สถาบันธัญญารักษ์ เผย ผู้หญิง เสพยาไอซ์มากขึ้นถึง 1.7 หมื่นราย จากเดิมเพียง

243 ราย คาดหวังขาว-สวย ด้านแพทย์ แจง ยาไอซ์ไม่ได้ช่วยให้สวยขึ้น แต่ตรง

กันข้าม ทำลายประสาท และสมอง เกิดภาพหลอน และหูแว่ว

             วันนี้ (24 กันยายน) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แพทย์หญิงวิลาวัณย์ จึงประเสริฐ อธิบดี

กรมการแพทย์  กล่าวในงานประชุมวิชาการยาเสพติดแห่งชาติ ครั้งที่ 13 "ร่วมแรง

ร่วมใจ ฝ่าวิกฤติยาบ้า-ยาไอซ์ ด้วยพลังแผ่นดิน" ว่า ปัญหายาเสพติดใน

ขณะนี้ ส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน และต้องได้รับการแก้ไขอย่าง

จริงจัง ซึ่งทางรัฐบาลได้กำหนดปัญหายาเสพติดให้เป็นวาระแห่งชาติ และต้องเร่งบำบัด

โดยด่วน ทั้งนี้ จากข้อมูลของสถาบันธัญญารักษ์ ระบุว่า ตั้งแต่ 1 ตุลาคม

2554 ถึง 30 มิถุนายน 2555 มีผู้เข้ารับการบำบัดรักษาทั่วประเทศ

จำนวน 192,283 คน จากการคาดประมาณผู้เสพ-ผู้ติดยาเสพติดทั่ว

ประเทศมีมากกว่า 1 ล้านคน

             แพทย์หญิงวิลาวัณย์ กล่าวต่อว่า และจากข้อมูลดังกล่าว สิ่งที่น่าห่วงอย่างยิ่งอีก

สิ่งหนึ่งคือ สัดส่วนการเสพยาไอซ์ของผู้หญิงเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ จากเดิม 2 - 3% เมื่อ

เทียบกับสัดส่วนการใช้ยาบ้า แต่ปัจจุบันเพิ่มขึ้นถึง 25% หรือ 1 ใน 4 หรือเมื่อเปรียบ

เทียบเป็นรายบุคคลพบว่า ยอดการบำบัดจาก 243 ราย ในปี 2551 พุ่งทะลุเป็น 17,100

ราย ในปี 2555

             ทั้งนี้ แพทย์หญิงวิลาวัณย์ เชื่อว่า ที่ผู้หญิงเสพยาไอซ์เพิ่มขึ้น

น่าจะมาจากหลงเชื่อคำชักจูงว่าการเสพยาไอซ์ หรือยาเสพติดประเภท

ออกฤทธิ์กระตุ้นประสาท จะช่วยให้ผู้หญิงมีผิวขาว หุ่นดี และสวย ซึ่งตน

อยากจะบอกว่ายาไอซ์นั้นไม่มีคุณสมบัติดังกล่าวเลย อีกทั้งยังเป็นยาเสพติดที่มีผลต่อการ

ทำงานของสมอง ทำให้เกิดอาการทางจิต หูแว่ว ภาพหลอน อารมณ์รุนแรง ทำร้ายคนอื่น

และทำร้ายตัวเอง บางรายถึงขั้นฆ่าตัวตายเลยทีเดียว

             ขณะที่ นายแพทย์จิโรจ สินธวานนท์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวเสริมว่า ยา

ไอซ์ไม่ได้มีโครงสร้างหรือองค์ประกอบใด ๆ ที่จะช่วยให้ผู้เสพมีผิวขาวใส หรือหุ่นดี แต่ยา

ไอซ์มีโครงสร้างทางเคมีคล้ายกับยาบ้า และออกฤทธิ์รุนแรงกว่าถึง 10 เท่า อีกทั้ง

ยังเสพติดได้ง่าย ส่วนลักษณะของยาไอซ์จะเป็นเกล็ดผลึกที่โปร่งใสคล้ายกระจก

หรือน้ำแข็งผสมสีฟ้า ชมพู เขียว มีชื่อเรียกในกลุ่มผู้เสพว่า คริสตัลเมธ ชาบู

แคร็งค์ ทวีค และทิน่า

             ส่วนการเสพยาไอซ์อย่างต่อเนื่องนั้น นายแพทย์จิโรจ กล่าวว่า จะทำให้สมอง

เกิดการเปลี่ยนแปลง หลอดเลือดหดตัว และตีบ ส่งผลให้เลือดไม่สามารถไปเลี้ยงร่างกาย

และสมอง นอกจากนี้ จะทำให้เซลล์บางส่วนตาย ผิวซีด สมองสั่งงานช้า มีอาการเบลอ

หลง ๆ ลืม ๆ และหากเป็นหญิงที่ตั้งครรภ์จะมีผลกระทบต่อสติปัญญาของทารกในครรภ์

เด็กเกิดมาไอคิวต่ำ หรือปัญญาอ่อนได้

             อย่างไรก็ตาม นายแพทย์จิโรจ ได้กล่าวเตือนว่า หากผู้หญิงต้องการสวย

สุขภาพดี หุ่นดีมีผิวที่ขาวใส ควรหมั่นดูแลสุขภาพ ด้วยการรับประทานอาหารให้ครบ 5

หมู่ ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม พักผ่อนอย่างพอเพียง ทำจิตใจให้เบิกบาน ปัจจัยเหล่านี้

สามารถทำให้ผู้หญิงสวยและสุขภาพผิวดีได้ และยาไอซ์ไม่ได้ช่วยให้ผู้หญิงสวย และขาว

ขึ้นอย่างแน่นอน