มากัน5คน-ปิกอัพ2คัน โชเฟอร์สวมชุด"ฮิญาบ" "ทวี"เยียวยาเหยื่อทันที! หาดใหญ่ผวา-ตั้งด่านเข้ม
ผกก.สภ.สายบุรีเผย คนร้ายน่าจะเป็นกลุ่มเดียวกับที่วางบึ้มโรงแรมซีเอส-เผาโชว์รูม เหตุมุ่งทำลายเศรษฐกิจและความเชื่อมั่น นราธิวาสเกิดเหตุระเบิดริมถนนภายในหมู่บ้านริแง ม.3 ต.ผดุงมาตร อส.บาดเจ็บ 1 นาย สงขลาตั้งด่านคุมเข้มรถเข้าออก 3 จว.ชายแดนใต้ บิ๊กอ๊อดชี้คนใน 3 จว.ใต้ ต้องการความยุติธรรม เสมอภาค รวมถึงการศึกษาและอาชีพ สมช.พอใจคนต้องการมอบตัวเพิ่ม ชี้เป็นสัญญาณที่ดี เลขาฯศอ.บต.เยี่ยมคนเจ็บจากคาร์บอมบ์ที่ปัตตานี
เมื่อวันที่ 22 ก.ย. พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกฯ นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รมว.ศธ. และพล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร รองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ร่วมจัดรายการ "รัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชา ชน" ออกอากาศทางช่อง 11 โดยพล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวถึงความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ ว่า ในการแก้ปัญหาภาคใต้รัฐบาลให้ สมช.ร่างแผนพัฒนาบริหารและพัฒนาจังหวัดชายแดนใต้ ปี 2555-2557 ซึ่งเป็นแผนที่ 10 ต่อจากรัฐบาลชุดที่แล้ว และมาสำเร็จในรัฐบาลชุดนี้ โดยแผนนี้นำเสนอสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาเรียบร้อยแล้ว
พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวด้วยว่า สิ่งที่ประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ต้องการคือความยุติธรรม ความเสมอภาค ในการพิจารณาบุคคลต่างๆ บุคคลที่ออกมาแสดงตัวทั้ง 93 คนเรียกร้องความปลอดภัย เป็นธรรม และการมีอาชีพ และการให้ความรู้แก่บุตรหลาน เขาหวังว่าในอนาคตจะรับราชการในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ได้ นอกจากนี้การศึกษายังเป็นเรื่องที่ประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ต้องการ และร้องเรียนเข้ามามาก โดยเฉพาะโรงเรียนสอนภาษาที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ดำเนินการไป 350 กว่าโรงเรียน ทราบว่าขณะนี้มีความต้องการมาก และขอเพิ่มอีกเท่าตัว เพราะประชาชนต้องการให้ลูกหลานมีการศึกษาที่ดี ซึ่งต้องขอเพิ่มที่ ศธ.ต่อไป
ด้านพล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร กล่าวว่า หลังจากมีผู้ที่มาแสดงตัวมากขึ้นนับเป็นสัญญาณที่ดี และจะดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลอย่างเคร่งครัด เพราะจะแก้ไขปัญหาด้วยสันติวิธี ซึ่งจะเปิดเวทีพูดคุยให้มากขึ้น อย่างน้อยฝ่ายที่ทำความผิดจะได้รับสัญญาณจากรัฐว่ามีพื้นที่ให้มาพูดคุยจะได้เข้าใจและร่วมแก้ปัญหาด้วยกัน ไม่ใช่มาใช้การคุกคามรุนแรง ขณะเดียวกันมาตรา 21 ของพ.ร.บ.กอ.รมน.เปิดโอกาสให้ผู้ที่กลับใจเข้ามามอบตัวได้ ทางรัฐจะนำไปเข้าค่ายอบรม จากการเปิดพื้นที่ครั้งแรกเป็นสัญญาณที่ดีและคาดว่าจะมีผู้ที่ออกมาแสดงตัวเพิ่มมากขึ้น โดยเบื้องต้นอาจจะเป็นผู้แทนออกมาเจรจาก่อน เพราะเขายังไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร แล้วค่อยๆ พัฒนาขึ้น แต่เป็นสัญญาณที่ดีแน่นอน
