เมื่อเวลา 14.30 น. (วันที่ 2 ต.ค.) นายอำนาจ แจ้งแสง อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 26/3 ถ.สุดบรรทัด ต.ปากเพรียว อ.เมืองสระบุรี เดินทางเข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.วิมลมาศ กันธิยะ ร้อยเวร สภ.สันทราย จ.เชียงใหม่ เพื่อขอให้ดำเนินคดีกับนายเศรษฐกรณ์ ไชยวสุพงศ์ หรือ “แอ๊ด ชัยรัตน์ จิตธรรม” อายุ 48 ปี อดีตดารานักแสดงรุ่นใหญ่ อยู่บ้านเลขที่ 77/87 ถ.สามวา ต.บางชัน เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ ในข้อหาร่วมกับพวกพยายามฆ่า นายอำนาจให้การอ้างว่า ตนกับแฟนสาวคือ น.ส.ศุภลักษณ์ ตีมู อายุ 29 ปี ได้เป็นลูกจ้างของนายเศรษฐกรณ์ หรือ “แอ๊ด ชัยรัตน์ จิตธรรม” ดารารุ่นเก๋า กับ น.ส.ภาวิณี อินทะสิทธิ์ อายุ 36 ปี
จากนั้นได้มีการรับงานจากบริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) เพื่อให้มาประชาสัมพันธ์การจัดงานคอนเสิร์ตโครงการมหัศจรรย์รอยเสด็จฯทุกหย่อมหญ้าใต้ฟ้าพระบารมี ที่จัดในช่วงเดือนส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งตนได้ติดต่อบริษัทที่รับทำโฆษณา เพื่อให้มีการประชาสัมพันธ์งานดังกล่าว ที่จัดขึ้นที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา เชียงใหม่ แอร์พอร์ต ซึ่งภายในงานจะมีดารานักแสดงชื่อดังมาร่วมงาน การจัดงานนี้ไม่เฉพาะที่จังหวัดเชียงใหม่ แต่จัดในจังหวัดอุดรธานี ระยอง และหัวหิน รวมทั้งหมด 4 แห่ง ซึ่งได้ให้บริษัทที่เป็นซัพพลายเออร์ เป็นผู้จัดทำด้านการประชาสัมพันธ์ แต่เมื่องานที่จังหวัดเชียงใหม่ทำเสร็จแล้ว
ทางบริษัทที่รับทำโฆษณาได้มาติดต่อขอรับเงิน ซึ่งตนได้ติดต่อไปทางนายเศรษฐกรณ์ และ น.ส.ภาวิณี อินทะสิทธิ์ ซึ่งเป็นหัวหน้าว่าทางบริษัทดังกล่าวติดต่อมา เพื่อจะขอเคลียร์เงินค่าจ้าง เป็นเงินจำนวน 13,025 บาท แต่ตนได้รับการบ่ายเบี่ยงตลอด และทางบริษัทดังกล่าวได้โทรมาทวงถามเงินที่ตนทุกวัน กระทั่งล่าสุดตนได้โทรศัพท์ติดต่อไปหาทั้งสองคนอีกครั้ง เพื่อพูดคุยปัญหาดังกล่าว แต่ขณะนั้นตนก็เกิดความโมโหเพราะทั้งสองคนไม่ยอมเคลียร์เงินให้ และตนต้องรับแบกภาระดังกล่าวทั้งที่ตนไม่ใช่ผู้รับงาน เป็นแค่ผู้ประสานงาน
กระทั่งต่อมาเมื่อวันที่ 26 ก.ย. ที่ผ่านมา เวลาประมาณเที่ยงคืน น.ส.ภาวิณี ได้ติดต่อมาและนัดไปพบที่ร้านแมคโดนัล สาขาตลาดมีโชค ถ.เชียงใหม่ – แม่โจ้ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ เพื่อนัดพูดคุยปรับความเข้าใจกัน เรื่องเกี่ยวกับค่าแรงตนกับแฟนสาวได้ไปตามที่นัดพบไว้ ระหว่างการพูดคุยนั้น น.ส.ภาวิณีบอกว่านายเศรษฐกรณ์ ไม่ว่างเพราะมีธุระ จึงเดินทางไปกรุงเทพฯ จากนั้นพวกตนได้ขอโทษที่ได้พูดจารุนแรงไปทางโทรศัพท์ ซึ่งคุยกันและตกลงกันได้แล้ว
ต่อมาตนได้ออกมาจากร้าน 21.00 น. ซึ่งตนได้ขับและแฟนสาวซ้อนท้าย เพื่อจะกลับที่หอพัก ที่บ้านโจ้ ต.หนองหาร อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ใกล้กับหมู่บ้านพิมุกต์ 2 ระหว่างนั้นได้สังเกตเห็นรถยนต์และรถกระบะไล่ติดตามมา จึงได้เร่งเครื่องยนต์หนีผ่านหน้าป้อมยามทางเข้าหมู่บ้านพิมุกต์ 2 ไปประมาณ 20 เมตร รถยนต์เก๋งจำได้ว่าเป็นยี่ห้อวอลโว ได้ขับปาดหน้าและรถยนต์กระบะได้จอดประกบท้าย ซึ่งพวกตนได้จอดรถและวิ่งหลบหนีไปขอความช่วยเหลือจาก รปภ.ประจำหมู่บ้านพิมุกต์ 2 แต่กลุ่มชายดังกล่าวได้วิ่งไล่ พร้อมกับสั่งให้พวกตนหยุด และได้ชักอาวุธปืนออกมายิงไล่ตามหลังมา พวกตนเกรงว่าจะถูกยิงจึงหยุดและกลุ่มดังกล่าวซึ่งมีชายฉกรรจ์ประมาณ 7 – 8 คน ได้ใช้ท่อนไม้ และท่อนเหล็กเข้ามาทุบตีตน
ส่วนอีกคนจับแฟนตนไว้ ช่วงที่ถูกรุมทำร้ายตนจำได้ว่ามีนายเศรษฐกรณ์รวมอยู่ด้วย หลังจากกลุ่มทั้งหมดได้ทำร้ายตนจนนอนจมกองเลือดกับพื้นแล้วได้หลบหนีไป เหลือเพียงแต่นายเศรษฐกรณ์เพียงคนเดียว ที่ยังใช้ท่อนเหล็กทุบตีตนต่อ และมีการข่มขู่แฟนสาวตนว่า “อย่ามายุ่งและให้พากันออกไปจากจังหวัดเชียงใหม่เสีย” หลังจากนั้นทาง รปภ.ของหมู่บ้านได้โทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่กู้ภัยมารับตนไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลแมคคอมมิค อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ซึ่งตนนอนอยู่ในห้องไอซียูเพื่อรักษาตัว เพราะต้องเย็บแผลที่ศีรษะ 18 เข็ม แขน 2 เข็ม ขา 2 เข็ม ซึ่งที่ศีรษะนั้นหมอได้บอกว่ากระโหลกศีรษะร้าว และล่าสุดสมองบวม โดยได้ให้ตนนอนพักรักษาที่โรงพยาบาลเพื่อดูอาการ แต่พวกตนและครอบครัวเกรงว่า จะถูกกลุ่มดังกล่าวตามมาทำร้ายหรือข่มขู่อีก จึงได้ขอออกจากโรงพยาบาลเพื่อมารักษาตัวที่บ้าน ก่อนจะมาแจ้งความดังกล่าว
ด้าน ร.ต.ท.วิมลมาศ เจ้าของคดีเปิดเผยว่า สำหรับคดีนี้มีพยานรู้เห็นด้วย และเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดว่าเป็นอย่างไร คือ รปภ.ประจำหมู่บ้าน ทางผู้บาดเจ็บอาการสาหัส ขณะนี้ต้องรอผลการตรวจจากแพทย์มาประกอบในสำนวนคดีอีกครั้งก่อนจะออกหมายจับ เพราะคดีนี้ถือว่าเป็นคดีที่มีโทษร้ายแรงตามกฎหมายนั้นหากคดีที่มีโทษไม่เกิน 3 ปี ก็ให้ออกหมายเรียกก่อน 2 ครั้ง ถึงจะออกหมายจับ แต่คดีนี้ถือว่าเป็นคดีที่รุนแรง มีพยานรู้เห็นที่ชัดเจน ดังนั้นสามารถที่จะขออำนาจศาลในการออกหมายจับได้ทันที แต่ทั้งนี้จะให้โอกาสกับทางผู้ที่ถูกกล่าวหาให้เดินทางมาพบภายในอาทิตย์นี้ก่อน หากไม่มาจะขออนุมัติหมายจับ เพื่อให้ติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี ส่วนข้อหาที่ตั้งไว้นั้นเป็นข้อกล่าวหา “ร่วมกันกับพวกที่หลบหนี 7 – 8 คน ร่วมกันพยายามฆ่า”
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับ นายเศรษฐกรณ์ ไชยวสุพงศ์ หรือชัยรัตน์ จิตธรรม มีชื่อเล่นว่า “แอ๊ด” เกิดเมื่อ พ.ศ. 2507 ที่ จ.ลำปาง เป็นดารานักแสดงหนุ่มใหญ่ รุ่นคราวเดียวกับ หนุ่ม-สันติสุข พรหมศิริ และ จินตหรา สุขพัฒน์ ฝากผลงานการแสดงทั้งจอเงินและจอแก้วหลายเรื่อง ที่เด่น ๆ ก็มีภาพยนตร์ไทยเรื่อง “เปรอะเจอเปรี้ยว” แสดงคู่กับ จารุณี สุขสวัสดิ์ และเรื่อง “คำมั่นสัญญา” จากนั้นหายหน้าไปทำธุรกิจส่วนตัวนับ 10 ปี ก่อนกลับมารับบทเป็น พระราเมศวร โอรสองค์โต ของสมเด็จพระมหาจักรพรรดิในละครทีวีแนวอิงประวัติศาสตร์เรื่อง กษัตริยา ของค่ายกันตนาในปี 2545 ก่อนหายไปจากวงการอีกครั้ง