รายการข่าวสามมิติ ทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ได้สัมภาษณ์เปิดใจพิเศษ

กับ นายสุเทพ เลาหะวัฒนะ พี่ชายของ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ เลาหะวัฒนะ อดีตนาย

แพทย์ (สบ5) กลุ่มงานเวชศาสตร์ครอบครัว โรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวกับคดีพบโครง

กระดูกมนุษย์ที่พบภายในไร่ของหมอสุพัฒน์

สำหรับกรณีดังกล่าว กำลังเปลี่ยนไปในทิศทางปัญหาภายในครอบครัว เลาหะวัฒนะ หลัง

ฝ่าย พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ อ้างว่า นายสุเทพ ซึ่งเป็นพี่ชายได้จัดฉากกรณีทั้งหมดให้ตนเองเป็นผู้ร้าย เพราะปัญหาในครอบครัว

นายสุเทพ เปิดเผยอย่างสุขุมว่า กรณีจัดฉากไม่เป็นความจริง ย้อนกลับไปเมื่อปี 2551

หมอสุพัฒน์ได้ให้ยานอนหลับเกินขนาดกับแม่ โดยอ้างว่าเป็นยารักษาโรค ทำให้แม่ที่ป่วย

เป็นโรคหัวใจ มีอาการหัวใจเต้นผิดปกติ จนแม่มาขอให้ตนพาหลบหนีจากหมอสุพัฒน์

จนกระทั่งหมอสุพัฒน์ไปร้องศาลว่า แม่เป็นโรคอัลไซเมอร์หรือความจำเสื่อม ขอเป็นผู้

อนุบาลเพียงแต่ผู้เดียว แต่ตนได้แย้งไปว่า แม่ไม่ได้เป็นอัลไซเมอร์แต่อย่างใด และยังไป

ร้องศาลว่า ตนไปกู้ยืมเงินมาจำนวนหนึ่ง ซึ่งไม่เคยกู้ยืมมาก่อน จนฟ้องกลับไปมาว่าเบิก

ความเท็จ

เมื่อถามเกี่ยวกับกรณีขุดพบโครงกระดูกมนุษย์อยู่ภายในไร่สัปปะรดของหมอสุพัฒน์

จ.เพชรบุรี นายสุเทพ ก็ชี้แจงว่า ไม่เคยรู้เรื่องขุดพบศพมาก่อน ทราบจากคนสนิทของ

หมอสุพัฒน์ วันที่ขุดพบเจอโครงกระดูกวันแรก ก็ได้พาญาติผู้สูญหายทั้งสองไปดู แต่ไม่รู้

มาก่อนว่าจะเกิดอะไรขึ้น เพราะไม่ใช่ไร่ของตนเอง ส่วนบ้าน จ.นนทบุรี ที่พบรถปิกอัพ

จอดทิ้งไว้ ปกติแม่เคยอาศัยอยู่ แต่ตนได้พาออกมาอยู่ที่อื่นหลายปีแล้ว ปัจจุบันหมอ

สุพัฒน์เป็นผู้ดูแลทั้งหมด

ส่วนประเด็นขัดแย้งเรื่องมรดก นายสุเทพ บอกว่า ไม่เป็นความจริง เพราะบ้านไม่ได้มี

มรดกมากมาย มีที่ดิน 3 แปลงในกรุงเทพและนนทบุรี ส่วนเงินสดของแม่ในธนาคาร หมอ

สุพัฒน์ก็ถอนออกไปหมดแล้ว เมื่อ 10 ปีก่อน และเมื่อเร็วๆ นี้ หมอสุพัฒน์ ก็ยึดค่าเช่าที่ดิน

ที่ซอยเย็นอากาศ จำนวนหลายสิบล้านบาทไปเป็นของตัวเอง ทั้งที่เป็นรายได้ของ

ครอบครัว

นอกจากนี้ พี่ชายของหมอสุพัฒน์ ยังบอกอีกว่า ตนกับหมอสุพัฒน์อายุห่างกัน 6 ปี ตอน

เด็กๆ เลี้่ยงดูเติบโตมาด้วยกัน เป็นคนดีเรียนเก่ง แต่เหมือนจะมีสองบุคลิก คือ เมื่ออยู่กับ

ครอบครัวกับสื่อมวลชนจะดูสุภาพเรียบร้อย แต่เมื่ออยู่กับคนที่ด้อยกว่าจะเป็นอีกลักษณะ

หนึ่ง อีกทั้งยังขอให้น้องชายหาทางช่วยเหลือตัวเองและยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะทำกับ

คนอื่นไว้อีกเยอะ ไม่ใช่เพียงแค่สองสามีภรรยานี้เท่านั้น ตนในฐานะพี่ชายก็พร้อมจะช่วย

เหลือน้องอย่างเต็มที่เช่นกัน