"ที่ผ่านมามีการบังคับใช้กฎหมายในภาคใต้และมีความเป็นไปได้ที่จะยกเลิกกฎอัยการศึก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งเห็นตรงกับพรรคประชาธิปัตย์ เพราะกฎหมายที่ใช้หลักคือพ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ร.บ.ความมั่นคง และกฎอัยการศึก รัฐบาลให้นโยบายชัดเจนว่าให้หน่วยงานความมั่นคงประเมินสถานการณ์ในพื้นที่ใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน" รองเลขาฯ สมช.กล่าว
ที่ จ.ปัตตานี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิ การศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) พร้อมด้วยนายประมุข ลมุล และนายวิเชียร จันทรโณทัย รองเลขาฯ ศอ.บต. เดินทางเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บและญาติผู้เสียชีวิตและตรวจดูจุดเกิดเหตุ จากกรณีคนร้ายลอบวางระเบิดคาร์บอมบ์ ย่านตลาดชุมชน เขตเทศบาลตำบลตะลูบัน ถนนสายบุรี อ.สายบุรี จ.ปัตตานี โดยพ.ต.อ.ทวีได้กล่าวให้กำลังใจกับผู้ได้รับบาดเจ็บและญาติผู้เสียชีวิต นอกจากนี้ยังได้สั่งการเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องดูแลด้านการให้ความช่วยเหลือเยียวยาแก่ผู้ได้รับผลกระทบฯ อย่างเร่งด่วน
พ.ต.อ.อาซิส อุมายี ผกก.สภ.สายบุรี จ.ปัตตานี เรียกประชุมชุดสืบสวนสอบสวน ชุดกองวิทยาการ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมาสรุปสถานการณ์ความคืบหน้า พร้อมทั้งวัตถุพยานในที่เกิดเหตุ โดยเฉพาะการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด พบว่ารถยนต์ทั้ง 2 คันที่ขับเข้ามาในที่เกิดเหตุ โดยผู้ที่ขับรถยนต์คาร์บอมบ์แต่งกายในชุดฮีญาบผู้หญิง ขับตามหลังรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ ซึ่งเป็นรถที่มือปืนนั่งมา
"เมื่อขับมาถึงจุดเกิดเหตุรถยนต์โตโยต้าได้จอดเลยร้านทองเล็กน้อย ส่วนรถยนต์คาร์บอมบ์จอดตรงข้ามร้านทอง โดยคนขับในชุดผู้หญิงอิสลามรีบลงจากรถแล้วเดินไปขึ้นรถอีกคัน จากนั้นมือปืน 2 คน และพวกอีก 3 คน ไล่ให้ชาวบ้านหนีออกจากจุดเกิดเหตุ จากนั้นมือปืน 2 คนใช้อาวุธปืนสงครามกราดยิงใส่ร้านทองแล้ววิ่งขึ้นรถยนต์หลบหนีไป โดยทิ้งรถยนต์คาร์บอมบ์ไว้ จากนั้น 15 นาที คนร้ายก็จุดชนวนระเบิด ขณะที่เจ้าหน้าที่และประชาชนอยู่บริเวณที่เกิดเหตุทำให้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ" พ.ต.อ.อาซิสกล่าว
ด้านชุดสืบสวนสอบสวนเปิดเผยว่า กลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุคาร์บอมบ์ครั้งนี้มีด้วยกัน 3 กลุ่ม คือกลุ่ม อ.ปะนาเระ อ.สายบุรี อ.บาเจาะ โดยมีแกนนำคือ นายมาดารี ตาเยะ นายอาสมาน เจ๊ะบา นายมะนัง ดือราเฮง ซึ่งเป็นชุดปฏิบัติการยิงถล่มทหาร ฉก.25 เสียชีวิต 4 ศพในพื้นที่ อ.