ศาลจีน สอบ "หน่อคำ" หัวหน้ากองกำลังติดอาวุธ-ค้ายาคนดังของแม่น้ำโขง สารภาพ ยิงสังหารลูกเรือจีนและโยนความผิดให้ทหารไทย

สำนัก ข่าว ซีซีทีวีของทางการจีน รายงานข่าวเกี่ยวกับการดำเนินคดี นายจาย หน่อคำ อายุ 44 ปี หัวหน้ากองกำลังติดอาวุธในแม่น้ำโขง ซึ่งถูกทางการจีน และ สปป.ลาว จับกุมตัวได้ เมื่อวันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา ในเขตแขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว หลังเกิดเหตุ ฆ่าลูกเรือจีน 13 ศพ บนเรือจีน 2 ลำ เมื่อวันที่ 5 ธ.ค.2554 ซึ่งได้เผยแพร่ภาพ นายหน่อคำ ถูกควบคุมตัวด้วยโซ่ตรวน เดินเข้าห้องสอบสวนด้วยผ้าคลุมหัว ก่อนจะรายงานว่า นายหน่อคำ ถูกสอบสวนอยู่ที่เมืองคุนหมิง มณฑลหยุนหนาน ประเทศจีน

ซึ่งศาลจีน เริ่มกระบวนการฟ้องร้องต่อ นายหน่อคำ และอีก 6 คน ที่ถูกกล่าวหาฆาตรกรรมโดยเจตนา ค้ายาเสพติด ลักพาตัวและปล้นเรือจีน นายหน่อคำ รับสารภาพว่า ได้วางแผนและทำการฆาตรกรรมหมู่ โดยสมาชิก 5 คน จากนั้น พวกเขายังป้ายความผิดให้ทหารไทย ซึ่งคิดว่าเรือบรรทุกสินค้าจีนดังกล่าว บรรทุกยาเสพติด ซึ่งสิ่งนั้นจะช่วยปิดร่องรอยฆาตรกรได้ โดยกลุ่มของ นายหน่อคำ กว่า 100 คน ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวอยู่ภูมิภาคสามเหลี่ยมทองคำ ทั้งก่อเหตุฆาตกรรมหมู่ ค้ายาเสพติด ปล้น แบล็กเมล์ และเรียกเงินค่าคุ้มครองในแม่น้ำโขง

สำหรับเรือสินค้าจีน ที่ถูกปล้นและฆ่า 13 ศพดังกล่าว มีอยู่ 2 ลำ คือ เรือบรรทุกกระเทียมและแอปเปิล และเรือบรรทุกน้ำมันเชื้อเพลิง ที่แล่นตามกันมาจากประเทศจีน จนกระทั่งถึงบริเวณบ้านสมพู ห่างจากสามเหลี่ยมทองคำ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ประมาณ 25 กม. ติดฝั่งประเทศพม่า ได้ถูกฆาตรกรรม จากนั้น เรือถูกลอยลำยังติดฝั่งบ้านสบรวก หมู่ 1 ต.เวียง อ.เชียงแสน เจ้าหน้าที่ทหาร กองกำลังผาเมืองของไทย เข้าควบคุมเรือ และตรวจสอบพบศพและอาวุธปืนเล็กกลเอสเค 47 จำนวน 1 กระบอก ยาบ้าบนเรือทั้ง 2 ลำ รวมกว่า 920,000 เม็ด

หลังจากนั้น ทางการไทย ถูกประเทศจีน กดดันให้เร่งตรวจสอบดำเนินคดีอย่างหนัก จนเป็นเหตุให้ ทางการไทย ได้ดำเนินคดีกับทหารไทย จำนวน 9 นาย ในข้อหาฆ่าผู้อื่น และปิดบังซ่อนเร้นศพ และ ไทย จีน พม่า ลาว ได้มีการจัดตั้งกองกำลังคุ้มกันแม่น้ำโขง โดยไทยตั้งเป็นศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดในแม่น้ำโขง มีศูนย์บัญชาการอยู่ที่ท่าเรือเชียงแสน