โค้ชวอลเลย์บอลลวงลูกศิษย์สาววัย 14 ปี อ้างฝีมือยังไม่เก่งเหมือนเพื่อน จะพาไปนวดคลายเส้น ก่อนลงมือข่มขืนยับคาโรงแรม

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 28 กันยายน 2555 พล.ต.ต.สมิทธิ มุกดาสนิท ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี, พ.ต.อ.นราเดช ทิพย์รักษ์ ผกก.สภ.คูคต , นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี พร้อมด้วย นายเบิด(นามสมมติ) บิดา อายุ 40 ปี ของ ด.ญ.มิ้ง (นามสมมติ) อายุ 14 ปี ได้เดินทางไปยัง สภ.คูคต เพื่อชี้ตัวผู้ต้องหา คือ นายสมคิด ขจรศักดิ์เลิศ ตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี ข้อหากระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจมีหลักฐานจากกล้องวงจรปิดของโรงแรมมามัดตัวอย่างชัดเจน

นายเบิด เล่าว่าบุตรสาวเป็นนักกีฬาวอล์เล่ย์บอลของโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.ปทุมธานี โดยมีนายสมคิด ขจรศักดิ์เลิศ อายุ 45 ปี เป็นโค้ชผู้ฝึกสอน ต่อมาเมื่อวันพุธที่ 19 ก.ย. 2555 นายสมคิดได้โทรศัพท์มาหาบุตรสาว โดยอ้างว่าเพื่อนๆและพี่ๆในกลุ่มวอล์เล่ย์บอลเก่งกันหมดแล้วเหลือแค่บุตรสาวที่ยังไม่เก่ง จึงอยากให้ออกไปพบที่บริเวณหน้าห้างโลตัส สาขาคลองสี่ ธัญบุรี จ. ปทุมธานี เพื่อจะพาไปนวดคลายเส้น บุตรสาวหลงเชื่อจึงได้ออกไปพบตามที่นัดหมาย

จากนั้นนายสมคิดได้ขับรถมารับ และได้ขับรถพาไปที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.คูคต อ.ลำลูกกา เมื่อไปถึงนายสมคิดได้ล่อลวงให้บุตรสาวเข้าไปในห้องของโรงแรม โดยอ้างว่าจะพาไปนวด ซึ่งบุตรสาวก็ไม่ได้คิดอะไรเนื่องจากให้ความเคารพนับถือเสมือนเป็นครูผู้สอนคนหนึ่ง เมื่อเข้าไปในห้องนายสมคิดได้นวดจับเส้นให้บุตรสาว ประมาณ 5 นาที นายสมคิดก็ได้เปิด วีดีโอหนังโป๊ ในห้องดู และลงมือข่มขืนบุตรสาว ซึ่งบุตรสาวพยายามต่อสู้ขัดขืน แต่ไม่สามารถสู้แรงได้ จึงถูกนายสมคิดข่มขืนจนสำเร็จความใคร่

ต่อมานายสมคิด ได้พาบุตรสาวมาส่งไว้ที่บริเวณหน้าซอยของหมู่บ้าน พร้อมข่มขู่ไม่ให้นำเรื่องดังกล่าวไปบอกใคร หากบอกจะถูกทำโทษและไม่ให้เป็นนักกีฬาอีก จากนั้นบุตรสาวได้นำเรื่องที่เกิดขึ้นดังกล่าวไปปรึกษาเพื่อนร่วมชั้นเรียน ต่อมาเพื่อนได้แจ้งให้ น.ส.จอย(นามสมมติ)ซึ่งเป็นน้าของบุตรสาวตนทราบ น.ส.จอย จึงนำเรื่องดังกล่าวมาบอกตน และพากันเข้าแจ้งความดำเนินคดีที่สภ.คูคต เมื่อวันที่ 21 ก.ย.2555 แต่เกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนีและเกรงว่าคดีจะล่าช้า จึงเข้าร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณาดังกล่าว

จากการสอบสวนนายสมคิด ให้การรับสารภาพว่าเป็นโค้ชอาสาอยู่ที่โรงเรียนดังกล่าว มาประมาณ 6-7 ปีแล้ว ขอรับผิดกับสิ่งที่ทำลงไป และยอมรับว่าล่อลวงเด็กสาวไปจริง พร้อมทั้งก้มไหว้ขอขมาผู้เป็นบิดา แสดงความรับผิดกับการกระทำ แต่ถูกด่าทอจากบิดาของเด็กสาวด้วยอารมณ์โมโห เจ้าหน้าที่ สภ.คูคต ต้องคอยป้องกัน เกรงว่าจะเกิดการปะทะกัน จากนั้นได้ควบคุมตัวนายสมคิด ไว้ห้องขังสภ.คูคต ก่อนนำตัวส่งศาลเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป