เมื่อวันที่ 22 ก.ย. ผู้สื่อข่าว ข่าวสด รายงานว่า จากข่าวพร้อมภาพของเจ้าอาวาสหรือเจ้าสำนักปฏิบัติธรรมแห่งหนึ่งใน จ.เชียงราย ถูกถ่ายขณะสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเอง เผยแพร่ผ่านแคมฟร็อกทางอินเตอร์เน็ตนั้น ล่าสุดนายโสไกร ใจมั่น นักวิชาการสำนักพระพุทธศาสนา จ.เชียงราย ได้นำคณะเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบสำนักปฏิบัติธรรมที่ถูกระบุดังกล่าว โดยตั้งอยู่ภายในชุมชนในเขต อ.เมือง จ.เชียงราย เมื่อไปถึงพบว่าสำนักปฏิบัติธรรมดังกล่าวแม้จะอยู่ในเมืองแต่ก็ลัดเลาะเข้าไปในซอยลึกพอสมควรและอยู่ติดกลางทุ่งนารอบข้างเป็นที่อยู่อาศัยของประชาชนแต่ภายในก็สงบร่มรื่น อาณาบริเวณกว้างขวาง มีพระอุโบสถตรงกลางและฝั่งขวามือมีกุฏิคอนกรีตชั้นเดียวอยู่ 4-5 หลังส่วนตรงกลางเป็นกุฏิเจ้าอาสาสสองชั้นปิดประตูหน้าต่างมิดชิด รวมทั้งมีต้นไม้และสุภาษิตคำสอนต่างๆ อยู่เต็ม

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายโสไกร ได้เข้าไปสอบถามข้อมูลพบทางพระลูกวัด 2-3 รูป แจ้งว่าเจ้าอาวาสไม่อยู่ เพราะได้เดินทางไปเรียนหนังสือต่อปริญญาโทที่ จ.เชียงใหม่ หลายวันแล้ว ซึ่งนายโสไกรได้แจ้งวัตถุประสงค์ของการเข้าไปสอบถามว่าเกิดจากการมีผู้แจ้งข้อมูลไปยังสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติจนปรากฎออกมาทางสื่อมวลชน ทำให้ต้องเข้าไปตรวจสอบเบื้องต้น โดยขอให้พระลูกวัดได้โทรศัพท์แจ้งให้ทราบด้วยเพื่อให้ทราบเรื่องราวโดยพร้อมเพรียงกัน ซึ่งหลังจากทางพระลูกวัดประสานไปได้ไม่นานได้แจ้งกลับมายังนายโสไกรว่าไม่เคยทราบเรื่องราวดังกล่าวและไม่ได้ติดตามข่าวรวมทั้งยืนยันว่าไม่ได้กระทำผิดดังกล่าวแน่นอน

 นายโสไกร กล่าวว่าจากการตรวจสอบพบว่าสำนักปฏิบัตินี้ได้จดทะเบียนกับสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติเรียบร้อยแล้ว จึงสามารถตรวจสอบข้อมูลและดำเนินการได้ตามขั้นตอนของสงฆ์คือจะมีการแจ้งเรื่องนี้ไปยังเจ้าคณะตำบลซึ่งดูแลคณะสงฆ์ในพื้นที่ จากนั้นจะมีการสืบสวนสอบสวนเพื่อหาความจริง โดยหากมีพฤติกรรมไปสำเร็จความไคร่อย่างนั้นจริง ทางสงฆ์ถือว่าคือการอาบัติสังฆาทิเสสซึ่งถือเป็นการอาบัติระดับกลาง อย่างไรก็ตามกรณีที่มีการนำออกมาเผยแพร่ทางแคมฟร็อกด้วย ก็ต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะสงฆ์ที่จะดำเนินการกันต่อไป ทั้งนี้ได้มีการแจ้งไปยังเจ้าคณะตำบลและทางเจ้าอาวาสที่ถูกกล่าวหาไว้เรียบร้อยแล้ว เชื่อว่าจะดำเนินการตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย.นี้เป็นต้นไป

 ด้านพ่อหนานคำ มัคนายกของสำนักปฏิบัติธรรมดังกล่าว กล่าวว่าสำนักปฏิบัติธรรมแห่งนี้ชาวบ้านเรียกร้องให้มีขึ้นเพื่ออยู่คู่ชุมชนต่อมาจึงมีผู้มีจิตศรัทธาร่วมกันก่อตั้งเมื่อปี 2547 มานี้เอง ส่วนเจ้าอาวาสคนปัจจุบันเป็นเจ้าอาวาสรูปที่สองซึ่งที่ผ่านมาก็มีวัตรปฏิบัติตามปกติไม่ได้เห็นสิ่งใดผิดปกติ กระนั้นภายในสำนักก็มีเรื่องขัดแย้งกันระหว่างทางสงฆ์กับคณะกรรมการสำนักปฏิบัติธรรมจนทำให้ประธานคณะกรรมการคนเก่าลาออกไปแล้ว และก่อนหน้านั้นเคยถ่ายภาพกล่าวร้ายกันมาแล้วครั้งหนึ่งแต่ไม่ชัดเจน กระทั่งมามีเรื่องอื้อฉาวครั้งนี้ดังกล่าว ตนจึงสงสัยว่าจะมาจากปมปัญหาเดิมนี้หรือไม่ เพราะภาพที่เห็นจากสื่อเป็นผู้ที่สักยันต์ตรงหน้าอกแต่ทางท่านเจ้าอาวาสคนปัจจุบันไม่เห็นสักแต่อย่างใด กระนั้นก็จะยอมรับผลการตรวจสอบของคณะสงฆ์หากพบว่าเป็นจริงชาวบ้านก็คงไม่อยากให้อยู่เช่นกันแต่ก็ควรให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายด้วยเช่นกัน