มายอ เมื่อวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา สำหรับรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ ที่ขับหลบหนีก็เป็นรถที่ก่อเหตุยิงทหารเช่นเดียวกัน ส่วนรถยนต์ยี่ห้อเชฟโรเลต ที่คนร้ายซุกระเบิดนำมาก่อเหตุในครั้งนี้ หลังจากที่ได้ปล้นฆ่า 3 ศพ ที่ อ.เทพา จ.สงขลา ก็ได้นำรถมาซ่อนไว้ใน ต.ดอนรัก อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เพื่อประกอบระเบิด จากนั้นจึงนำมาก่อเหตุในครั้งนี้ อย่างไรก็ตามการก่อเหตุระเบิดคาร์บอมบ์ อ.สายบุรี เจ้าหน้าที่ได้มีการแจ้งเตือนแล้วว่าคนร้ายจะเข้ามาก่อเหตุระเบิดใน อ.สายบุรี ในช่วงวันที่ 15-30 ก.ย. โดยคนร้ายลอบเข้ามาทางด้าน อ.สะเดา จ.สงขลา และกระจายกำลังหลบซ่อนตัวใน อ.เมือง 20 คน และ อ.สายบุรี 10 คน เพื่อรอรับคำสั่งจากแกนนำ ทั้งนี้ เพื่อตอบโต้และแสดงศักยภาพว่ากลุ่มก่อความไม่สงบยังคงเดินทางสร้างสถานการณ์ต่อไป ถึงแม้ว่าจะมีการจับกุมหรือการมอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ของรัฐแล้วก็ตาม
นายธีระ มินทราศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี กล่าวหลังลงเยี่ยมพื้นที่เกิดเหตุระเบิดคาร์บอมบ์ที่ตลาดเทศบาลตะลุบัน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ว่า ได้สั่งการให้นายอำเภอทั้ง 12 อำเภอ ให้เพิ่มมาตรการดูแลความสงบเรียบร้อยในเขตชุมชนเมืองให้มากขึ้น ซึ่งจริงๆ เราได้มีการประชุมวันเว้นวันอยู่แล้ว ส่วนการที่คนร้ายสามารถก่อเหตุที่ อ.สายบุรี เป็นเหตุสุดวิสัย เป็นช่วงเวลาที่กำลังละหมาดวันศุกร์ สำหรับคนร้ายที่ก่อเหตุน่าจะเป็น กลุ่มเดียวกันที่ระเบิดหลังโรงแรมซีเอส.ปัตตานี และวางพลิงเผารถยนต์ โชว์รูมฮอนด้า
นายธีระกล่าวด้วยว่า จากรายงานบื้องต้น มีผู้บาดเจ็บ 44 คน เสียชีวิต 6 คน ร้านค้าบ้านเรือนถูกเพลิงไหม้เสียหายทั้งหลัง 8 หลัง สำหรับผู้บาดเจ็บส่วนใหญ่อาการปลอดภัยแล้วกลับพักฟื้นที่บ้านแล้ว 18 ราย ยังรักษาตัวที่โรงพยาบาล 26 ราย กระจายตามโรงพยาบาลต่างๆ คือ ร.พ.มอ.หาดใหญ่ 2 ราย ร.พ.ปัตตานี 14 ราย ร.พ.สมเด็จยุพราชสายบุรี 5 ราย ร.พ.นราธิวาสราชนครินทร์ 5 ราย
ส่วนความคืบหน้าในการติดตามคนร้าย ผวจ.ปัตตานีกล่าวว่า คนร้ายที่ก่อเหตุน่าจะเป็นกลุ่มเดียวกันที่ระเบิดหลังโรงแรมซีเอส.ปัตตานี และวางพลิงเผารถยนต์ โชว์รูมฮอนด้า โดยมีจุดมุ่งหมายให้เกิดความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจในชุมชนเมืองเพื่อทำลายความเชื่อมั่นของเจ้าหน้าที่รัฐที่ไม่สามารถดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนที่อาศัยอยู่ในเขตชุมชนเมืองได้
พ.ต.อ.ปัตตะ มะดาวา ผกก.สภ.จะแนะ จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุระเบิดขึ้นริมถนนภายในหมู่บ้านริแง ม.3 ต.ผดุงมาตร ทำให้อส.ได้รับบาดเจ็บ 1 นาย จึงพร้อมด้วยร.ต.ท. นัฐวิทย์ บำเพ็ญศรี รอง สว.กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส ร.ต.ต.แชน วรงคไพสิฐ หน. ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด นปพ. จ.นราธิวาสและกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารจำนวนหนึ่งรุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบหลุมในพงหญ้ารกทึบริมทาง ลึก 1 ฟุต กว้าง 3 ฟุตและมีเศษซากชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในท่อพีวีซี หนัก 3 ก.ก.จุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือตกกระจายเกลื่อนพื้นถนนและพงหญ้ารกทึบริมทางพร้อมด้วยกองเลือดจำนวนหนึ่งตกอยู่
ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บคือ นายยาซะเจ๊ะซอ อายุ 24 ปี อส.ประจำที่ว่าการ อ.จะแนะ โดยถูกสะเก็ดระเบิดที่บริเวณขาซ้าย เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุนอกจากนี้เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบพื้นถนนข้างหลุมระเบิด พบคนร้ายได้ใช้สีสเปรย์สีเหลือง พ่นเป็นข้อความภาษาไทยด่าว่าเจ้าหน้าที่
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุชาวบ้านได้ไปแจ้งนายยาซะ อส.ประจำที่ว่าการ อ.จะแนะ ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ละแวกจุดเกิดเหตุ พบวัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิดวางไว้ในกอหญ้าที่รกทึบริมทาง เมื่อรับแจ้งแล้วนายยาซะจึงได้แจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ทหารพรานกรมทหารพรานที่ 46 พร้อมทั้งได้ร่วมเดินทางไปตรวจสอบ
เมื่อถึงบริเวณวัตถุต้องสงสัยคนร้ายที่แฝงตัวอยู่ในละแวกจุดเกิดเหตุ ได้ใช้โทรศัพท์มือถือจุดชนวนระเบิดที่นำไปวางไว้ จนเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ทำให้นายยาซะถูกสะเก็ดระเบิดได้รับบาดเจ็บดังกล่าว ส่วนทหารปลอดภัย เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ร้ายรายวันของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ เพื่อลอบดักสังหารเจ้าหน้าที่รายวัน
ที่จังหวัดสงขลา กำลังทหารหน่วยเฉพาะกิจสงขลา ร่วมกับตำรวจภูธรควนมีดยังตรึงกำลังปฏิบัติหน้าที่ตรวจเข้มบริเวณจุดตรวจถาวรบ้านควนมีด อ.จะนะ จ.สงขลา ซึ่งเป็นด่านตรวจก่อนเข้าไปในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ และ อ.เมืองสงขลา ร่วมเฝ้าระวังป้องกันเหตุร้ายที่อาจเกิดขึ้น ภายหลังยังคงเกิดเหตุไม่สงบอย่างต่อเนื่องใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
พล.ต.ต.สุวิทย์ เชิญศิริ ผบ.บก.ภ.สงขลา สั่งการให้เจ้าหน้าที่ใน 4 อำเภอรอยต่อกับ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้และอำเภอหาดใหญ่ เพิ่มมาตรการตรวจเข้ม สกัดกั้นการลอบแฝงตัวเข้ามาก่อเหตุร้าย ซึ่งนอกจากจะมีการตั้งจุดตรวจแล้ว ก็ยังมีการสนธิกำลังตรวจค้นหอพักและห้องเช่าต่างๆ อย่างเข้มข้นอีกด้วย ส่วนภาคเอกชนได้ปิดประกาศข้อความแจ้งเตือน รวมถึงลักษณะของรถยนต์ต้องสงสัย ที่ถูกโจรกรรมและอยู่ในข่ายที่จะถูกนำมาซุกซ่อนวัตถุระเบิด ที่มีไม่น้อยกว่า 10 คัน ติดตามสถานที่สาธารณะ เช่น ห้างสรรพสินค้า ย่านการค้า และบริเวณจุดตรวจ นอกจากจะให้เจ้าหน้าที่เพิ่มความระมัดระวังและสกัดรถต้องสงสัยเหล่านี้แล้ว ก็ยังขอความร่วมมือพ่อค้าแม่ค้าและภาคประชาชนร่วมกันสอดส่อง หากพบรถต้องสงสัย สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ได้ทันที