอ็ม ก่อนจะนำภาพที่ได้จากกล้องวงจรปิดมาให้ผู้เสียหายดูก่อนจนพบว่าเป็นนายสมภพ ที่เคยพักอาศัยอยู่ในหมู่บ้านราณี ซึ่งมีอาชีพขับรถแท็กซี่ ต่อมานายสมภพยังได้โทรเข้ามาที่เบอร์มือถือส่วนตัวของน.ส.อมรรัตน์ โดยขู่กรรโชกว่าถ้าไม่โอนเงินจำนวน 3,000 บาทให้ จะประจานว่าผู้เสียหายถูกนายสมภพข่มขืน จนผู้เสียหายเกิดความกลัวจึงได้โอนเงินจำนวนดังกล่าวให้ไปก่อนจะเข้าแจ้งความ จากนั้นเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้ติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาที่บริเวณสถานที่ดังกล่าว พร้อมกับนำตัวไปขยายผลค้นบ้านพักเลขที่ 30/21-24 ห้องที่ 006 ชั้น 2 ซ.นวมินทร์ 80 ถนนนวมินทร์ แขวงนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม กทม. โดยพบของกลางเป็นจำนวนมากซุกซ่อนอยู่ภายในบ้าน
ด้านนายสมภพ ให้การภาคเสธ โดยรับว่าได้เข้าไปขโมยของในบ้านของน.ส.อมรรัตน์จริง และได้ขโมยของนายนิธิ มาจากในรถของผู้เสียหาย ส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์สื่อสารต่างๆ นั้นเป็นของตนเองทั้งหมด ส่วนเสื้อผ้าและชุดชั้นในของผู้หญิงจำนวนมากเป็นของแฟนเก่าและแฟนใหม่ของตน แต่ยังซักตากเก็บไว้ดูเท่านั้น และไม่เคยลงมือชิงทรัพย์ผู้โดยสารแต่อย่างใด
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อจากคำให้การของนายสมภพแต่อย่างใด เพราะสืบทราบว่านายสมภพได้พักอาศัยอยู่บ้านคนเดียว จึงคาดว่าผู้เสียหายน่าจะตระเวนก่อเหตุลักทรัพย์พร้อมกับขโมยชุดชั้นในของผู้หญิงติดมือมาด้วย และยังพบบัตรประชาชนและบัตรเอทีเอ็มของผู้อื่นอีกจำนวนหนึ่ง และจะได้ขยายผลหาเจ้าของที่แท้จริง ก่อนจะแจ้งข้อกล่าวหาว่า ลักทรัพย์ในเคหะสถานในเวลากลางคืนหรือรับของโจร นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป