เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 30 ก.ย. ที่สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ นางวิภาพร แสวงจรรยาสันติ อายุ 29 ปี และครอบครัว ร่วมกันเดินทางมารับศพ ด.ญ.สุภาพร แสวงจรรยาสันติ อายุ 9 ขวบ และด.ญ.สุชาดา แสวงจรรยาสันติ อายุ 7 ขวบ สองพี่น้องที่เสียชีวิตภายในสระว่ายน้ำ "บีบีเทรนนิ่ง" ซอยโชคชัย 4 แขวงและเขตลาดพร้าว หลังมารดาพาไปเรียนว่ายน้ำ เมื่อวันที่ 29 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า

นางวิภาพร มารดาของหนูน้อยทั้ง 2 กล่าวทั้งน้ำตาว่า จะนำศพลูกไปบำเพ็ญกุศลที่ศาลา 1 วัดพรหมวงศาราม (วัดหลวงพ่อเณร) ซอยเพิ่มสิน ถนนประชาสงเคราะห์ แขวงและเขตดินแดง เป็นเวลา 3 คืน และจะมีพิธีฌาปนกิจในช่วงเย็นวันที่ 3 ต.ค.นี้ ส่วนตัวยอมรับว่าพลาดที่ปล่อยให้ลูกเล่นน้ำเพียงลำพัง แต่ยังแปลกใจว่าช่วงเกิดเหตุมีคนใช้บริการ ทั้งยังมีเจ้าหน้าที่ดูแลอยู่ด้วย ทำไมไม่มีใครเห็นหรือช่วยเหลือได้ทันกาล จึงขอให้ตำรวจช่วยตรวจสอบว่าเป็นความผิดของใครหรือไม่ รวมทั้งอยากฟังเจ้าของสระว่าจะรับผิดชอบอย่างไร สำหรับสาเหตุการเสียชีวิตของทั้งคู่ แพทย์ระบุบว่า เกิดจากระบบหายใจและไหลเวียนโลหิตล้มเหลว

ด้าน พ.ต.อ.เศรษฐศักดิ์ ยิ้มเจริญ ผกก.สน.โชคชัย กล่าวว่า ทราบจากพนักงานสอบสวนว่าสระดังกล่าวเปิดสอนว่ายน้ำให้กับเด็ก โดยในวันเกิดเหตุเด็กทั้ง 2 คนก็มาเรียนตามว่ายน้ำตามปกติพร้อมกับมารดา ซึ่งเมื่อเรียนเสร็จลูกยังขอเล่นต่อ ซึ่งก็มีมารดานั่งเฝ้าอยู่ ต่อช่วงเกิดเหตุแม่ของเด็กได้ไปเข้าห้องน้ำพอดี เมื่อกลับออกมาจึงทราบว่าลูกจมน้ำไปแล้ว ดังนั้นคงต้องมีการเรียกเจ้าของสระมาสอบปากคำก่อนว่าได้มีการกำหนด กฎระเบียบการใช้สระว่ามีการแบ่งแยกระดับอายุของผู้ที่จะว่ายน้ำในแต่ละสระอย่างไร รวมทั้งเตรียมระบบการรักษาความปลอดภัยเอาไว้หรือไม่ เพราะทราบมาว่าสระแห่งนี้เคยมีเด็กถูกไฟฟ้าดูดเสียชีวิตมาก่อน

รวมทั้งสอบปากคำแม่ของเด็กด้วย ว่าเข้าข่ายประมาทหรือไม่ เพราะครูได้สอนเรียนว่ายน้ำเสร็จแล้ว แต่ยังให้ลูกเล่นน้ำต่ออีก และไม่ระวังปล่อยให้เด็กลงเล่นสระใหญ่อีกจนเป็นเหตุให้ลูกต้องจมน้ำก็อาจจะต้องมีความผิดฐานประมาทปล่อยปละละเลยได้ อย่างไรก็ตามยังขอฝากเตือนถึงผู้ปกครองรายอื่น ๆด้วยว่าควรที่จะดูแลบุตรหลานให้ดี เพราะอาจเกิดเหตุไม่คาดฝันได้ตลอดเวลา.