โลกก้าวหน้าไปทุกวัน การติดตามข่าวสารของดาราคนโปรดเลยไม่ได้อยู่แค่ใน
สื่อกระแสหลักแบบเก่าก่อน ยิ่งมีช่องทางทั้งเฟซบุ๊ก ยูทูบ ทวิตเตอร์ ฯลฯ ยิ่ง
ตามติดได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะใน อินสตาแกรม ที่นอกจากสามารถพูดคุยกัน
โดยตรง ยังจะได้เห็นไลฟ์สไตล์สุดชิคผ่านรูปสวยๆ
อินสตาแกรมของเหล่าดาราเลยมีคนคลิกขอเป็นผู้ติดตามกันมากมาย บางราย
ก็ถึง 5-6 แสนรายโน่น หลายคนเลยหัวใสใช้เป็นช่องทางทำรายได้ ประกาศ
ขายสินค้าของตัวเองผ่านอินสตาแกรมแบบชัดๆ โต้งๆ
ขณะเดียวกันอีกหลายคนหัวใสกว่า เพราะรู้ว่าถ้าทำเหมือนสินค้าเหล่านั้นเป็น
ของที่ใช้จริง กินจริง ในชีวิตประจำวัน ของเหล่านั้นจะขายดีกว่า เพราะว่าใครๆ
ก็อยากใช้ อยากเป็นเหมือนดาราที่ตัวชอบนี่นา
เดี๋ยวนี้อินสตาแกรมดาราบางคนจึงกลายเป็นสถานที่โฆษณาแฝงที่มาแบบ
เนียนซะจนคนดูไม่ทันได้รู้ตัว กลายเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดแบบใหม่ที่บริษัท
โฆษณาหลายแห่งนำมาใช้ และดาราก็ยินดีให้ความร่วมมือ แลกกับค่าจ้าง โดย
ไม่ต้องลงแรงอะไรมาก นอกจากแค่ถ่ายรูปแล้วอัพโหลด
วิธีการก็ไม่ยาก แค่รูปที่ว่าต้องมีตัวดาราคู่สินค้า จัดวางภาพให้ดูไม่ขวางตา ซึ่ง
แปลว่าไม่ให้เหมือนยัดเยียด แค่ให้ดูราวกับเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตแค่นั้น เพราะแค่
เห็น "แฟน" ส่วนใหญ่เชื่อว่าอะไรก็ตามที่ไอดอลเลือกใช้ย่อมต้องดีที่สุดแล้ว
จะย่อมอยากลองใช้เสื้อผ้า เครื่องสำอาง ของใช้ประจำวัน รวมถึงไปทานร้าน
อาหารร้านเดียวกับดารา
ต่อไปถ้าเห็นรูป "มื้อเย็นวันนี้" พร้อมระบุว่า @ ที่ไหน, เห็นคำ "อร่อยมาก" @
ที่ใด ก็ต้องตัดสินใจละว่าอร่อยจริงหรือแค่โฆษณา!! ส่วนการอัพโหลดที่ว่าจะ
ต้องมีจำนวนกี่รูป ตอนถ่ายต้องมีแอ๊กชั่นอย่างไร หรืออัพโหลดผ่านช่องทางใด
บ้างก็แล้วแต่ตกลง จากนั้นจึงค่อยคำนวณราคากัน
วิธีดังกล่าวว่ากันว่าควรระวังเรื่อง "ความเนียน" อย่าให้คนดูจับได้ ไม่เช่นนั้น
อาจสร้างความไม่ไว้วางใจต่อตัวดารา และหมดความชื่นชอบ
ดังนั้น ก่อนเล่นอินสตาแกรมครั้งหน้าเลยต้องท่องจำให้ขึ้นใจว่า "โปรดใช้
วิจารณญาณในการรับชม"
ที่มา ประชาชาติธุรกิจ