เรือฟริเกต F125 ของกองทัพเรือเยอรมนี
หลังต้อง "อกหัก" จากโครงการจัดซื้อเรือดำน้ำมือสอง "ยู-206" จากประเทศเยอรมนี จำนวน 6 ลำ มูลค่า 7.7 พันล้านบาท ที่ "ราชนาวีไทย" มีความต้องการเพื่อความสมดุลทางอำนาจการรบทางทะเล ตามแผนยุทธศาสตร์กองทัพเรือต่อสู้ภัยคุกคามความมั่นคงทางทะเลที่มีการกำหนดเอาไว้เดิม ทำให้ไม่มียุทโธปกรณ์มาเสริมเขี้ยวเล็บในการรักษาน่านน้ำไทยด้วยเหตุผลที่ทำให้โครงการจัดซื้อ "เรือดำน้ำ" ต้องสะดุดลงต่างๆ นานา
จนมาถึงในยุคของ "บิ๊กหรุ่น" พล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) โครงการบิ๊กโปรเจ็กต์ของ ทร. ก็ได้รับไฟเขียว ได้เฮ..เสียงดัง เมื่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติการจัดซื้อยุทโธปกรณ์ แต่ทว่ากลับไม่ใช่ "เรือดำน้ำ" แต่เป็น "เรือฟริเกต" จำนวน 2 ลำ มูลค่า 3 หมื่นล้านบาท โดยโครงการนี้มีความจำเป็นอย่างเร่งด่วนในปีงบประมาณ 2555 เพื่อชดเชยและถ่วงดุลกำลังอำนาจทางท้องทะเล ด้วยการเพิ่มเติมขีดความสามารถต่อการปราบ "เรือดำน้ำ" รวมถึง เพื่อทดแทนการปลดระวางประจำการของ "เรือฟริเกต" ชุด "เรือหลวงพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก" โดยมี "บิ๊กเจี๊ยบ" พล.ร.ท.จักรชัย ภู่เจริญยศ (ตท.13) รอง เสธ.ทร. ในฐานะว่าที่ "เสธ.ทร." คนใหม่เป็นหัวหน้าโครงการ
ในเบื้องต้น งบประมาณในการดำเนินจัดซื้อ ทร.จะใช้งบของ ทร.เอง โดยแบ่งเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 จำนวน 1 ลำ วงเงิน 1.5 หมื่นล้านบาท ปีงบประมาณ 2555-2559 ส่วนระยะที่ 2 อีก 1 ลำ วงเงิน 1.5 หมื่นล้านบาท ปีงบประมาณ 2557-2561 นอกจากนี้ ทร.ดำเนินโครงการปรับปรุง "เรือฟริเกต" ชุด "เรือหลวงนเรศวร" แบ่งออกเป็น 3 ระยะ ระยะที่ 1 ได้ดำเนินการแล้วเป็นการผูกพันงบประมาณ 4 ปี ระหว่างปี 2554-2557 ระยะที่ 2 เป็นการผูกพันงบประมาณ 3 ปี ระหว่างปี 2555-2557 ระยะที่ 3 เป็นการผูกพันงบประมาณ 3 ปี ระหว่างปี 2556-2558 ทั้งนี้ ภายหลังจากเสร็จสิ้นการดำเนินโครงการทั้ง 3 ระยะ จะทำให้ "เรือฟริเกต" ชุด "เรือหลวงนเรศวร" มีขีดความสามารถในการรบได้ทั้ง 3 มิติ ได้แก่ การรบผิวน้ำ สงครามใต้น้ำ และการป้องกันภัยทางอากาศ...ถือเป็นการเพิ่มศักยภาพทางการรบที่ดีเลยทีเดียว
ว่ากันว่า การดำเนินโครงการระยะที่ 2 ครั้งนี้ ทร.ได้ดำเนินการจัดซื้อตามระเบียบของทางราชการ โดยแบ่งออกเป็น 2 รายการ ประกอบด้วย การจัดซื้อระบบการรบ เป็นเงิน 2,699,999,000 บาท การจัดซื้อลูกอาวุธปล่อย นำวิถีพื้น-สู่-อากาศ แบบ Evolved Sea Sparrow Missile : ESSM เป็นเงิน 597,826,775 บาท รวมวงเงินทั้งสิ้น 3,297,825,775 บาท
อย่างไรก็ตาม ทร.กำลังเร่งดำเนินการเลือกแบบการจัดซื้อ "เรือฟริเกต" ว่าจะมาจากประเทศใด ซึ่งเบื้องต้น "บิ๊ก ทร." กำลังเล็งซื้อเรือสัญชาติ "เยอรมนี" เพราะมีคุณภาพสูง แต่คงต้องจับตาว่าจะมีแรงบีบจาก "มือที่มองไม่เห็น" ให้เปลี่ยนไปซื้อเรือสัญชาติจีน อย่างที่มีข่าวลือหรือไม่...