วันที่ 30 ก.ย. เอเอฟพีรายงานสถานการณ์ความรุนแรงทางศาสนาครั้งล่าสุด เมื่อผู้ประท้วงชาวมุสลิมบังกลาเทศ ราว 25,000 คน บุกเผาทำลายวัดพุทธ อย่างน้อย 5 แห่ง และบ้านเรือนในเมืองรามุ ทาง ตอนใต้ของประเทศ หลังมีกระแสข่าวลือว่าชาวพุทธท้องถิ่น โพสต์รูปคัมภีร์อัลกุรอานในเชิงดูหมิ่นศาสนาอิสลามบนเว็บไซต์เฟซบุ๊ก จนเป็นต้นเหตุสร้างความไม่พอใจให้แก่ชาวมุสลิม
เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเผยว่าม็อบมุสลิมรวมตัวเผาและทำลายพุทธศาสนาสถาน และบ้านในชุมชนชาวพุทธเมืองรามุ ตั้งแต่ช่วงเที่ยงคืนวันที่ 29 ก.ย. จนถึงรุ่งสาง มีอาคารไม่ต่ำกว่า 100 หลังคาเรือนเสียหาย ทางการต้องอาศัยเจ้าหน้าที่ชายแดนและทหารเข้าสลายความรุนแรง พร้อมออกคำสั่งห้ามชุมนุมในพื้นที่เสี่ยง
ตำรวจเมืองรามุ กล่าวว่าม็อบมุสลิมร้องตะโกนสรรเสริญพระเจ้า ก่อนจะจุดไฟเผาวัดอายุนับร้อยปี และตรงเข้าทำลายบ้านเรือนชาวพุทธจนวอดวาย ถือเป็นการโจมตีชุมชนชาวพุทธครั้งแรกในเมืองรามุ และยังเป็นการปะทะที่เกิดขึ้นได้ยาก เนื่องจากชาวพุทธในบังกลาเทศมีจำนวนน้อย และอาศัยอยู่อย่างสงบ
นายสุนิล บารัว นักข่าวผู้เห็นเหตุการณ์ เปิดเผยว่าวัดไม้ 11 แห่ง โดย 2 แห่งเป็นวัดเก่าแก่อายุกว่า 300 ปี ถูกเผาจนเป็นเถ้า โดยม็อบได้ปล้นสะดมพระพุทธรูปจากวัด ยังไม่รวมถึงความเสียหายของหมู่บ้านชาวพุทธอีก 15 แห่ง มากกว่า 100 หลังคาเรือนที่ได้รับความเสียหายในสภาพไม่ต่างจากถูกไซโคลนถล่ม
ทั้งนี้ มีผู้นับถือศาสนาพุทธในบังกลาเทศไม่ถึงร้อยละ 1 ของประชากร 153 ล้านคน ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ ใกล้ชายแดนติดพม่า ซึ่งน่าวิตกว่า ความรุนแรงครั้งนี้อาจเป็นผลกระทบจากความไม่ลงรอยระหว่างชาวพุทธ และมุสลิมโรฮิงยาในรัฐยะไข่ ของพม่า หลังเกิดการปะทะจนมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 80 ราย เมื่อมิ.ย. ซึ่งสหประชาชาติเพิ่งเตือนผู้นำพม่าให้เร่งคลี่คลายปัญหา