ศิลปะแห่งความเสียว
สวัสดีค่ะหนุ่มๆ ทั้งหลาย ฉบับนี้หมวยจะมาพูดถึงศิลปะค่ะ ซึ่งศิลปะที่หมวยจะพูดถึงนี้คุณไม่จำเป็นต้องมีความรู้เรื่องทฤษฎีสีเลยสักนิดแค่คุณคิดว่าอยากจะเสียวเป็นใช้ได้!!!
ศิลปะการจูบ : ผู้ชายส่วนใหญ่มองว่าการจูบเป็นเรื่องไม่สำคัญ และชอบที่จะพุ่งลงไปตรงนั้นอย่างเดียว แต่คุณรู้ไหมคะว่า การจูบเป็นไฟกระตุ้นแรงพิศวาสในตัวคุณทั้งคู่ให้คุขึ้นได้อย่างดี... แค่คุณเผยอริมฝีปากเล็กน้อย เมื่อปากพบกัน ก็กดริมฝีปากเข้ากับอีกฝ่ายอย่างนุ่มนวล ค่อยๆ เอียงศีรษะไปด้านข้าง จมูกจะได้ไม่ชนกัน ขั้นตอนต่อไปก็ขึ้นอยู่กับคุณแล้วล่ะว่าจะจูบสั้นๆ ค่อยๆ ผละจากกันแล้วจบ หรือว่าจะจูบแบบเร่าร้อนแบบฝรั่งเศส ที่มีลิ้นเป็นเครื่องมือหลัก แล้วเลยเถิดเกิดเป็นกิจกามขึ้น
ศิลปะการกัด : กัดในที่นี้หมายถึงการขบกัดเบาๆ เท่านั้นนะคะ ถ้านึกไม่ออกว่าควรทำอย่างไร ก็ให้นึกถึงความรู้สึกตอนที่คุณหมั่นเขี้ยว อยากฟัดเธอซะเหลือเกินนั่นแหละค่ะ ไล่ไปเลยตั้งแต่ใบหู ซอกคอ แผ่นหลัง ต้นขา หรือคุณจะแวะจะวกไปตรงจุดไหนเป็นพิเศษก็ทำได้ไม่ใช่เรื่องผิด เผลอๆ เธออาจจะชอบเสียด้วยซ้ำ
ศิลปะการปลุกเร้า : ถ้าคุณต้องการปลุกอารมณ์ผู้หญิง แล้วหวังจะจัดการตรงหน้าอกและจุดสำคัญของเธอแค่นั้น รู้ไว้ด้วยนะคะว่าการกระทำนั้นไม่ได้ทำให้เธอละลายหรอกค่ะ จุดอ่อนไหวรับสัมผัสได้ไวของผู้หญิงไม่ได้มีแค่ 2 จุดนั้น คุณลองสนใจจุดอื่นๆ ดูบ้าง อย่าง จูบลูบไล้ทั่วเรือนร่าง หรือเจาะจงลงไปตรงข้อพับขา เอว หรือเอาคางสากๆ ของคุณถูบริเวรหลัง ก็สร้างความสยิวและนำเธอไปสู่ความสุขได้ไม่น้อย
ศิลปะการทิ้งน้ำหนัก : คุณอาจจะมองว่ามันเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่สำหรับผู้หญิงแล้วถ้าแฟนหนุ่มของเธอทุ่มน้ำหนักทั้งตัวลงมาบนตัวเธอ เธอก็อาจมีอาการหายใจไม่ออกได้ ทางที่ดีชันแขนหรือขา เพื่อยกน้ำหนักตัวเองไว้บ้างก็ดีนะคะ เว้นเสียแต่ว่าคุณจะพาเธอขึ้นสวรรค์ด้วย Cat Position ที่คุณต้องทาบทับลงบนตัวเธอโดยให้สะโพกของคุณอยู่ระดับเหนือเชิงกรานของเธอ ลำตัวช่วงกลางทับกันแนบสนิท แล้วเคลื่อนไว้โดยอาศัยกล้ามเนื้อของช่วงท้อง และสะโพกช่วยโดยไม่ขยับกายส่วนอื่น แบบนี้พวกเรายกเว้นให้ค่ะ เพราะท่านี้เป็นอีกท่าหนึ่งจะพาเราไปถึงสวรรค์ได้
ศิลปะการทำเวลา : ถ้าคุณเป็นหนุ่มประเภทเสร็จเร็วก็ควรใช้เวลาในการเล้าโลมเธอให้นานเข้าไว้ จนเธออ้อนวอนคุณนั่นแหละ ถึงค่อยเผด็จศึก แต่ถ้าคุณอยู่ในประเภทเต่าเรียกพี่ คุณก็แค่ส่งเธอขึ้นสวรรค์ไปก่อน แล้วค่อยให้เธอช่วยคุณในตอนหลังอีกที ซึ่งไม่ต้องกังวลนะคะว่าคู่ของคุณจะไม่ยินยอมพร้อมใจจะช่วย เพราะ ธรรมชาติของผู้หญิง เพื่อคนที่เธอรัก เธอยอมทำทุกอย่างค่ะ
ศิลปะการส่งเสียง : ผู้ชายควรส่งเสียงครางออกมาบ้าง โดยเฉพาะเสียงครางที่สื่อถึงความสุขและแสดงถึงความรักต่อผู้หญิง ที่สำคัญส่งเสียงให้เธอรู้ว่า คุณใกล้จะถึงเส้นชัยแล้ว เพราะนั่นจะทำให้เธอรู้สึกพิเศษมากขึ้น แต่ก็ไม่ใช่ส่งเสียงแบบเสแสร้งแกล้งว่าเสียวแสนสุขจนเกินพอดี เพราะนอกจากเธอจะคลางแคลงใจว่าคุณแกล้งแล้ว เพื่อนบ้านอาจจะรู้ด้วยว่า คุณกำลังทำอะไรกันอยู่
ศิลปะการสร้างจังหวะ : คุณไม่ต้องเก่งเรื่องเต้น แม่นในจังหวะวอลซ์ แท็บ หรือแทงโก้ก็ได้ แต่เวลาที่คุณขยับท่อนล่างนั้นขอให้มีจังหวะช้าบ้างเร็วบ้าง ผสมกันไป หรือจะขยับซ้ายขวาก็ไม่ว่ากัน อย่าโชว์ความเร็วเพียงอย่างเดียว เพราะเธออาจจะเจ็บได้ หรือช้าจนเธอต้องขยับเองก็เสียงเชิงชาย ที่สำคัญอย่าลืมสังเกตด้วยว่าคู่ของคุณนั้นชอบการเคลื่อนไหวแบบไหน จะได้ทำให้ถูกใจเธอไงค่ะ