กรณีเหตุการณ์วุ่นวายในการแข่งขันฟุตบอล "เอไอเอส ลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2" โซนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ระหว่าง เลย ซิตี้ กับ ศรีสะเกษ ยูไนเต็ด เมื่อวันที่ 15 กันยายน นั้น
สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้กำหนดบทลงโทษออกมาเป็นที่เรียบร้อยทีมเลย ซิตี้ออกมาดังนี้ 1.กองเชียร์พยายามทำร้ายร่างกายผู้ตัดสิน ปรับเงิน 5,000 บาท 2. กองเชียร์ขว้างปาสิ่งของลงในสนาม ปรับ 5,000 บาท 3. กองเชียร์เข้าไปในสนาม ปรับ 20,000 บาท 4. กองเชียร์ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ ส.ห. ปรับ 20,000 บาท และห้ามกองเชียร์เข้าชมการแข่งขัน 1 นัด และข้อ 5 กรณีผู้เล่นหมายเลข 27 ของเลยซิตี้ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ด่า ถากถาง เยาะเย้ย ลบหลู่ผู้ตัดสิน ปรับ 5,000 บาท และห้ามลงแข่งขัน 2 นัด
รวมเงินค่าปรับจำนวน 55,000 บาท พร้อมคาดโทษ หากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีกจะพิจารณาโทษตามระเบียบข้อบังคับที่สูงขึ้นต่อไป และให้สโมสรฟุตบอลเลยซิตี้ชำระเงินภายในวันที่ 21 กันยายน 2555
“เดอะตุ๊กอีสาน” นายทัศนัย มงคลวัจน์ ผู้จัดการทีมสโมสรฟุตบอลเลยซิตี้เปิดเผยถึงบทลงโทษดังกล่าวว่า ในข้อ 2 นั้นยอมรับได้ เพราะมีการขว้างปาสิ่งของจริง แต่ข้ออื่นๆ นั้นทางสโมสรฯต้องขอความเห็นใจจากสมาคมฟุตบอล เพราะหากพิจารณาจริงๆแล้ว กองเชียร์ที่วิ่งลงไปในสนามได้เกิดขึ้นหลังเกมการแข่งขันจบลง ซึ่งปกติแล้วการแข่งขันในบ้านทุกนัด จะมีกองเชียร์เข้าไปในสนาม เพื่อขอถ่ายรูปกับนักฟุตบอล และแสดงความชื่นชมยินดี ไม่ได้มีเจตนาทำร้ายผู้ตัดสินตามที่กล่าวหา สำหรับในนัดนี้กองเชียร์เพียงแต่จะเข้าไปทวงถามว่าทำไมต้องตัดสินเช่นนั้น กองเชียร์มีจำนวนมากหากเจตนาจะทำร้ายจริงๆ ก็คงทำได้ ซึ่งผู้ตัดสินก็ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด
นายทัศนัยกล่าวอีกว่า ส่วนข้อกล่าวหาที่บอกว่ามีการทำร้ายเจ้าหน้าที่ ส.ห. นั้น เป็นเพียงการปะทะคารมกันเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ ส.ห.รายนี้ไม่ได้มาร้องทุกข์กล่าวโทษกับทางสโมสรหรือเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่อย่างใด ไม่มีใครติดใจเอาความกัน เรื่องนี้จบลงไปแล้ว การลงโทษห้ามกองเชียร์เข้าในสนามถือว่าหนักเกินกว่าเหตุ ส่วนกรณีที่ผู้เล่นหมายเลข 27 เข้าไปต่อว่าผู้ตัดสินหลังเกมการแข่งขันนั้น ได้สอบถามกับนักฟุตบอลรายนี้แล้ว ไม่เป็นความจริง ผู้เล่นหมายเลข 27 เป็นกัปตันทีม กฎระเบียบให้สิทธิของกัปตันทีมเข้าไปทวงถามได้ ซึ่งข้อโต้แย้งทั้งหมดจะยื่นหนังสืออุทธรณ์ขอให้สมาคมฟุตบอลฯพิจารณาลดโทษต่อไป