2โจรงัดพิพิธภัณฑ์หลวงปู่เอี่ยมวัดหนัง-ขโมยพัดยศล้ำค่า-แต่โลภจะเอาอีกเลยถูกพระล้อมจับ

 เมื่อเวลา 05.00 น. วันที่ 28 ก.ย. พ.ต.ท.โสภณ เนตรสว่าง สวป.สน.บางขุนเทียน รับแจ้งจากพระลูกวัดวัดหนังราชวรวิหาร ถ.วุฒากาศ แขวงบางค้อ เขตจอมทอง กรุงเทพฯ ว่าจับกุมตัวผู้ต้องหาลักทรัพย์ภายในวัดได้พร้อมของกลางหลายรายการ จึงรุดตรวจสอบพร้อมพ.ต.ท.ไกรวิทย์ อุณหก้องไตรภพ สว.สส. ร.ต.อ.ภีรชาติ คุ้มสังข์ รองสว.สส. และอปพร.เขตบางบอน

 ที่เกิดเหตุบริเวณข้างพิพิธภัณฑ์หลวงปู่เอี่ยม พบพระลูกวัด 6 รูปกำลังคุมตัวนายสมบูรณ์ นากัณหา อายุ 68 ปี อยู่บ้านเลขที่ 55 ม.5 ต.ทุ่งกุลา อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ และนายไพบูลย์ ปรีพลู อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 121 ม.14 ต.ห้วยโพธิ์ อ.เมืองกาฬสินธุ์ จ.กาฬสินธุ์ สภาพศีรษะแตก เลือดท่วมตัว พร้อมของกลางรถตู้โตโยต้า สีน้ำเงิน ทะเบียน ตศ 6764 กรุงเทพฯ ภายในรถพบตู้พระไตรปิฎก สมัยรัชกาลที่ 3 พัดยศด้ามงาช้างสมัยรัชกาลที่ 5 ของหลวงปู่ผล อดีตเจ้าอาวาส พร้อมโต๊ะรองขาตั้งพระพุทธรูปไม้ 1 องค์ อาวุธปืนลูกโม่ขนาด .22 พร้อมกระสุนปืนขนาดเดียวกัน 6 นัด ไขควง 6 อัน มีดพก 1 เล่ม ชะแลง คีมตัดเหล็ก กระสอบ และถุงมือ

 พระครูสมุห์พา ยุตตจาโร พระลูกวัดให้การว่า ช่วงเวลาประมาณ 03.00 น. ได้ยินเสียงคนเดินและเสียงเคลื่อนย้ายตู้ภายในพิพิธภัณฑ์หลวงปู่เอี่ยม จึงรีบลุกขึ้นไปดูพบคนร้าย 2 คนกำลังหลบซ่อนตัวอยู่ข้างกำแพง จึงโทรศัพท์ปลุกพระลูกวัดรูปอื่นที่อยู่ในกุฏิใกล้กันออกมาช่วยตามจับ โดยนายสมบูรณ์เมื่อเห็นพระออกมาหลายรูปจึงยอมให้จับกุมแต่โดยดี ส่วนนายไพบูลย์พยายามต่อสู้และวิ่งหลบหนี แต่สะดุดขาตัวเองหกล้มหน้าผากกระแทกพื้นจนเลือดอาบ จึงถูกจับกุมในที่สุด

 เบื้องต้นสอบสวนผู้ต้องหาทั้งคู่ให้การว่า มีอาชีพค้าของเก่าที่ตลาดมืด ย่านคลองถม มักตระเวนขโมยวัตถุโบราณและพระเก่าไปขายที่ย่านคลองถม โดยครั้งนี้เข้าไปขโมยของมีค่าภายในพิพิธภัณฑ์หลวงปู่เอี่ยม และขนออกไปเก็บไว้ในรถตู้แล้ว แต่เกิดความโลภอยากได้ของมีค่าอีกเพื่อให้คุ้มค่าเหนื่อย จึงย้อนกลับมาลงมือซ้ำแต่พลาดโดนพระลูกวัดจับกุมตัวได้ดังกล่าว

 ต่อมาเวลา 16.30 น. พ.ต.อ.ภาดล ประภานนท์ รอง ผบก.น.9 พ.ต.อ.ธนกฤต ไชยจารุวุฒิ ผกก.สน.บางขุนเทียน พ.ต.ท.ยุทธพงษ์ อินทรพงษ์ รอง ผกก.ป. พร้อมด้วย พระวิเชียรโมลี เจ้าอาวาสวัดหนังราชวรวิหาร ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมนายสมบูรณ์และนายไพบูลย์ โดยพ.ต.อ.ภาดลเปิดเผยว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ดำเนินคดีผู้ต้องหาทั้งคู่ในข้อหา ร่วมกันลักทรัพย์ในสถานที่บูชาสาธารณะในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะและมีอาวุธปืนจากการเช็กประวัติยังพบว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 คนรู้จักกันมานานแล้วเคยถูกตำรวจ สน.ตลิ่งชัน จับกุมตัวข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในวัดตลิ่งชัน เมื่อปี พ.ศ.2542 นอกจากนี้ยังมีประวัติเสพยาและพยายามบุกรุกในเคหสถานเพื่อลักทรัพย์ในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ เมื่อปี พ.ศ.2554

 ด้านนายสมบูรณ์ให้การว่า รู้จักเป็นเพื่อนสนิทกับนายไพบูลย์มาเป็นเวลานานแล้ว โดยนายไพบูลย์เป็นมัคนายกวัดดาวคะนอง ย่านบุคคโล ส่วนตนมีอาชีพรับจ้างขับรถและเปิดโรงงานเย็บผ้าเล็กๆ ที่จ.สมุทรปราการ เมื่อไม่มีเงินใช้จึงชักชวนกันไปลักทรัพย์ตามวัดต่างๆ โดยจะนำไปขายที่ท่าพระจันทร์และตลาดคลองถม ที่วัดหนังราชวรวิหาร ร่วมกันก่อเหตุมาแล้วรวม 3 ครั้ง โดยก่อนลงมือเมื่อขับรถเข้าไปในบริเวณวัด จะจุดธูปขอขมาบอกเจ้าที่เจ้าทางคนละ 9 ดอก แล้วลงมือใช้ไขควงงัดประตูพิพิธภัณฑ์บุกเข้าไปขนของออกมา แต่ครั้งนี้พลาดถูกจับได้เสียก่อน

 พระวิเชียรโมลี เปิดเผยว่า ที่ผ่านมามีคนร้ายเข้ามาลักตู้เก็บพระไตรปิฎกสมัย รัชกาลที่ 3 และ รัชกาลที่ 5 หายไปเกือบสิบตู้แล้วแต่ไม่เคยจับได้ ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่สามารถจับกุมตัวได้ในจุดเกิดเหตุ สำหรับพัดยศงาช้างด้ามดังกล่าวเป็นของเจ้าอาวาสรูปเดิมที่รับพระราชทานมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 เป็นของเก่าที่ไม่สามารถประเมินมูลค่าได้ ส่วนมาตรการการรักษาความปลอดภัยหลังจากนี้กำลังหารือกับกรรมการวัด ว่าจะมีการติดตั้งสัญญาณกันขโมยและกล้องวงจรปิด หากจำเป็นคงต้องจัดเวรยามให้พระภิกษุภายในวัดช่วยกันดูแลทรัพย์สินในพิพิธภัณฑ์ตลอด 24 ชั่วโมงด้วย 

กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...