ท่ามกลางกระแสโลกก้าวหน้าไปตามเทคโนโลยี ที่มีความก้าวหน้าในการดำเนินชีวิต แต่
สำหรับชนเผ่าซูลู ทวีฟแอฟริกา ยังคงอนุรักษ์ และทำการรื้อฟื้นประเพณี HLOLA หรือ
ประเพณีตรวจสอบพรหมจรรย์หญิงสาว (THE TEST OF VIRGINITY) โดยเด็กสาว
วัย 13 ถึง 18 ปี จะต้องเข้ารับการตรวจสอบว่ายังคงมีพรหมจรรย์อยู่หรือไม่ ซึ่งได้รับความ
นิยมในหมู่ชนแอฟริกาใต้ และประเทศเพื่อนบ้าน
ทั้งนี้ วิธีการตรวจสอบนั้น จะใช้หญิงที่ชำนาญในเรื่องการตรวจสอบ มีประสบการณ์ตาม
แบบซูลูโบราณ จับถ่างขาอ้ากว้างใช้สายตามอง และจะทราบได้ทันทีว่าหญิงสาว
รายใดผ่านการมีเพศสัมพันธ์จนเสียพรหมจรรย์ หากใครที่ยังคงความสาวบริสุทธิ์
จะได้รับการเจิมที่หน้าผาก และได้ใบรับรองว่า เป็นสาวบริสุทธิ์ เป็นหลักประกันว่า
หนุ่มที่จะมาแต่งงานด้วยได้เจ้าสาวที่ยังไม่ผ่านชายใดมาก่อน แต่จะต้องมีการตรวจสอบ
ซ้ำทุกๆ 6 เดือน หรือ 1 ปี
ก่อนหน้านี้ หญิงชาวเผ่าซูลูจะมีวิธีตรวจสอบพรหมจรรย์ แต่เป็นเรื่องลับที่ทำกันในบ้าน
เช่นผู้เป็นแม่ จะขอตรวจดูพรหมจรรย์ของลูกสาว โดยหญิงสาวที่เข้าร่วมจะต้องเปลือยอก
และสวมกระโปรงสั้นร้อยลูกปัด หรือไม่ก็กระโปรงสั้นเป็นริ้วๆ เพื่อสะดวกต่อการตรวจสอบ
ทั้งนี้ แม้ว่าจะเป็นประเพณีโบราณที่หลายคนจะมองว่าเป็นเรื่องล้าหลัง แต่ว่าการตรวจสอบ
จะช่วยลดปัญหาการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร การตั้งครรภ์ หากบางรายที่พบว่าผ่านการมีเพศ
สัมพันธ์ก็สามารถสืบต่อไปว่า เกิดจากการล่วงละเมิด การข่มขืน หรือกับชายใดในครอบครัวหรือ
ไม่เด็กหญิงวัย 14 ปี รายนี้บอกว่า การตรวจสอบพรหมจรรย์เป็นสิ่งสำคัญที่จะบอกได้ว่าเธอยังคง
เป็นสาวบริสุทธิ์ ขณะที่เพื่อนของเธอคิดว่ามันไม่ได้สำคัญอะไร และไม่อยากให้มีประเพณีดัง
กล่าว หนึ่งในกรรมการตรวจสอบพรหมจรรย์บอกว่า เป็นประเพณีที่จะช่วยให้หญิงสาวเหล่านี้มี
ความประพฤติที่ดี ไม่ได้ห้ามให้เด็กหญิงไปเล่นกับเด็กผู้ชาย หลายครอบครัวห้ามไม่ให้ไปสุงสิง
กับผู้ชาย เพราะกลัวว่าจะท้อง แต่นั่นเป็นความคิดที่ผิด เพียงแต่ว่าเราต้องตักเตือน ให้ความรู้
เรื่องเพศ ให้รู้จักรักนวลสงวนตัวมากขึ้นเมื่อโตเป็นสาว
ขณะที่เด็กสาววัย 12 ปี รายนี้มีพิรุธตั้งแต่เข้าพิธี และสุดท้ายจนทราบว่าเธอเสียความบริสุทธิ์แล้ว ซึ่งจะเป็น
ผลดีที่ได้ทราบว่าชายที่กระทำกับเธอเป็นใคร ใช่คนในครอบครัวหรือไม่ และชายดังกล่าวมีเชื้อเอดส์หรือ
ไม่ จะได้แก้ปัญหาได้แต่เนิ่นๆ เพราะบางทีเธออาจจะถูกข่มขู่ไม่ให้บอกความจริงก็เป็นได้