วันที่ 4 ต.ค. พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รอง ผบช.น. นำกำลังตำรวจชุดเฉพาะกิจ กองบัญชาการตำรวจนครบาล 20-30 นาย ร่วมกับ ตำรวจ สน.โชคชัย ปิดล้อมตรวจค้นสถานบริการ บริเวณถนนเลียบด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ โดยจากการตรวจสอบพบว่า สถานบริการดังกล่าว ไม่มีใบอนุญาตประกอบการสถานบริการ มีเพียงการขออนุญาตจำหน่ายสุราเท่านั้น ขณะเดียวกันยังพบการกระทำผิดในเรื่องของแรงงานต่างด้าว ที่ไม่มีใบอนุญาต จำนวน 2 คน
พล.ต.ต.อดุลย์ กล่าวว่า การดำเนินการดังกล่าว เริ่มตั้งแต่เดือน ส.ค เป็นต้นมา หลังรับนโยบาย ซึ่งจะแบ่งการดำเนินการเป็นระยะ ซึ่งครั้งนี้เป็นการตรวจค้นระยะแรก โดยจะออกตรวจ ทั้งในและนอกโซนนิ่ง เพื่อทำให้สถานบริการ ปลอดภัย และได้มาตรฐาน เพื่อรองรับประชาคมอาเซียน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยว เนื่องจากเห็นว่าการท่องเที่ยวเป็นรายได้หลักของประเทศไทย โดยจากนี้ไปการตรวจค้นสถานบริการจะมีการนำเจ้าหน้าที่การประปาและกรมทรัพยากรธรณี เข้าร่วมการตรวจค้นด้วย เนื่องจากพบว่าปัจจุบันพื้นผิวการจราจรในกรุงเทพมหานคร เกิดการทรุดตัวเป็นจำนวนมากซึ่งเชื่อว่าส่วนหนึ่งมาจากการขุดเจาะน้ำบาดาล
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กองบังคับการตำรวจนครบาล 4 ได้เข้าตรวจค้นสถานบริการ ย่านพระราม 9 อีก 1 แห่ง พบการกระทำผิดโดยมีการใช้ชื่อไม่ตรงกับใบอนุญาต และมีการทำบัตรพนักงานไม่เป็นปัจจุบัน โดยหลังจากนี้จะมีการทำบันทึกจับกุมและดำเนินการต่อไป
พล.ต.ต.อดุลย์ ยังได้นำกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 30 นาย เข้าปิดล้อมตรวจค้น สถานบริการ ย่านทองหล่อ โดยเฉพาะร้าน เซฟเฮาส์ ซอยทองหล่อ 10 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ เพื่อเร่งรัดตรวจสอบกวดขันสถานบริการให้เป็นไปตามกฎหมาย จากการตรวจสอบพบว่า สถานบริการดังกล่าว มีใบอนุญาตประกอบสถานบริการไม่ครบ และเปิดเกินเวลาที่กำหนด รวมไปถึง มีแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย 2 คน และเยาวชน เข้ามาใช้บริการ 6 คน
ปัจจุบันมีสถานบริการ 1,400 แห่ง ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ที่เปิดโดยไม่รับอนุญาต และมีการหลบเหลี่ยงภาษี ทำให้รัฐเสียรายได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้มีการจัดทำแผนการดูแลสถานบริการให้เป็นไปตามกฎหมาย และในการปิดล้อมตรวจค้นจะร่วมกับสำนักงานเขต เพื่อให้สถานบริการมีความปลอดภัยและมีมาตรฐาน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวด้วย