เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 21 ก.ย. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า พ.ต.ท.สันติ ปัญญาวงศ์ พนักงานสอบสวน (สบ 2)สน.คลองตัน รับแจ้งเหตุมีกลุ่มวัยรุ่นใช้อาวุธปืนยิงถล่มคู่อริ  เหตุเกิดบริเวณซอยเอกมัย 30 หรือชุมชนนวลจิต แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม.จึงรุดตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.คลองตัน

 ที่เกิดเหตุภายในซอยเอกมัย 30 ประมาณ 20 เมตร พบกลุ่มวัยรุ่นประมาณกว่า 10 คนยืนอยู่ด้วยสีหน้าตื่นตกใจ ใกล้กันพบรถยนต์เก๋ง โตโยต้าโคโลร่า สีเทา ทะเบียน ฎอ 5480 กทม.จอดอยู่ริมฟุตบาธ สภาพมีรอยถูกอาวุธปืนยิงที่กระจกด้านหน้า 3 นัด ด้านหลังอีก 2 นัด บนฟุตบาธมีรถจักรยานยนต์จอดอยู่มีสภาพรอยถูกยิงยางหน้าแตก 

 นอกจากนี้บ้านเรือประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงอีก 2 หลังยังพบรอยถูกอาวุธปืนยิงที่คอมเพรสเซอร์แอร์ และประตูได้รับความเสียหาย ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ยังพบปลอกกระสุนปืน 16 ปลอก เป็นปลอกกระสุนปืนคาบิน 11ปลอก ปลอกกระสุนขนาด 11 ม.ม.อีก 5 ปลอก เศษหัวกระสุนอีก 5 หัว เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

 สอบสวนนายชัชชัย วิหกเสรี อายุ 31 ปี ให้การว่า  ก่อนเกิดเหตุตนพร้อมกลุ่มเพื่อนและรุ่นน้องรวมกว่า 10 คน ไปเที่ยวสถานบันเทิง เรือนทะเล ถ.เพชรพระราม ใกล้กับซอยโรงปูน ดื่มกินกันอยู่ในสถานบันเทิงดังกล่าวถึงเช้า จนทราบว่ากลุ่มเพื่อนรุ่นน้องตนเกิดเขม่นกับกลุ่มวัยรุ่นซอยโรงปูน  พอออกมาตนก็เข้าไปไกล่เกลี่ยกับกลุ่มดังกล่าว เพราะรู้จักกันไม่อยากให้มีปัญหามีเรื่องวิวาทกัน ก่อนจะแยกย้ายไป จากนั้นกลุ่มตนก็มาตั้งวงดื่มเหล้ากันต่อที่จุดเกิดเหตุ กระทั่งช่วงเวลาประมาณ 06.00 น.กลุ่มวัยรุ่นซอยโรงปูนขับรถจักรยานยนต์มา 2 คัน มากัน 4 คน แล้วก็ชักปืนยิงขึ้นฟ้า ตนเลยเข้าไปห้ามปรามและขอร้อง โดยฝ่ายนั้นตะโกนมาว่า อย่าเข้ามา  ถ้าเข้ามากูยิง ตนจึงนิ่งแล้วพูดไกล่เกลี่ยจนพากันกลับไป ต่อมาช่วงเวลา 08.00 น. กลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวก็ย้อนกลับมาใหม่ คราวนี้มากัน 3 คน ใช้มอเตอร์ไซค์ 2 คัน จากนั้นทั้ง 3 คนก็เดินมากระหน่ำยิงใส่รถเก๋งของน้องที่จอดอยู่จนได้รับความเสียหาย

 นายวัชรินทร์ โกวัน อายุ 27 ปี กล่าวว่า ตนเป็นเจ้าของรถเก๋งที่ถูกกระหน่ำยิงใส่  ซึ่งตนเข้าใจว่ากลุ่มที่มาก่อเหตุน่าจะพุ่งเป้ามาที่ตนและกลุ่มเพื่อนที่ไปเที่ยวด้วยกัน  ตนสังเกตเห็นคนที่มาก่อเหตุยิงนั้นเป็นคนรู้จัก ชื่อนายสนธยา ไม่ทราบนามสกุล อายุประมาณ 30 ปี นายเบียร์  และนายดำ หลานนายสนธยา  ทั้งสามคนใช้ปืนยาวซึ่งทราบภายหลังเป็นปืนคาร์บิน ส่วนอีก 2 คนใช้ปืนสั้นขนาด 11 ม.ม.โดยกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวยิงถล่มใส่ไม่ยั้ง ทั้งที่ตอนเกิดเหตุมีคนเดินพลุกพล่าน ทุกคนต่างพากันแตกกระเจิงหนีเอาชีวิตรอด โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต 

 "ส่วนสาเหตุที่เกิดขึ้นผมมั่นใจว่าเป็นรุ่นน้องของกลุ่มผมกับกลุ่มของนายสนธยาเขม่นกัน เต้นกวนกันในผับ โดยรุ่นน้องพากันเต้นท่ากังนัมสไตล์ยั่วยุกันไปมา แต่พวกผมก็เคลียร์ใจกันแล้ว นึกว่าเรื่องจะจบ แต่กลุ่มนายสนธยาไม่ยอมจบจึงมาก่อเหตุ" นายวัชรินทร์ ระบุ

 ด้านพ.ต.ท.สันติ กล่าวว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุกับกลุ่มผู้เสียหายรู้จักกันมาก่อน แต่เกิดเขม่นกันในสถานบันเทิงก่อนจะมาก่อเหตุที่อุกอาจขึ้น คาดว่าน่าจะติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุได้ไม่ยาก เนื่องจากกลุ่มผู้เสียหายรู้จักชื่อและหน้าตาเป็นอย่างดี และได้ประสานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนติดตามจับกุมดำเนินคดีต่อไป